วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2567

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่เร่งฟื้นฟูจังหวัดชายแดนใต้ ระดมกำลังผู้ต้องราชทัณฑ์ทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน-ซ่อมรถจักรยานยนต์ที่เสียหายจากอุทกภัย ย้ำรัฐบาลดูแลเต็มที่


ผู้สื่อข่าวรายงานจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ว่า เมื่อช่วงเข้าที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ เดินทางมายังท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เพื่อเดินทางต่อไปยังเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ถนนสุริยะประดิษฐ์ ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย และแผนการแก้ไขปัญหา พร้อมมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในโครงการร่วมแรงซ่อมรถจักรยานยนต์ที่เสียหายจากอุทกภัย โดยความร่วมมือระหว่าง กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม, มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) รวมทั้งยังมีบริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกด้วย เปิดโอกาสให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ได้ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งมอบถุงยังชีพให้กับผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาส เพื่อนำไปมอบให้กับประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ด้วย 

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาอุทกภัยในหลายจังหวัดของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ในขณะนี้ปริมาณน้ำในหลายพื้นที่ลดลงสู่สภาวะปกติ แต่ปัญหาสำคัญคือการฟื้นฟูสภาพบ้านเรือน โดยเฉพาะการทำความสะอาดอาคารบ้านเรือนและร้านค้าในเขตเศรษฐกิจ ซึ่งได้สั่งการให้เรือนจำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นำผู้ต้องราชทัณฑ์ออกช่วยเหลือทำความสะอาดพื้นที่สาธารณประโยชน์ ทั้งถนน ตลาดสด โรงเรียนและวัดในพื้นที่ รวมถึงการเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงที่อาศัยอยู่ในที่พักพิง และครัวประกอบอาหารของเขตเทศบาลนครยะลา

”รัฐบาลตระหนักถึงความลำบากของประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบัน จึงมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการยื่นเอกสารเยียวยาน้ำท่วมให้มีความรวดเร็วและง่ายดาย โดยจะลดขั้นตอนที่พร้อมนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อให้การเยียวยาทั่วถึงและโปร่งใส“ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ ยังได้เดินทางต่อไปยังตลาดเทศบาลตำบลบาเจาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย บริเวณตลาดเทศบาลตำบลบาเจาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส และ เดินทางต่อไปยังบ้านชะมูแว ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อมอบอุปกรณ์การซ่อมบำรุงรถจักรยานยนต์ และบริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียหายจากอุทกภัยด้วย โดยตั้งเป็นศูนย์ซ่อมฯ บริเวณ อบต. ปะลุกาสาเมาะ สำหรับเครื่องมือช่าง ละสิ่งของที่ได้รับการสนับสนุน ประกอบด้วย น้ำมันเครื่อง บล็อกถอดหัวเทียน กระดาษทราย ฯลฯ เป็นต้น 

จากนั้น ในช่วงบ่าย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ ออกจากจังหวัดนราธิวาส ไปยังเรือนจำกลางปัตตานี จังหวัดปัตตานี เข้าตรวจเยี่ยมบ้านพักของข้าราชการที่เรือนจำกลางปัตตานี และมอบถุงยังชีพให้กับผู้บัญชาการเรือนจำกลางสงขลา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางยะลา และผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี เพื่อนำไปส่งมอบให้กับประชาชนต่อไป

รวมทั้ง ยังได้เดินทางต่อไปยังบริเวณมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบภัย กว่า 500 คน โดยมี นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม รวมทั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชาติ ร่วมให้การต้อนรับ ประกอบด้วย นายซูการ์โน มะทา สส. จังหวัดยะลา, นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส, นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ สส.ปัตตานี, นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส สส.ปัตตานี, นายสุไลมาน บือแนปีแน สส.จังหวัดยะลา และ รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ร่วมกันให้การต้อนรับ 

ก่อนเดินทางไปยังห้องรับรองสนามบินบ่อทอง จังหวัดปัตตานี เพื่อประชุมกับสมาคมประมงจังหวัดปัตตานี และออกเดินทางจาก จังหวัดปัตตานี ในเวลา 17.00 น. ไปท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพมหานครต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ รวม 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา 4 อำเภอ จังหวัดปัตตานี 4 อำเภอ จังหวัดนราธิวาส 3 อำเภอ จังหวัดนครศรีธรรมราช 7 อำเภอ จังหวัดพัทลุง 5 อำเภอ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่เพื่อบรรเทาผลกระทบให้ประชาชน โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ปริมาณฝนจะลดลง ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะกลับมามีฝนตกหนักถึงหนักมากอีกครั้งในช่วงวันที่ 13–16 ธันวาคม นี้ บริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส นครศรีธรรมราช พัทลุง และสตูล จากนั้นแนวโน้มฝนจะลดลงตามลำดับ ซึ่งจะต้องมีการติดตามประเมินสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับแผนช่วยเหลือประชาชนให้เหมาะสมต่อไป







วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2567

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดการประกวดแข่งขันสวนสนามผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศ รอบชิงชนะเลิศ พัฒนาศักยภาพเป็นผู้มีระเบียบวินัย ส่งเสริมสุขภาพร่างกายแข็งแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการประกวดแข่งขันสวนสนามผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศรอบชิงชนะเลิศ โดยกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม จัดการประกวดแข่งขันสวนสนามผู้ต้องราชทัณฑ์จากเรือนจำทั่วประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมนโยบายยกระดับความมั่นคงปลอดภัย ให้ความสำคัญกับการฝึกระเบียบ วินัยให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ พัฒนาศักยภาพผู้ต้องราชทัณฑ์ให้เป็นผู้มีระเบียบวินัย เคารพ และให้เกียรติต่อผู้อื่น รวมถึงส่งเสริมสุขภาพร่างกาย ให้มีความแข็งแรง โดยมีการฝึกบุคคลท่ามือเปล่า บุคคลแถวชิด การฝึกขบวนสวนสนามให้เกิดความพร้อมเพรียง ถูกต้องตามระเบียบการสวนสนาม 


กิจกรรมดังกล่าวนับเป็นเครื่องมือหนึ่งที่กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม นำโดย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำมาใช้ในการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องราชทัณฑ์ ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ คุณธรรม และจริยธรรม ปลูกฝังความเป็นผู้นำ และผู้ตามที่ดี ฝึกฝนความอดทน ความมีระเบียบ วินัย ความสามัคคี และการเสียสละผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อส่วนรวม ประพฤติตนให้เป็น ประโยชน์ โดยเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น นอกจากนี้ ยังสามารถนำประโยชน์ที่ได้จากการสวนสนาม ไปปรับใช้ในชีวิตภายหลังพ้นโทษ และไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก เพื่อคืนคนดีมีคุณค่าสู่สังคมต่อไป 


ทั้งนี้ ผลการแข่งขัน เรือนจำกลางระยอง ชนะเลิศอันดับที่หนึ่ง ได้รับโล่เกียรติยศพร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ได้อันดับที่ 2 และ เรือนจำสมุทรปราการ ได้อันดับที่ 3 จาก 10 เขตเรือนจำทั่วประเทศไทย ⁣ในขณะที่มีผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศกว่า 600 คน มาเข้าร่วมการแข่งขัน

วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2567

เปิดกำหนดการ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดสุรินทร์

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการด้านยุติธรรม ณ จังหวัดสุรินทร์ ในวันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม 2567 และเตรียมร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ระหว่างวันที่ 1 - 2 กรกฎาคม 2567 ณ จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์

(29 มิถุนายน 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจราชการด้านยุติธรรม ก่อนจะร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ณ จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ร่วมคณะตรวจราชการด้วย


กำหนดการ ‘พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รมว. ยุติธรรม’ จังหวัดสุรินทร์


เวลาประมาณ 10.00 น. รัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ถึงเรือนจำกลางสุรินทร์ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ เพื่อร่วมประชุมหารือร่วมกับองค์การสวนสัตว์ด้านการสร้างความร่วมมือการส่งเสริมอาชีพผู้ต้องราชทัณฑ์ในการปลูกหญ้าเลี้ยงช้าง, ประชุมหารือแนวทางการแก้ปัญหาหนี้สินของผู้ต้องราชทัณฑ์ และตรวจเยี่ยมเรือนจำกลางสุรินทร์ โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เทศบาลเมืองสุรินทร์ ฯลฯ รวมทั้งส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ และเข้าประชุมหารือข้อราชการด้วย  

 

จากนั้น ในช่วงบ่าย จะเดินทางไปยังเรือนจำชั่วคราวโคกตาบัน เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่ปลูกหญ้าเนเปียร์เลี้ยงสัตว์ และการปลูกข้าวหอมสุรินทร์ ซึ่งข้าวจังหวัดสุรินทร์ มีรสชาติแตกต่างจากข้าวที่ปลูกที่อื่นทั้งที่เป็นพันธุ์เดียวกัน ปัจจัยต่าง ๆ ทำให้ ข้าวหอมสุรินทร์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้านรสชาติ และกลิ่นที่แตกต่างจากข้าวหอมมะลิที่ปลูกในพื้นที่อื่น มีเมล็ดใส เมื่อหุงสุกมีความหอมนุ่ม เป็นที่นิยมของชาวไทยและชาวต่างประเทศ และการฝึกวิชาชีพทางการเกษตรของเรือนจำชั่วคราวโคกตาบัน โดยในเวลาประมาณ 17.30 น. มีกำหนดการเดินทางไปถึงจังหวัดนครราชสีมา ต่อไป


สำหรับการเดินทางไปตรวจราชการ จังหวัดสุรินทร์ ของพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ครั้งนี้ เป็นการติดตามงานตามนโยบายรัฐบาล ที่มุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลเน้นย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการวางแผนให้ชัดเจน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว มีความรอบคอบ รวมถึงการทำงานต้องประสานสอดคล้องกันและมีความเป็นเอกภาพ มุ่งผลประโยชน์ที่เกิดต่อประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง อีกทั้ง พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังจะติดตามงานในเรื่องประเด็นยาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญเช่นกัน


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน เป็นที่อยู่ของชนหลายชาติพันธุ์ทั้ง ไทย กัมพูชา ลาว กูย ซึ่งเป็นกลุ่มชนที่มีทักษะความสามารถในด้านคชศาสตร์ ทำให้มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย หลักฐานทางโบราณคดี พื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์มีมนุษย์เข้ามาตั้งชุมชนแล้วตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย ลักษณะชุมชนเป็นเนินดินมีคูน้ำคันดินล้อมรอบ ขนาดกว้างประมาณ 1,000 เมตร ยาวประมาณ 1,300 เมตร เป็นลักษณะเฉพาะของแผนผังเมืองโบราณ

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2567

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดนครพนม มอบนโยบายแก้ปัญหายาเสพติด กวาดล้างการระบาดในพื้นที่อีสานตอนบน พร้อมประกาศแก้หนี้ กยศ. ลดภาระหนี้ประชาชน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ มอบนโยบายการแก้ไขกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้นอกระบบและการแก้ไขปัญหายาเสพติด และตรวจราชการจังหวัดนครพนม โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา  พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตรวจเยี่ยมมินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลนาหว้า อำเภอนาหว้า พร้อมรับฟังการบรรยายสรุป รายงาน การดำเนินงานปัญหาและข้อเสนอแนะในการให้บริการ ณ โรงพยาบาลนาหว้า จากนั้นใน เวลา 10.30 น. ได้เดินทางมามอบนโยบายแก่ส่วนราชการ และสร้างการรับรู้การแก้ไขกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้นอกระบบและการแก้ไขปัญหายาเสพติด แก่มวลชนในพื้นที่ ณ หอประชุมอำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม โดยมี นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เขต 1 พรรคเพื่อไทย , นายวิรัช พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย, นายนิพนธ์ คนขยัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬ พรรคเพื่อไทย และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ และ นายกัมปนาทจักรวาล วิเวศ ศรีพุทธา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมร่วมให้การต้อนรับ

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวระหว่างการมอบนโยบายว่า มนุษย์ทุกคนต่างมีความหวัง ความฝัน คือ ฝันอยากให้ลูกหลานดีขึ้น อยากให้ชีวิตดีขึ้น ร่ำรวย โดยเฉพาะภาคอีสาน พบว่าอยากถูกหวยรางวัลที่ 1 แต่ความกลัวอันดับ 1 คือ กลัวลูกจะตายทั้งเป็นจากสภาพการติดยาเสพติด

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวอีกว่า วันที่ 26 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ จะเป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก จึงอยากฝากผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนายอำเภอ ลองดูว่าในอีก 10 วันจากนี้ เราจะทำอย่างไร เราทุกคนจะมีความเข้าใจและรู้สึกร่วมกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ความสุข, สันติสุข และสุขภาพ กับ ยาเสพติด จะเป็นสิ่งคู่ขนานกัน สังคมใดมียาเสพติดสังคมนั้นจะไม่มีความสุข คนในสังคมจะอ่อนแอ หรือประเทศนั้นจะไม่เจริญทุกข์ ถูกด้อยค่า

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวกับนายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เขต 1 ว่า ท่านได้เชิญตนมาหลายวันแล้ว แต่ตนและคณะติดภารกิจศึกษาดูงานที่ประเทศโปรตุเกส, เยอรมัน ซึ่งวันนี้มีโอกาสมาเยือน จึงขอเยี่ยมดเขตเลือกตั้งของท่าน เพราะจากความตั้งใจของท่านที่จริงจังกับการต่อต้านยาเสพติด เป็นที่รู้จักกันทั้งประเทศ ถึงขนาดเคยร้องไห้กลางสภา เพราะทนไม่ได้ที่จะเห็นสังคมหรือชุมชนของตัวเองต้องอ่อนแอเพราะยาเสพติด



”อยากเรียนว่า ในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนไม่ใช่คนที่จะรับใช้รัฐบาล จำเป็นรัฐบาลที่จะต้องรับใช้ประชาชน เราจะหาผู้นำที่ห่วงประชาชนแบบท่านภูมิพัฒน์ เป็นเรื่องยาก ตอนนี้ทุกข์ของประชาชน คือ เรื่องยาเสพติด วันนี้เราจึงต้องสนใจเรื่องซึ่งเป็นทุกข์ของประชาชน โดยเฉพาะในภาคอีสานตอนบน“ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว

”ในภาคเหนือ มียาบ้าแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศจำนวนมากนับล้านเม็ด แต่มีผู้ติดยาเสพติดน้อย เพราะยาเสพติดถูกลำเลียงไปยังภาคกลาง, ภาคใต้ ก่อนลำเลียงออกนอกประเทศ ขณะที่ภาคอีสาน เช่น จังหวัดนครพนมที่มีการตรวจยึดได้หลายครั้ง ครั้งละแสนเม็ด ที่จำนวนไม่ถึงล้านเพราะจำนวนยาบ้าต้องการนำมาขายจำหน่ายในจังหวัดนครพนม เข้ามาทำลายลูกหลานในพื้นที่ เป็นเหตุให้มีผู้เสพและผู้ติดจำนวนมาก วันนี้เป็นวาระที่สำคัญ ที่เราจะมาแก้ปัญหายาเสพติด“

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า ไม่ใช่แค่ยาเสพติดเรื่องเดียวที่จะพูด แต่จะทำอย่างไรให้อนาคตของเราดีขึ้น ชีวิตดีขึ้น รัฐบาลประกาศแก้ปัญหา หนึ่งในเรื่องใหญ่ คือ การแก้ปัญหาหนี้สิน ซึ่งเมื่อต้องพูดเรื่องนี้ในต่างประเทศแล้วถือเป็นเรื่องน่าอับอาย คือ หนี้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(หนี้ กยศ.) ทั้งๆ ที่การศึกษา เป็นสิ่งที่จะทำให้คนเรามีชีวิตที่ดีขึ้น หรือประเทศไทยมีงบประมาณด้านการศึกษามากที่สุดในอาเซียน หรืออาจเป็นอันดับ 2 ของโลก ที่เฉลี่ยต่อหัวประมาณ 6 หมื่นบาท แต่นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด กว่าร้อยละ 80% เป็นหนี้ กยศ. ที่น่าเสียใจ คือ ในเรือนจำจังหวัดนครพนมกว่า 77% หรือในบางเรือนจำมีมากถึง 80% มีการศึกษาต่ำกว่าภาคบังคับหรือที่รัฐจัดให้เรียนฟรี

ขณะเดียวกัน พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า การวัดความเจริญของประเทศต่างๆ เขาวัดกันทีความรู้ของคน ยกตัวอย่างประเทศกาตาร์ที่มีพื้นที่เล็กนิดเดียว อาจจะเล็กกว่าจังหวัดนครพนม แต่รวยที่สุดในโลก เพราะเขาให้เรียนฟรีมีคุณภาพ อาหาร 3 มื้อฟรี หรือดูงานต่างประเทศฟรี ส่วนประเทศไทยอยากเรียนหนังสือ อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ยังต้องไปกู้เงินเรียน รัฐบาลสมัยที่แล้ว มีการแก้ไขกฎหมาย หนี้ กยศ.แล้ว มีการปรับลดเบี้ยปรับ จากเดิมคิดอัตรา 18% และลดดอกเบี้ยที่ติดในอัตรา 25.5% พวกเขาอยากมีอนาคตที่ดี ต้องไปกู้เงิน “คนกลุ่มลูกหนี้กยศ. ไม่ติดยาเสพติดก็บุญแล้ว เฉพาะจังหวัดนครพนม มีลูกหนี้ กยศ.จำนวน 35,318 คน มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท มีการถูกบังคับคดีเกือบ 3 พันคน ถูกฟ้องอีกกว่า 6 พันคน รวมเป็นหมื่นคนที่เป็นหนี้ กยศ.ยังไม่นับรวมหนี้ครัวเรือน



หลังแก้ไขกฎหมายหนี้ กยศ.ให้มีผลย้อนหลัง ตนมีแผนแก้ปัญหาลูกหนี้กยศ. ที่จังหวัดนครพนมว่า ให้ผู้จัดการ กยศ. ส่งรายชื่อลูกหนี้กยศ.จังหวัดนครพนม มอบให้ผู้ว่าฯ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและยุติธรรมชุมชน ไปบอกกับพวกเขาที่มีกว่า 3 หมื่นคน ได้ทราบว่าการบังคับคดีครั้งต่อไป จะมีการปลดผู้ค้ำกับผู้ที่อยู่ระหว่างการบังคับคดีต้องไปดำเนินการเซ็นสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ และยังสามารถลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับได้เกือบ 400 ล้านบาท เป็นจำนวนมากมายสำหรับคนจน คนอดมื้อกินมื้อ วันนี้ ประเทศไทยจึงยังไม่มีความก้าวหน้าเพราะยังมีหนี้ครัวเรือนจำนวนมาก โดยเฉพาะหนี้ กยศ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น ในเวลา 11.15 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ เดินทางมามอบนโยบาย และรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ณ ที่ว่าการอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม พร้อมกับ ตรวจเยี่ยมและรับฟังความคิดเห็น ณ ศูนย์มินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลศรีสงคราม โดยมี นางสาวกรณ์กาญจน์  แก้วดี นายอำเภอศรีสงคราม, พ.ต.อ.ศรีนคร นัยวัฒน์ ผกก.สภ.ศรีสงคราม, นายแพทย์วรกาล  ธิปกะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสงคราม และนายมานพ  ยะภักดี  สาธารณสุขอำเภอศรีสงคราม ร่วมให้การต้อนรับ ทั้งนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ยังกล่าวให้กำลังใจผู้ที่เข้ามาบำบัดฟื้นฟู และเยี่ยมชมเรือนนอนภายในโรงพยาบาลด้วย

จากนั้น ในเวลา 14.00 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมามอบนโยบาย และรับฟังความคิดเห็น ณ อาคารโดม โรงเรียนอนุบาลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง ก่อนตรวจพื้นที่ริมแม่น้ำโขง จุดสกัดเส้นทางลำเลียงยาเสพติด กัญชา และสินค้าหนีภาษี ที่บ้านดอนแพง อำเภอบ้านแพง ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ในเวลา 19.45 น.




















วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2567

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบนโยบาย ทิศทางการขับเคลื่อนงานอาสาสมัครคุมประพฤติ เปลี่ยนผู้ที่เคยก้าวพลาดให้กลับมามีที่ยืนในสังคม โดยไม่กระทำผิดซ้ำอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก โรงแรมเดอะเกรซอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม, นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม, นายรวิศ สอดส่อง หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายพลรักษ์ รักษาพล คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาเพื่อพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครคุมประพฤติในกลุ่มจังหวัด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร ในการปฏิบัติงานตามภารกิจกรมควบคุมความประพฤติ กระทรวงยุติธรรม พร้อมมอบนโยบายทิศทางการขับเคลื่อนงานอาสาสมัครคุมประพฤติภายใต้สถานการณ์อาชญากรทางสังคม และยาเสพติด โดยมี นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม, นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด, นางสาวรังสิมา รอดรัศมี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน ร่วมให้การต้อนรับ และ นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุมประพฤติ เป็นผู้กล่าวรายงาน


พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรมคุมประพฤติถือเป็นหน่วยงานขนาดใหญ่ที่มีบุคลากรผู้ถูกคุมประพฤติที่ต้องดูแล ส่งผลให้ปริมาณงานมากกว่าจำนวนบุคลากรในการปฏิบัติหน้าที่ และเนื่องด้วยข้อกฎหมายบางประการจึงทำให้ไม่สามารถแต่งตั้งข้าราชการปฏิบัติงานได้ จึงได้เปิดรับอาสาสมัครคุมประพฤติจากภาคประชาชนที่ได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติแล้วว่ามีความเหมาะสม และใกล้ชิดชุมชนเป็นอย่างดี เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับกรมคุมประพฤติเป็นหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมที่มีหน้าที่ในการสอดส่องดูแลพฤติกรรมผู้ถูกควบคุมความประพฤติ ตั้งแต่ก่อนการพิจารณาของศาลฯ, หลังการพิจารณาของศาลฯ ตลอดจนได้รับการปล่อยตัวจากราชทัณฑ์แล้ว กล่าวคือมีหน้าที่ฟื้นฟูผู้ต้องขังและเฝ้าระวังการกระทำผิดซ้ำหลังได้รับการปล่อยตัว เพื่อเปลี่ยนคนที่เคยก้าวพลาดให้กลับมามีที่ยืนในสังคมได้ โดยไม่กระทำผิดซ้ำอีก 






สำหรับการจัดสัมมนาในครั้งนี้นอกจากจะให้ความรู้ ยังเปิดพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงาน เพื่อพัฒนาผู้ปฏิบัติงานให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้นแล้วพร้อมวางเป้าหมายเพิ่มจำนวนอาสาสมัครคุมประพฤติ จากจำนวน 20,000 ราย ให้เป็น 50,000 รายภายในเดือนมิถุนายนนี้ และจะเพิ่มจำนวนอาสาสมัครคุมประพฤติ ทั่วทุกหมู่บ้านรวมกันให้ได้กว่า 75,000 รายภายในเดือนกันยายนนี้



ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดในช่วงเช้า อาสาสมัครคุมประพฤติที่เดินทางมาร่วมงาน ยังขอถ่ายภาพคู่กับ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นจำนวนมาก ขณะที่ช่วงเที่ยง พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมรับประทานอาหารกับสื่อมวลชนหลายสำนักที่ติดตามมาทำข่าวเกาะติดภารกิจการลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสงครามอย่างเป็นกันเอง มีการสนทนาแลกเปลี่ยนความเห็น และตอบคำถามสื่อมวลชนในหลายประเด็น ระหว่างเดินทางกลับได้เดินผ่านแผงจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล มีแม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ขอถ่ายภาพคู่เป็นที่ระลึก และกล่าวขอพรให้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมให้พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เป็นผู้เลือกตัวเลขเองด้วย ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ในเวลา 15.15 น.