ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ มอบนโยบายการแก้ไขกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้นอกระบบและการแก้ไขปัญหายาเสพติด และตรวจราชการจังหวัดนครพนม โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตรวจเยี่ยมมินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลนาหว้า อำเภอนาหว้า พร้อมรับฟังการบรรยายสรุป รายงาน การดำเนินงานปัญหาและข้อเสนอแนะในการให้บริการ ณ โรงพยาบาลนาหว้า จากนั้นใน เวลา 10.30 น. ได้เดินทางมามอบนโยบายแก่ส่วนราชการ และสร้างการรับรู้การแก้ไขกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้นอกระบบและการแก้ไขปัญหายาเสพติด แก่มวลชนในพื้นที่ ณ หอประชุมอำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม โดยมี นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เขต 1 พรรคเพื่อไทย , นายวิรัช พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย, นายนิพนธ์ คนขยัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬ พรรคเพื่อไทย และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ และ นายกัมปนาทจักรวาล วิเวศ ศรีพุทธา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมร่วมให้การต้อนรับ
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวระหว่างการมอบนโยบายว่า มนุษย์ทุกคนต่างมีความหวัง ความฝัน คือ ฝันอยากให้ลูกหลานดีขึ้น อยากให้ชีวิตดีขึ้น ร่ำรวย โดยเฉพาะภาคอีสาน พบว่าอยากถูกหวยรางวัลที่ 1 แต่ความกลัวอันดับ 1 คือ กลัวลูกจะตายทั้งเป็นจากสภาพการติดยาเสพติด
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวอีกว่า วันที่ 26 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ จะเป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก จึงอยากฝากผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนายอำเภอ ลองดูว่าในอีก 10 วันจากนี้ เราจะทำอย่างไร เราทุกคนจะมีความเข้าใจและรู้สึกร่วมกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ความสุข, สันติสุข และสุขภาพ กับ ยาเสพติด จะเป็นสิ่งคู่ขนานกัน สังคมใดมียาเสพติดสังคมนั้นจะไม่มีความสุข คนในสังคมจะอ่อนแอ หรือประเทศนั้นจะไม่เจริญทุกข์ ถูกด้อยค่า
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวกับนายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เขต 1 ว่า ท่านได้เชิญตนมาหลายวันแล้ว แต่ตนและคณะติดภารกิจศึกษาดูงานที่ประเทศโปรตุเกส, เยอรมัน ซึ่งวันนี้มีโอกาสมาเยือน จึงขอเยี่ยมดเขตเลือกตั้งของท่าน เพราะจากความตั้งใจของท่านที่จริงจังกับการต่อต้านยาเสพติด เป็นที่รู้จักกันทั้งประเทศ ถึงขนาดเคยร้องไห้กลางสภา เพราะทนไม่ได้ที่จะเห็นสังคมหรือชุมชนของตัวเองต้องอ่อนแอเพราะยาเสพติด
”อยากเรียนว่า ในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนไม่ใช่คนที่จะรับใช้รัฐบาล จำเป็นรัฐบาลที่จะต้องรับใช้ประชาชน เราจะหาผู้นำที่ห่วงประชาชนแบบท่านภูมิพัฒน์ เป็นเรื่องยาก ตอนนี้ทุกข์ของประชาชน คือ เรื่องยาเสพติด วันนี้เราจึงต้องสนใจเรื่องซึ่งเป็นทุกข์ของประชาชน โดยเฉพาะในภาคอีสานตอนบน“ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว
”ในภาคเหนือ มียาบ้าแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศจำนวนมากนับล้านเม็ด แต่มีผู้ติดยาเสพติดน้อย เพราะยาเสพติดถูกลำเลียงไปยังภาคกลาง, ภาคใต้ ก่อนลำเลียงออกนอกประเทศ ขณะที่ภาคอีสาน เช่น จังหวัดนครพนมที่มีการตรวจยึดได้หลายครั้ง ครั้งละแสนเม็ด ที่จำนวนไม่ถึงล้านเพราะจำนวนยาบ้าต้องการนำมาขายจำหน่ายในจังหวัดนครพนม เข้ามาทำลายลูกหลานในพื้นที่ เป็นเหตุให้มีผู้เสพและผู้ติดจำนวนมาก วันนี้เป็นวาระที่สำคัญ ที่เราจะมาแก้ปัญหายาเสพติด“
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า ไม่ใช่แค่ยาเสพติดเรื่องเดียวที่จะพูด แต่จะทำอย่างไรให้อนาคตของเราดีขึ้น ชีวิตดีขึ้น รัฐบาลประกาศแก้ปัญหา หนึ่งในเรื่องใหญ่ คือ การแก้ปัญหาหนี้สิน ซึ่งเมื่อต้องพูดเรื่องนี้ในต่างประเทศแล้วถือเป็นเรื่องน่าอับอาย คือ หนี้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(หนี้ กยศ.) ทั้งๆ ที่การศึกษา เป็นสิ่งที่จะทำให้คนเรามีชีวิตที่ดีขึ้น หรือประเทศไทยมีงบประมาณด้านการศึกษามากที่สุดในอาเซียน หรืออาจเป็นอันดับ 2 ของโลก ที่เฉลี่ยต่อหัวประมาณ 6 หมื่นบาท แต่นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด กว่าร้อยละ 80% เป็นหนี้ กยศ. ที่น่าเสียใจ คือ ในเรือนจำจังหวัดนครพนมกว่า 77% หรือในบางเรือนจำมีมากถึง 80% มีการศึกษาต่ำกว่าภาคบังคับหรือที่รัฐจัดให้เรียนฟรี
ขณะเดียวกัน พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า การวัดความเจริญของประเทศต่างๆ เขาวัดกันทีความรู้ของคน ยกตัวอย่างประเทศกาตาร์ที่มีพื้นที่เล็กนิดเดียว อาจจะเล็กกว่าจังหวัดนครพนม แต่รวยที่สุดในโลก เพราะเขาให้เรียนฟรีมีคุณภาพ อาหาร 3 มื้อฟรี หรือดูงานต่างประเทศฟรี ส่วนประเทศไทยอยากเรียนหนังสือ อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ยังต้องไปกู้เงินเรียน รัฐบาลสมัยที่แล้ว มีการแก้ไขกฎหมาย หนี้ กยศ.แล้ว มีการปรับลดเบี้ยปรับ จากเดิมคิดอัตรา 18% และลดดอกเบี้ยที่ติดในอัตรา 25.5% พวกเขาอยากมีอนาคตที่ดี ต้องไปกู้เงิน “คนกลุ่มลูกหนี้กยศ. ไม่ติดยาเสพติดก็บุญแล้ว เฉพาะจังหวัดนครพนม มีลูกหนี้ กยศ.จำนวน 35,318 คน มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท มีการถูกบังคับคดีเกือบ 3 พันคน ถูกฟ้องอีกกว่า 6 พันคน รวมเป็นหมื่นคนที่เป็นหนี้ กยศ.ยังไม่นับรวมหนี้ครัวเรือน
หลังแก้ไขกฎหมายหนี้ กยศ.ให้มีผลย้อนหลัง ตนมีแผนแก้ปัญหาลูกหนี้กยศ. ที่จังหวัดนครพนมว่า ให้ผู้จัดการ กยศ. ส่งรายชื่อลูกหนี้กยศ.จังหวัดนครพนม มอบให้ผู้ว่าฯ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและยุติธรรมชุมชน ไปบอกกับพวกเขาที่มีกว่า 3 หมื่นคน ได้ทราบว่าการบังคับคดีครั้งต่อไป จะมีการปลดผู้ค้ำกับผู้ที่อยู่ระหว่างการบังคับคดีต้องไปดำเนินการเซ็นสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ และยังสามารถลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับได้เกือบ 400 ล้านบาท เป็นจำนวนมากมายสำหรับคนจน คนอดมื้อกินมื้อ วันนี้ ประเทศไทยจึงยังไม่มีความก้าวหน้าเพราะยังมีหนี้ครัวเรือนจำนวนมาก โดยเฉพาะหนี้ กยศ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น ในเวลา 11.15 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ เดินทางมามอบนโยบาย และรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ณ ที่ว่าการอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม พร้อมกับ ตรวจเยี่ยมและรับฟังความคิดเห็น ณ ศูนย์มินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลศรีสงคราม โดยมี นางสาวกรณ์กาญจน์ แก้วดี นายอำเภอศรีสงคราม, พ.ต.อ.ศรีนคร นัยวัฒน์ ผกก.สภ.ศรีสงคราม, นายแพทย์วรกาล ธิปกะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสงคราม และนายมานพ ยะภักดี สาธารณสุขอำเภอศรีสงคราม ร่วมให้การต้อนรับ ทั้งนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ยังกล่าวให้กำลังใจผู้ที่เข้ามาบำบัดฟื้นฟู และเยี่ยมชมเรือนนอนภายในโรงพยาบาลด้วย
จากนั้น ในเวลา 14.00 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมามอบนโยบาย และรับฟังความคิดเห็น ณ อาคารโดม โรงเรียนอนุบาลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง ก่อนตรวจพื้นที่ริมแม่น้ำโขง จุดสกัดเส้นทางลำเลียงยาเสพติด กัญชา และสินค้าหนีภาษี ที่บ้านดอนแพง อำเภอบ้านแพง ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ในเวลา 19.45 น.