วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

นายกฯยิ่งลักษณ์ เตรียมเยือนบาห์เรน-กาต้าร์

(9 พฤษภาคม 2555 InsideThaiGOV) - น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศบาห์เรนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13 – 15 พ.ค. และประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 15 -16 พ.ค.นี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้แนบแน่น พร้อมส่งเสริมความร่วมมือในทุกมิติ 

ทั้งนี้ในการเยือนบาห์เรน นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดี และ มกุฎราชกุมารแห่งบาห์เรน จากนั้น จะเข้าร่วมการหารือและประชุมเต็มคณะกับนายกรัฐมนตรีบาห์เรน พร้อมร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในสาขาการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับบาห์เรน ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรี จะได้ถือโอกาสขอบคุณประเทศบาห์เรนที่สนับสนุนไทยเกี่ยวกับการแก้ปัญหาสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ในเวทีโอไอซีมาโดยตลอด

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ
สมเด็จพระราชาธิบดีฮามัด บิน อิซา อัล คอลิฟะห์แห่งราชอาณาจักรบาห์เรน
เมื่อครั้งเสด็จฯ เยือนประเทศไทยเป็นการส่วนพระองค์ (15 เมษายน 2555)
ไทยและบาห์เรนได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2520 ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิด บาห์เรนถือเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลางและมีบทบาทเป็นสะพานเชื่อมไทยสู่ประเทศในตะวันออกกลางในหลายมิติ

สินค้าออกที่สำคัญของไทยไปบาห์เรน เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เสื้อผ้า สำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ ทองแดง ผ้าผืน ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก อาหารทะเลกระป๋อง เครื่องใช้สำหรับเดินทาง

ประเทศบาห์เรนมีคนงานไทยทำงานอยู่ที่บาห์เรนประมาณ 2,000 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานฝีมือและกึ่งฝีมือที่ทำงานในสาขาต่าง ๆ ได้แก่ ช่างซ่อมรถยนต์ ช่างเคาะพ่นสี ช่างเชื่อม ซ่อมเรือสินค้า ช่างประกอบท่อส่งน้ำมัน ช่างเสริมสวย ช่างตัดเย็บเสื้อผ้า และคนปรุงอาหาร ส่วนใหญ่ทำงานในกิจการขนถ่ายสินค้าทางเรือ ซ่อมบำรุง โรงกลั่นน้ำมัน ก่อสร้างอาคารและถนน กิจการอู่ซ่อมรถยนต์ และร้านเสริมสวย เป็นต้น

ส่วนการเยือนกาตาร์นั้น นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการ เข้าเฝ้าฯ เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ และหารือเต็มคณะกับนายกรัฐมนตรีกาต้าร์  พร้อมให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอัลจาซีรา  ซึ่งเป็นสื่อมวลชนชั้นนำของโลก ทั้งนี้ การเยือนกาตาร์อย่างเป็นทางการครั้งนี้นอกจากจะแสดงถึงการให้ความสำคัญของภูมิภาคตะวันออกกลางและโลกมุสลิมโดยเฉพาะในกลุ่ม GCC หรือคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ที่ไทยต้องการดำเนินความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและขยายความร่วมมือต่างๆ แล้ว ยังมุ่งเน้นกระชับความสัมพันธ์กับกาตาร์ ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมสายกลางและมีบทบาทที่โดดเด่นในภูมิภาค และใช้โอกาสหาแนวทางพัฒนาความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมในทุกมิติ  เช่น ความร่วมมือด้านการเมืองและทหาร เป็นต้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเยือนทั้งบาห์เรนและกาตาร์ ของนายกรัฐมนตรี จะมีคณะนักธุรกิจไทยกว่า 50 ราย จาก 40 บริษัท และ 15 รายจากสมาคม และสาขาต่าง ๆ อาทิ ก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ การเงิน ธนาคารและการลงทุน  เกษตรและอาหาร พลังงาน ท่องเที่ยว  และอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล ร่วมคณะด้วย เพื่อสนับสนุนให้มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและเอกชนในการบุกเบิกตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลาง และสนับสนุนให้ภาคเอกชนได้มีโอกาสสร้างเครือข่ายกับภาครัฐและเอกชนของกาตาร์และบาห์เรน  ตลอดจนมีโอกาสสำคัญทางธุรกิจในบาห์เรนและกาตาร์


กำหนดการเยือนบาห์เรน-กาตาร์ของนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม 2555
เวลา 12.50 น. - นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจังหวัดสมุทรปราการ โดยเครื่องบินของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) (B777-200) เที่ยวบินพิเศษ TG 8800 ไปยังกรุงนามา ราชอาณาจักรบาห์เรน
เวลา 16.00 น. - เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงนามา ราชอาณาจักรบาห์เรน
- นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ H.M.King Hamad bin Isa Al Khalifa สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน และ H.R.H.Prince Salman bin Hamad Al Khalifa มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน
เวลา 20.00 น. - สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี

วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม 2555
เวลา 11.00 น. - พิธีต้อนรับนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ
- นายกรัฐมนตรีหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีบาห์เรน ณ ห้องทำงานนายกรัฐมนตรีบาห์เรน พระราชวัง Al Gudaibiya
- นายกรัฐมนตรีนำคณะทางการและคณะธุรกิจไทยเข้าเฝ้านายกรัฐมนตรีบาห์เรน ณ ห้อง Yellow Majlls พระราชวัง Al Gudaibiya
- การหารือเต็มคณะระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีบาห์เรน ณ ห้อง Blue Majlls พระราชวัง Al Gudaibiya
- นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีบาห์เรนเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลราชอาณาจักรบาห์เรนว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว
เวลา12.30 น. - นายกรัฐมนตรีบาห์เรนพระราชทานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี
เวลา 14.30 น. - นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดการประชุมคณะนักธุรกิจไทย - บาห์เรน ณ โรงแรม Intercontinental Regency
เวลา 15.20 น. - นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมมัสยิดกลาง Alfath Grand Mosque
-นายกรัฐมนตรีหารือ (กลุ่มเล็ก) กับผู้นำศาสนา ณ มัสยิดกลาง Alfateh Grand Mosqe
เวลา 18.00 น. - พบปะชุมชนไทยในบาห์เรน ณ โรงแรม Ritz Carlton
เวลา 20.00 น. - นายกรัฐมนตรีบาห์เรนเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำให้กับนายกรัฐมนตรี (กลุ่มเล็ก)

วันที่ 15 พฤษภาคม 2555
เวลา 10.00 น. - นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมศูนย์บัญชาการกองกำลังผสมทางทะเล
เวลา 12.00 น. - นายกรัฐมนตรีบาห์เรนเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีและคณะ ณ โรงแรม Ritz Carlton
เวลา 14.30 น. - นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติราชอาณาจักรบาห์เรนโดยเครื่องบินของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) (B777 - 200) เที่ยวบินพิเศษ ที่ TG 8801 ไปยังกรุงโดฮา รัฐกาตาร์
กำหนดการเยือนรัฐกาตาร์

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม 2555
เวลา 15.25 น. - เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงโดฮา

วันพุธที่ 16 พฤษภาคม 2555
เวลา 11.00 น. - นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ H.H.Sheikh Hamad bin Khalifa Al-Thani เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ณ พระราชวัง Amiri Diwan
- นายกรัฐมนตรีหารือข้อราชการกับ H.H.Sheikh Hamad bin Jassim Bin Jabr Al-
- Thani นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัฐกาตาร์ (เต็มคณะ)ณ พระราชวัง Amiri Diwan
- นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีกาตาร์ฯ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลรัฐกาตาร์ ณ พระราชวัง Amiri Diwan
- นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัฐกาตาร์เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีและคณะ
เวลา14.45 น. - นายกรัฐมนตรีพบหารือกับผู้บริหารของ Aspetar - Qatar Orthopedic and Sport Medical Center
เวลา 15.40 น. - นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สำนักข่าวท้องถิ่น Al Jazeera ณ โรงแรม Four Seasons Doha
เวลา 16.45 น. - นายกรัฐมนตรีพบหารือกับนาย Hassan Al Thawadi เลขาธิการ Qatar 2022 Supreme Committee
เวลา 18.30 น. - นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองเพื่อพบปะกับภาคเอกชนไทยและกาตาร์

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม 2555
เวลา 07.20 น. - เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น