วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

นักธุรกิจไทยเชื่อมั่น รัฐบาลยิ่งลักษณ์ดันการค้าไทย-จีน แสนล้านดอลล่าร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ที่ออกอากาศในวันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2555 เป็นการสัมภาษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนจีนและญี่ปุ่น โดยมี นายธีรัตถ์ รัตนเสวี ดำเนินรายการ

นายกฯยิ่งลักษณ์หารือข้อเสนอนักธุรกิจไทย
ก่อนที่จะมีการเจรจาทางการค้ากับจีน
นายกฯ กล่าวถึง การเดินทางไปเยือนประเทศจีนว่า ถือว่าครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากจีนอย่างดีในลักษณะการเยือนของผู้นำระดับสูง มีประธานาธิบดีหู จิ่น เทา และรองประธานาธิบดี  รวมทั้งประธานสภา มีโอกาสได้พบหลายท่าน การเดินทางครั้งนี้เรียกว่าทวิภาคี ไปหารือกับจีน ต่อเนื่องจากที่รองปธน.จีนที่มาเยือนไทย ในกรอบความร่วมมือทางยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างไทยกับจีน ทั้งการค้า ท่องเที่ยว พลังงาน การศึกษา วัฒนธรรม และในกรอบของการหารือก็จะลงรายละเอียดมากขึ้น เช่น เพิ่มมูลค่าการค้าขายอย่างน้อย 20% ต่อปี การลงทุน 15% ต่อปี การท่องเที่ยว 20 % ต่อปี
        
ในด้านการค้าก็จะมีการกำหนดกลุ่มคณะทำงาน เช่น ข้าว มันสำปะหลัง หรือเรื่องของพลังงาน จีนก็ให้ความสำคัญเรื่องพลังงานสีเขียว มีการหารือเรื่องพลังงานทดแทน และมีการลงนามเอ็มโอยูถึง 7 ฉบับ
        
นายกฯ กล่าวว่า การเดินทางครั้งนี้เชิญนักธุรกิจไปหารือถึง 107 บริษัท และมีนักธุรกิจที่จีนเข้ามาหารือกันถึง 800 บริษัท จีนก็ให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น เราก็อาศัยเวทีนี้ และจีนก็ให้ความสำคัญกับไทยในฐานะบ้านพี่เมืองน้อง ยกระดับการเยือนกันบ่อยขึ้น ยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างภาคเอกชน และประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมถึงกรณีของหมีแพนด้าที่เราจะต้องส่งคืนในปี 2556 ทางจีนก็ให้อยู่ต่อ เป็นสัญลักษณ์ความเชื่อมโยงต่อเนื่องในเรื่องนี้ด้วย
        
ในเรื่องการค้าเราจะได้มีข้อตกลงที่ชัดเจนในการค้าขายกับจีน ไม่ว่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจ ข้าว มันสำปะหลัง ผลไม้ จะเพิ่มจำนวนสินค้าและลดอุปสรรคต่างๆ ก็จะต้องเพิ่มหน่วยในการดูแล ในส่วนของการท่องเที่ยวก็อยากเห็นเป้าหมายจีนเข้ามาท่องเที่ยวไทยเพิ่มเป็น 2 ล้านคนภายในอีก 1 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.7 ล้านคน
        
ส่วนเป้าหมายการค้าตั้งเป้าประมาณ 1 แสนล้านดอลลาร์ ใน 5 ปี ซึ่งทางจีนบอกว่าเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย แต่เขาก็เชื่อว่าจะบรรลุได้ตามที่หวังไว้ ส่วนเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ความกังวลจะต่างจากญี่ปุ่น แต่เราก็ใช้โอกาสนี้ชี้แจง เขาก็เข้าใจเพราะเขาก็เคยเจอสภาพนี้มานาน เขาทำเรื่องการบริหารจัดการน้ำมานานแล้วเกินกว่า 20 ปี
        
นอกจากนี้ได้พบนักธุรกิจลงทุนของจีนที่จะลงทุนในไทยประมาณ 14บริษัท มีเป้าหมายลงทุนในไทย หลายบริษัทสำรวจพื้นที่แล้วและมีแนวโน้มลงทุนตัดสินใจลงทุนในอุตสาหกรรมใหญ่


ดร.มนูญศรี โชติเทวัญ
ประธานกรรมการ บริษัทสหฟาร์มจำกัด
ทางด้าน ดร.มนูญศรี โชติเทวัญ ประธานกรรมการ บริษัท สหฟาร์ม จำกัด ได้เปิดเผยถึงความสำเร็จของการเดินทางร่วมกับคณะนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เยือนประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 17 24 เมษายน 2555 ว่า “นายกรัฐมนตรีและคณะได้สร้างความเชื่อมั่นแก่รัฐบาล นักธุรกิจของประเทศคู่ค้าเป็นอย่างดี และนักธุรกิจไทยจำนวนมากได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเปิดโอกาสให้ไทยเป็นพันธมิตรทางธุรกิจการค้า 

ดร.มนูญศรี กล่าวว่า “นายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ขอให้ประเทศญี่ปุ่นซื้อไก่จากไทย กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงต่างประเทศรีบเข้ามาดูแลขั้นตอนด้านกฎหมาย ภาษี และมาตรฐานทางอุตสาหกรรมทุกอย่าง โดยหลังจากวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ ประเทศไทยจะได้ส่งออกไก่สดแช่แข็งไปยังประเทศญี่ปุ่นได้เป็นครั้งแรก ซึ่งคาดหมายว่าจะสามารถจำหน่ายไก่สดแช่แข็งให้ตลาดญี่ปุ่นได้เบื้องต้นไม่น้อยกว่า 200,000 ตัน/ปี รวมถึงยอดการสั่งซื้อของเกาหลีไม่ต่ำกว่า 100,000ตัน/ปี และจีนที่มีกำลังซื้อสูง จะบริโภคไก่จากไทย ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านตัว/ปี” 

นอกจากนี้ ดร.มนูญศรี ยังกล่าวถึงความประทับใจในการเดินทางร่วมคณะผู้แทนการค้ากับนายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์ว่า “ดิฉันพอใจอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสนั่งเครื่องบินร่วมกับรัฐบาลชุดนี้ เพราะนายกฯรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์เดินจากที่นั่งส่วนตัวมายังที่นั่งของนักธุรกิจไทย และร่วมสนทนากับปัญหาของนักธุรกิจไทยอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาในการเดินทางลนเครื่องบินกว่า 5 ชั่วโมง นอกจากนั้น ในวันรุ่งขึ้น นายกฯรัฐมนตรีไม่ได้รับประทานอาหารเช้า แต่เปลี่ยนโต๊ะอาหารเป็นโต๊ะประชุม โดยนั่งสนทนาทุกเรื่องที่นักธุรกิจไทยต้องการให้นายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์และรัฐบาลไปเจรจาการค้ากับรัฐบาลของแต่ละประเทศทุกวัน” 

“ดิฉันเลยบอกว่า หากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์จะไปประเทศไหนอีก ดิฉันจะขอไปด้วย ดิฉันตามคณะไปกี่คณะ ไม่เคยเลยที่มีคณะไหนมานั่งคุยกับดิฉันขนาดนี้ ไม่เคยมีใครมาเปิดโต๊ะคุยกับผู้ประกอบการมากขนาดนี้  ดิฉันบอกได้เลยว่า จะถูกใจ ไม่ถูกใจใครไม่ทราบ ทราบแต่ว่าถูกใจดิฉัน ใครมองไม่เห็น แต่ดิฉันมองเห็น เพราะท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ตั้งใจทำงานเสียสละเพื่อส่วนรวม ทิ้งความสุขสบายส่วนตัว ทำงานเสียสละให้ประเทศชาติ ดิฉันประทับใจค่ะ” 
        

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น