วันเสาร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2568

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำเรือนจำกลางบางขวาง กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม จัดกิจกรรมงานวันเด็ก 2568

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาร่วมกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 บริเวณเรือนจำกลางบางขวาง ถนนนนทบุรี 1 ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี พร้อมกับพบปะกับน้อง ๆ เยาวชน และสนทนาพูดคุย แลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้ปกครองที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมวันเด็ก 2568 ด้วย โดยมี นายยุทธนา นาคเรืองศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง, นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี, ดร.พงษ์อภินันท์ จันกลิ่น เลขานุการกรมราชทัณฑ์ และ ดร.วริศรา ศิริสุทธิเดชา  ผูัอำนวยการกองพัฒนาพฤตินิสัย ร่วมให้การต้อนรับ 

สำหรับกิจกรรม ในวันนี้ ประกอบด้วยการเล่นเกม ตอบปัญหาเกี่ยวกับกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม กิจกรรมเต้นเข้าจังหวะ เหยียบลูกโป่ง ฯลฯ โดยบรรยากาศภายในเรือนจำกลางบางขวาง กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เป็นไปอย่างคึกคัก มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันออกบูธพร้อมแจกขนม ของกินและของเล่นแก่เด็กๆ ที่เข้าร่วมงานจำนวนมาก โดย ผู้ปกครองต่างนำน้อง ๆ เยาวชนขอถ่ายรูปคู่กับ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ด้วย 

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ขอขอบคุณเรือนจำกลางบางขวางเป็นอย่างยิ่ง ที่จัดกิจกรรมการเยี่ยมญาติและกิจกรรมงานวันเด็ก 2568 ในวันนี้ สำหรับในประเทศไทย ถ้าพูดถึงเรือนจำกลางบางขวาง ส่วนใหญ่ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่เรือนจำกลางบางขวางจะเป็นโทษหนักหรือนักโทษประหารชีวิต แต่ในการจัดให้เยี่ยมญาติในวันนี้  เรามองว่ามนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีคุณค่าและมีความสำคัญ การก้าวพลาดไปอยู่ในราชทัณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดสำหรับผู้ที่กระทำผิด แต่ก็มีสิทธิ์มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กฎหมายอนุญาตให้ได้รับการเยี่ยมเยียนจากญาติและบุคคลทั่วไป วันนี้ถือเป็นกิจกรรมที่คนข้างในไม่คิดว่าจะมี แต่เรามีลูกหลานมาเยี่ยมญาติเนื่องในวันเด็ก 2568 ซึ่งผมอยากให้พวกเราให้กำลังใจ 


"เราต้องการอนาคตที่ดี เราต้องส่งเสริมเด็กและเยาวชน อยากให้มีความคิดว่า เด็กทุกคนไม่ใช่หน้าที่เฉพาะของพ่อแม่เท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของคนทุกคนทั้งในชุมชน และสังคมด้วย ที่เราต้องร่วมกันดูแล ให้คุณค่าแก่เด็กและเยาวชน เพราะเขาก็คือ ผู้ที่จะมาสร้างอนาคตที่ดีให้กับประเทศ และในวันนี้ ผมขอให้น้อง ๆ เยาวชนมีความสุขสมหวังตลอดไปครับ" พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้เดินเยี่ยมร้านหับเผย โดยกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ฝีมือผู้ต้องขัง และร่วมรับประทานอาหารคุกแอนด์คอฟ @บางขวาง สนานาร่วมกับญาติผู้ต้องราชทัณฑ์ และพูดคุยกับประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานในวันนี้ด้วย ก่อนเดินทางกลับในเวลา 14.45 น.



















พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดโรงเรียนช่างสิบหมู่ เรือนจำพิเศษธนบุรี มรดกศิลป์แผ่นดิน-สืบสานภูมิปัญญาไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากเรือนจำพิเศษธนบุรี ว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดโรงเรียนช่างสิบหมู่ เรือนจำพิเศษธนบุรี โดยมี นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายอำนวย เปรมกิจพรพัฒนา ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษธนบุรี เข้าร่วมพิธี

โอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก นางสาวกรวรรณ อาธารมาศ ผู้พิพากษาศาลฎีกาช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาตลิ่งชัน นางจันทร์กระพ้อ ต่อสุวรรณ สินธวถาวร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงธนบุรี นายสุวิพันธ์ สุระประเสริฐ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงบางบอน นางสาวพัสสรณ์สิริ ประสิทธิ์ รองผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนกาญจนาภิเษก (วิทยาลัยในวัง) พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน เข้าร่วมพิธีฯ ด้วย ณ เรือนจำพิเศษธนบุรี

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า การเปิดโรงเรียนช่างสิบหมู่ในวันนี้ เป็นการน้อมนำพระราชปณิธานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาเป็นแนวทางในการดำเนินงานนำศิลปะ เพื่อกล่อมเกลา แก้ไข และพัฒนาพฤตินิสัยผู้ก้าวพลาด อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงยุติธรรมในการให้โอกาสกับผู้ที่อยู่หลังกำแพงที่จะได้รับการศึกษา การอบรมฝึกอาชีพ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมศักยภาพของผู้ก้าวพลาดในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง ยกระดับศักยภาพของผู้กระทำผิด และเป็นการป้องกันการกลับมากระทำผิดซ้ำอย่างยั่งยืนต่อไป




“เรือนจำพิเศษธนบุรี เราเรียกว่าเป็นเรือนจำวิชาชีพ ผู้ต้องราชทัณฑ์เมื่อเข้ามาเราจะจำแนกเพื่อพัฒนาพฤตินิสัย ซึ่งเราเน้นการสร้างอาชีพให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ เรือนจำแห่งนี้ค่อนข้างใหญ่ มีผู้ต้องราชทัณฑ์กว่า 4,000 คน เราต่อยอดเรื่องช่างสิบหมู่ ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม ที่มีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนวันนี้เราได้เปิดเป็นโรงเรียนช่างสิบหมู่ นอกจากเรื่องการพัฒนาอาชีพแล้ว เรายังแสดงให้เห็นว่า เรือนจำเป็นโรงเรียน เราได้มีการเรียนการสอน ซึ่งจะมีการพัฒนาในระยะยาว เราเชื่อว่าจะเกิดความยั่งยืนโดยเฉพาะเรื่องศิลปวัฒนธรรมเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ดีที่มีคุณค่า นอกจากที่เราชื่นชม-ภูมิใจแล้ว เราต้องเผยแพร่ด้วย ซึ่งโรงเรียนช่างสิบหมู่ตอนนี้ตั้งอยู่ในราชทัณฑ์ ชี้ให้สังคมเห็นว่าราชทัณฑ์ก็เป็นโรงเรียนและได้รับการพัฒนาจากทุกภาคส่วน“ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว

โอกาสนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมชมการแสดงความสามารถของผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษธนบุรี จำนวน 2 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 การแสดงโขนประยุกต์ ชื่อการแสดง "นาคบาศ" และชุดที่ 2 การแสดงศิลปะประกอบดนตรี ชื่อการแสดง "ศาสตร์-สะบัด" จากนั้น ได้เยี่ยมชมพื้นที่การเรียนภาคทฤษฎีจากวีดิทัศน์ และอาจารย์ผู้สอน รวมทั้งการจัดแสดงผลงานฝีมือผู้ต้องขัง พื้นที่การเรียนจิตรกรรมสีน้ำมัน (การเขียนภาพสีน้ำมัน) ช่างปั้น (ประติมากรรม) พื้นฐานการเขียนลายไทย ช่างหุ่น งานหัตถศิลป์ งานหัวโขน งานหุ่นกระบอก งานหุ่นละคร ช่างเขียนจิตรกรรมไทยวาดเส้น การเขียนภาพสีน้ำ ช่างบุดุน ช่างรัก ช่างหล่อ ช่างกลึง ช่างแกะ ช่างสลัก การวาดเส้น การเขียนภาพสีน้ำ และเยี่ยมชมมุม "สืบสาน งานศิลป์" จากพี่สู่น้อง





ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรม โดยเรือนจำพิเศษธนบุรี กรมราชทัณฑ์ ได้พัฒนาการฝึกวิชาชีพช่างสิบหมู่ในทุกมิติ จึงมีความพร้อมที่จะต่อยอดจากศูนย์ฝึกอบรมอาชีพด้านช่างสิบหมู่ขึ้นเป็น “โรงเรียนช่างสิบหมู่” เพื่อดำเนินการตามแผนและนโยบายของกรมราชทัณฑ์ที่จะส่งเสริมและพัฒนาการฝึกวิชาชีพช่างสิบหมู่ให้มีมาตรฐานในระดับสากล และเปิดโอกาสให้ผู้ก้าวพลาดได้รับการพัฒนาพฤตินิสัยที่มีความหลากหลาย และคงไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรมของไทย









วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2567

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่เร่งฟื้นฟูจังหวัดชายแดนใต้ ระดมกำลังผู้ต้องราชทัณฑ์ทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน-ซ่อมรถจักรยานยนต์ที่เสียหายจากอุทกภัย ย้ำรัฐบาลดูแลเต็มที่


ผู้สื่อข่าวรายงานจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ว่า เมื่อช่วงเข้าที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ เดินทางมายังท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เพื่อเดินทางต่อไปยังเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ถนนสุริยะประดิษฐ์ ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย และแผนการแก้ไขปัญหา พร้อมมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในโครงการร่วมแรงซ่อมรถจักรยานยนต์ที่เสียหายจากอุทกภัย โดยความร่วมมือระหว่าง กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม, มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) รวมทั้งยังมีบริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกด้วย เปิดโอกาสให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ได้ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งมอบถุงยังชีพให้กับผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาส เพื่อนำไปมอบให้กับประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ด้วย 

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาอุทกภัยในหลายจังหวัดของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ในขณะนี้ปริมาณน้ำในหลายพื้นที่ลดลงสู่สภาวะปกติ แต่ปัญหาสำคัญคือการฟื้นฟูสภาพบ้านเรือน โดยเฉพาะการทำความสะอาดอาคารบ้านเรือนและร้านค้าในเขตเศรษฐกิจ ซึ่งได้สั่งการให้เรือนจำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นำผู้ต้องราชทัณฑ์ออกช่วยเหลือทำความสะอาดพื้นที่สาธารณประโยชน์ ทั้งถนน ตลาดสด โรงเรียนและวัดในพื้นที่ รวมถึงการเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงที่อาศัยอยู่ในที่พักพิง และครัวประกอบอาหารของเขตเทศบาลนครยะลา

”รัฐบาลตระหนักถึงความลำบากของประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบัน จึงมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการยื่นเอกสารเยียวยาน้ำท่วมให้มีความรวดเร็วและง่ายดาย โดยจะลดขั้นตอนที่พร้อมนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อให้การเยียวยาทั่วถึงและโปร่งใส“ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ ยังได้เดินทางต่อไปยังตลาดเทศบาลตำบลบาเจาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย บริเวณตลาดเทศบาลตำบลบาเจาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส และ เดินทางต่อไปยังบ้านชะมูแว ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อมอบอุปกรณ์การซ่อมบำรุงรถจักรยานยนต์ และบริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียหายจากอุทกภัยด้วย โดยตั้งเป็นศูนย์ซ่อมฯ บริเวณ อบต. ปะลุกาสาเมาะ สำหรับเครื่องมือช่าง ละสิ่งของที่ได้รับการสนับสนุน ประกอบด้วย น้ำมันเครื่อง บล็อกถอดหัวเทียน กระดาษทราย ฯลฯ เป็นต้น 

จากนั้น ในช่วงบ่าย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ ออกจากจังหวัดนราธิวาส ไปยังเรือนจำกลางปัตตานี จังหวัดปัตตานี เข้าตรวจเยี่ยมบ้านพักของข้าราชการที่เรือนจำกลางปัตตานี และมอบถุงยังชีพให้กับผู้บัญชาการเรือนจำกลางสงขลา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางยะลา และผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี เพื่อนำไปส่งมอบให้กับประชาชนต่อไป

รวมทั้ง ยังได้เดินทางต่อไปยังบริเวณมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบภัย กว่า 500 คน โดยมี นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม รวมทั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชาติ ร่วมให้การต้อนรับ ประกอบด้วย นายซูการ์โน มะทา สส. จังหวัดยะลา, นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส, นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ สส.ปัตตานี, นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส สส.ปัตตานี, นายสุไลมาน บือแนปีแน สส.จังหวัดยะลา และ รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ร่วมกันให้การต้อนรับ 

ก่อนเดินทางไปยังห้องรับรองสนามบินบ่อทอง จังหวัดปัตตานี เพื่อประชุมกับสมาคมประมงจังหวัดปัตตานี และออกเดินทางจาก จังหวัดปัตตานี ในเวลา 17.00 น. ไปท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพมหานครต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ รวม 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา 4 อำเภอ จังหวัดปัตตานี 4 อำเภอ จังหวัดนราธิวาส 3 อำเภอ จังหวัดนครศรีธรรมราช 7 อำเภอ จังหวัดพัทลุง 5 อำเภอ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่เพื่อบรรเทาผลกระทบให้ประชาชน โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ปริมาณฝนจะลดลง ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะกลับมามีฝนตกหนักถึงหนักมากอีกครั้งในช่วงวันที่ 13–16 ธันวาคม นี้ บริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส นครศรีธรรมราช พัทลุง และสตูล จากนั้นแนวโน้มฝนจะลดลงตามลำดับ ซึ่งจะต้องมีการติดตามประเมินสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับแผนช่วยเหลือประชาชนให้เหมาะสมต่อไป







วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2567

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดการประกวดแข่งขันสวนสนามผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศ รอบชิงชนะเลิศ พัฒนาศักยภาพเป็นผู้มีระเบียบวินัย ส่งเสริมสุขภาพร่างกายแข็งแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการประกวดแข่งขันสวนสนามผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศรอบชิงชนะเลิศ โดยกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม จัดการประกวดแข่งขันสวนสนามผู้ต้องราชทัณฑ์จากเรือนจำทั่วประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมนโยบายยกระดับความมั่นคงปลอดภัย ให้ความสำคัญกับการฝึกระเบียบ วินัยให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ พัฒนาศักยภาพผู้ต้องราชทัณฑ์ให้เป็นผู้มีระเบียบวินัย เคารพ และให้เกียรติต่อผู้อื่น รวมถึงส่งเสริมสุขภาพร่างกาย ให้มีความแข็งแรง โดยมีการฝึกบุคคลท่ามือเปล่า บุคคลแถวชิด การฝึกขบวนสวนสนามให้เกิดความพร้อมเพรียง ถูกต้องตามระเบียบการสวนสนาม 


กิจกรรมดังกล่าวนับเป็นเครื่องมือหนึ่งที่กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม นำโดย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำมาใช้ในการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องราชทัณฑ์ ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ คุณธรรม และจริยธรรม ปลูกฝังความเป็นผู้นำ และผู้ตามที่ดี ฝึกฝนความอดทน ความมีระเบียบ วินัย ความสามัคคี และการเสียสละผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อส่วนรวม ประพฤติตนให้เป็น ประโยชน์ โดยเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น นอกจากนี้ ยังสามารถนำประโยชน์ที่ได้จากการสวนสนาม ไปปรับใช้ในชีวิตภายหลังพ้นโทษ และไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก เพื่อคืนคนดีมีคุณค่าสู่สังคมต่อไป 


ทั้งนี้ ผลการแข่งขัน เรือนจำกลางระยอง ชนะเลิศอันดับที่หนึ่ง ได้รับโล่เกียรติยศพร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ได้อันดับที่ 2 และ เรือนจำสมุทรปราการ ได้อันดับที่ 3 จาก 10 เขตเรือนจำทั่วประเทศไทย ⁣ในขณะที่มีผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศกว่า 600 คน มาเข้าร่วมการแข่งขัน

วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2567

เปิดกำหนดการ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดสุรินทร์

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการด้านยุติธรรม ณ จังหวัดสุรินทร์ ในวันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม 2567 และเตรียมร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ระหว่างวันที่ 1 - 2 กรกฎาคม 2567 ณ จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์

(29 มิถุนายน 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจราชการด้านยุติธรรม ก่อนจะร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ณ จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ร่วมคณะตรวจราชการด้วย


กำหนดการ ‘พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รมว. ยุติธรรม’ จังหวัดสุรินทร์


เวลาประมาณ 10.00 น. รัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ถึงเรือนจำกลางสุรินทร์ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ เพื่อร่วมประชุมหารือร่วมกับองค์การสวนสัตว์ด้านการสร้างความร่วมมือการส่งเสริมอาชีพผู้ต้องราชทัณฑ์ในการปลูกหญ้าเลี้ยงช้าง, ประชุมหารือแนวทางการแก้ปัญหาหนี้สินของผู้ต้องราชทัณฑ์ และตรวจเยี่ยมเรือนจำกลางสุรินทร์ โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เทศบาลเมืองสุรินทร์ ฯลฯ รวมทั้งส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ และเข้าประชุมหารือข้อราชการด้วย  

 

จากนั้น ในช่วงบ่าย จะเดินทางไปยังเรือนจำชั่วคราวโคกตาบัน เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่ปลูกหญ้าเนเปียร์เลี้ยงสัตว์ และการปลูกข้าวหอมสุรินทร์ ซึ่งข้าวจังหวัดสุรินทร์ มีรสชาติแตกต่างจากข้าวที่ปลูกที่อื่นทั้งที่เป็นพันธุ์เดียวกัน ปัจจัยต่าง ๆ ทำให้ ข้าวหอมสุรินทร์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้านรสชาติ และกลิ่นที่แตกต่างจากข้าวหอมมะลิที่ปลูกในพื้นที่อื่น มีเมล็ดใส เมื่อหุงสุกมีความหอมนุ่ม เป็นที่นิยมของชาวไทยและชาวต่างประเทศ และการฝึกวิชาชีพทางการเกษตรของเรือนจำชั่วคราวโคกตาบัน โดยในเวลาประมาณ 17.30 น. มีกำหนดการเดินทางไปถึงจังหวัดนครราชสีมา ต่อไป


สำหรับการเดินทางไปตรวจราชการ จังหวัดสุรินทร์ ของพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ครั้งนี้ เป็นการติดตามงานตามนโยบายรัฐบาล ที่มุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลเน้นย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการวางแผนให้ชัดเจน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว มีความรอบคอบ รวมถึงการทำงานต้องประสานสอดคล้องกันและมีความเป็นเอกภาพ มุ่งผลประโยชน์ที่เกิดต่อประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง อีกทั้ง พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังจะติดตามงานในเรื่องประเด็นยาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญเช่นกัน


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน เป็นที่อยู่ของชนหลายชาติพันธุ์ทั้ง ไทย กัมพูชา ลาว กูย ซึ่งเป็นกลุ่มชนที่มีทักษะความสามารถในด้านคชศาสตร์ ทำให้มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย หลักฐานทางโบราณคดี พื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์มีมนุษย์เข้ามาตั้งชุมชนแล้วตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย ลักษณะชุมชนเป็นเนินดินมีคูน้ำคันดินล้อมรอบ ขนาดกว้างประมาณ 1,000 เมตร ยาวประมาณ 1,300 เมตร เป็นลักษณะเฉพาะของแผนผังเมืองโบราณ

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2567

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดนครพนม มอบนโยบายแก้ปัญหายาเสพติด กวาดล้างการระบาดในพื้นที่อีสานตอนบน พร้อมประกาศแก้หนี้ กยศ. ลดภาระหนี้ประชาชน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ มอบนโยบายการแก้ไขกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้นอกระบบและการแก้ไขปัญหายาเสพติด และตรวจราชการจังหวัดนครพนม โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา  พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตรวจเยี่ยมมินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลนาหว้า อำเภอนาหว้า พร้อมรับฟังการบรรยายสรุป รายงาน การดำเนินงานปัญหาและข้อเสนอแนะในการให้บริการ ณ โรงพยาบาลนาหว้า จากนั้นใน เวลา 10.30 น. ได้เดินทางมามอบนโยบายแก่ส่วนราชการ และสร้างการรับรู้การแก้ไขกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้นอกระบบและการแก้ไขปัญหายาเสพติด แก่มวลชนในพื้นที่ ณ หอประชุมอำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม โดยมี นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เขต 1 พรรคเพื่อไทย , นายวิรัช พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย, นายนิพนธ์ คนขยัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬ พรรคเพื่อไทย และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ และ นายกัมปนาทจักรวาล วิเวศ ศรีพุทธา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมร่วมให้การต้อนรับ

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวระหว่างการมอบนโยบายว่า มนุษย์ทุกคนต่างมีความหวัง ความฝัน คือ ฝันอยากให้ลูกหลานดีขึ้น อยากให้ชีวิตดีขึ้น ร่ำรวย โดยเฉพาะภาคอีสาน พบว่าอยากถูกหวยรางวัลที่ 1 แต่ความกลัวอันดับ 1 คือ กลัวลูกจะตายทั้งเป็นจากสภาพการติดยาเสพติด

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวอีกว่า วันที่ 26 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ จะเป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก จึงอยากฝากผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนายอำเภอ ลองดูว่าในอีก 10 วันจากนี้ เราจะทำอย่างไร เราทุกคนจะมีความเข้าใจและรู้สึกร่วมกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ความสุข, สันติสุข และสุขภาพ กับ ยาเสพติด จะเป็นสิ่งคู่ขนานกัน สังคมใดมียาเสพติดสังคมนั้นจะไม่มีความสุข คนในสังคมจะอ่อนแอ หรือประเทศนั้นจะไม่เจริญทุกข์ ถูกด้อยค่า

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวกับนายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เขต 1 ว่า ท่านได้เชิญตนมาหลายวันแล้ว แต่ตนและคณะติดภารกิจศึกษาดูงานที่ประเทศโปรตุเกส, เยอรมัน ซึ่งวันนี้มีโอกาสมาเยือน จึงขอเยี่ยมดเขตเลือกตั้งของท่าน เพราะจากความตั้งใจของท่านที่จริงจังกับการต่อต้านยาเสพติด เป็นที่รู้จักกันทั้งประเทศ ถึงขนาดเคยร้องไห้กลางสภา เพราะทนไม่ได้ที่จะเห็นสังคมหรือชุมชนของตัวเองต้องอ่อนแอเพราะยาเสพติด



”อยากเรียนว่า ในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนไม่ใช่คนที่จะรับใช้รัฐบาล จำเป็นรัฐบาลที่จะต้องรับใช้ประชาชน เราจะหาผู้นำที่ห่วงประชาชนแบบท่านภูมิพัฒน์ เป็นเรื่องยาก ตอนนี้ทุกข์ของประชาชน คือ เรื่องยาเสพติด วันนี้เราจึงต้องสนใจเรื่องซึ่งเป็นทุกข์ของประชาชน โดยเฉพาะในภาคอีสานตอนบน“ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว

”ในภาคเหนือ มียาบ้าแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศจำนวนมากนับล้านเม็ด แต่มีผู้ติดยาเสพติดน้อย เพราะยาเสพติดถูกลำเลียงไปยังภาคกลาง, ภาคใต้ ก่อนลำเลียงออกนอกประเทศ ขณะที่ภาคอีสาน เช่น จังหวัดนครพนมที่มีการตรวจยึดได้หลายครั้ง ครั้งละแสนเม็ด ที่จำนวนไม่ถึงล้านเพราะจำนวนยาบ้าต้องการนำมาขายจำหน่ายในจังหวัดนครพนม เข้ามาทำลายลูกหลานในพื้นที่ เป็นเหตุให้มีผู้เสพและผู้ติดจำนวนมาก วันนี้เป็นวาระที่สำคัญ ที่เราจะมาแก้ปัญหายาเสพติด“

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า ไม่ใช่แค่ยาเสพติดเรื่องเดียวที่จะพูด แต่จะทำอย่างไรให้อนาคตของเราดีขึ้น ชีวิตดีขึ้น รัฐบาลประกาศแก้ปัญหา หนึ่งในเรื่องใหญ่ คือ การแก้ปัญหาหนี้สิน ซึ่งเมื่อต้องพูดเรื่องนี้ในต่างประเทศแล้วถือเป็นเรื่องน่าอับอาย คือ หนี้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(หนี้ กยศ.) ทั้งๆ ที่การศึกษา เป็นสิ่งที่จะทำให้คนเรามีชีวิตที่ดีขึ้น หรือประเทศไทยมีงบประมาณด้านการศึกษามากที่สุดในอาเซียน หรืออาจเป็นอันดับ 2 ของโลก ที่เฉลี่ยต่อหัวประมาณ 6 หมื่นบาท แต่นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด กว่าร้อยละ 80% เป็นหนี้ กยศ. ที่น่าเสียใจ คือ ในเรือนจำจังหวัดนครพนมกว่า 77% หรือในบางเรือนจำมีมากถึง 80% มีการศึกษาต่ำกว่าภาคบังคับหรือที่รัฐจัดให้เรียนฟรี

ขณะเดียวกัน พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า การวัดความเจริญของประเทศต่างๆ เขาวัดกันทีความรู้ของคน ยกตัวอย่างประเทศกาตาร์ที่มีพื้นที่เล็กนิดเดียว อาจจะเล็กกว่าจังหวัดนครพนม แต่รวยที่สุดในโลก เพราะเขาให้เรียนฟรีมีคุณภาพ อาหาร 3 มื้อฟรี หรือดูงานต่างประเทศฟรี ส่วนประเทศไทยอยากเรียนหนังสือ อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ยังต้องไปกู้เงินเรียน รัฐบาลสมัยที่แล้ว มีการแก้ไขกฎหมาย หนี้ กยศ.แล้ว มีการปรับลดเบี้ยปรับ จากเดิมคิดอัตรา 18% และลดดอกเบี้ยที่ติดในอัตรา 25.5% พวกเขาอยากมีอนาคตที่ดี ต้องไปกู้เงิน “คนกลุ่มลูกหนี้กยศ. ไม่ติดยาเสพติดก็บุญแล้ว เฉพาะจังหวัดนครพนม มีลูกหนี้ กยศ.จำนวน 35,318 คน มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท มีการถูกบังคับคดีเกือบ 3 พันคน ถูกฟ้องอีกกว่า 6 พันคน รวมเป็นหมื่นคนที่เป็นหนี้ กยศ.ยังไม่นับรวมหนี้ครัวเรือน



หลังแก้ไขกฎหมายหนี้ กยศ.ให้มีผลย้อนหลัง ตนมีแผนแก้ปัญหาลูกหนี้กยศ. ที่จังหวัดนครพนมว่า ให้ผู้จัดการ กยศ. ส่งรายชื่อลูกหนี้กยศ.จังหวัดนครพนม มอบให้ผู้ว่าฯ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและยุติธรรมชุมชน ไปบอกกับพวกเขาที่มีกว่า 3 หมื่นคน ได้ทราบว่าการบังคับคดีครั้งต่อไป จะมีการปลดผู้ค้ำกับผู้ที่อยู่ระหว่างการบังคับคดีต้องไปดำเนินการเซ็นสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ และยังสามารถลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับได้เกือบ 400 ล้านบาท เป็นจำนวนมากมายสำหรับคนจน คนอดมื้อกินมื้อ วันนี้ ประเทศไทยจึงยังไม่มีความก้าวหน้าเพราะยังมีหนี้ครัวเรือนจำนวนมาก โดยเฉพาะหนี้ กยศ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น ในเวลา 11.15 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ เดินทางมามอบนโยบาย และรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ณ ที่ว่าการอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม พร้อมกับ ตรวจเยี่ยมและรับฟังความคิดเห็น ณ ศูนย์มินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลศรีสงคราม โดยมี นางสาวกรณ์กาญจน์  แก้วดี นายอำเภอศรีสงคราม, พ.ต.อ.ศรีนคร นัยวัฒน์ ผกก.สภ.ศรีสงคราม, นายแพทย์วรกาล  ธิปกะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสงคราม และนายมานพ  ยะภักดี  สาธารณสุขอำเภอศรีสงคราม ร่วมให้การต้อนรับ ทั้งนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ยังกล่าวให้กำลังใจผู้ที่เข้ามาบำบัดฟื้นฟู และเยี่ยมชมเรือนนอนภายในโรงพยาบาลด้วย

จากนั้น ในเวลา 14.00 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมามอบนโยบาย และรับฟังความคิดเห็น ณ อาคารโดม โรงเรียนอนุบาลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง ก่อนตรวจพื้นที่ริมแม่น้ำโขง จุดสกัดเส้นทางลำเลียงยาเสพติด กัญชา และสินค้าหนีภาษี ที่บ้านดอนแพง อำเภอบ้านแพง ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ในเวลา 19.45 น.