สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แจ้งนัดหมายลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอนในวันนี้ (12 มี.ค.2558) เวลา 10.00 น. โดยขั้นตอนการลงมติให้เป็นการลงคะแนนในทางลับ โดยแจกบัตรต่างสีจำนวน 4 ใบให้สมาชิกลงมติตามฐานความผิด โดยแต่ละใบจะมีช่องให้สมาชิกลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอน
- บัตรสีส้ม มีช่องให้กากบาตรถอดถอนหรือไม่ถอดถอน ส.ว. รวม 22 คน จากกรณีร่วมลงชื่อเสนอญัตติขอแก้รัฐธรรมนูญและลงมติทั้ง 3 วาระ
- บัตรสีขาว มีช่องให้กากบาตรถอดถอนหรือไม่ถอดถอน ส.ว. รวม 13 คน จากกรณีร่วมลงชื่อเสนอญัตติขอแก้รัฐธรรมนูญ แต่ลงมติรับหลักการและลงมติเห็นชอบวาระ 3
- บัตรสีฟ้า มีช่องให้กากบาตรถอดถอนหรือไม่ถอดถอน ส.ว. รวม 2 คน จากกรณีร่วมลงชื่อเสนอญัตติขอแก้รัฐธรรมนูญ โดยไม่อยู่ร่วมพิจารณาในวาระใด เว้นแต่ลงมติในวาระ 3 เท่านั้น
- บัตร สีเขียว มีช่องให้กากบาตรถอดถอนหรือไม่ถอดถอน ส.ว. 1 คน จากกรณีร่วมลงชื่อเสนอญัตติขอแก้รัฐธรรมนูญ และร่วมพิจารณาทั้งวาระ 1 และ 2 โดยไม่ได้ลงมติให้ความเห็นชอบ
การถอดถอนต้องใช้เสียง 3 ใน 5 ของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ คือ 132 เสียง ผู้ที่ถูกถอดถอนจะต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี และหากผู้นั้นเป็นสมาชิกสนช. หรือสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติก็จะต้องพ้นจากสมาชิกภาพในทันที
ส่วนตัวแทนฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาแถลงโต้แย้งข้อกล่าวหา โดยมีสาระสำคัญคือการปฏิเสธข้อกล่าวหาในทุกกรณี โดยยืนยันว่าการดำเนินการเป็นไปโดยชอบตามข้อบังคับ ไม่มีเจตนาในการเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองเพื่อสืบทอดอำนาจ และยืนยันว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมีเพียงร่างเดียวเท่านั้น
"ผมยืนยันว่าร่างรัฐธรรมนูญก่อนที่ประธานจะบรรจุเข้าสู่วาระนั้นแก้ไขได้ และกฎหมายหลายฉบับก็มีการแก้ไขเช่นนี้ นอกจากนี้ (การแก้ไขรัฐธรรมนูญ) ยังเป็นไปตามข้อบังคับที่ 36 เพราะฉะนั้นในเรื่องร่างรัฐธรรมนูญปลอมหรือไม่ปลอมนั้นได้มีการชัดเจนหมดแล้ว ผมขอสรุปให้เห็นว่าร่างกฎหมายใดหรือร่างรัฐธรรมนูญนั้น แก้ไขได้ก่อนที่จะบรรจุเข้าวาระ ถือเป็นประเพณีปฏิบัติที่สืบทอดกันมา 82 ปีแล้ว" นายดิเรก ถึงฝั่ง ตัวแทนอดีต ส.ว. 38 คนที่ถูกกล่าวหา พูดในตอนหนึ่งของการแถลงปิดคดีวานนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น