สถานทูตตุรกีได้เผยแพร่แถลงการณ์บนเว็บไซต์ระบุว่า สถานทูตได้ส่งข้อความถึงกระทรวงการต่างประเทศของไทยเพื่อขอความชัดเจนว่าผู้ต้องสงสัยในคดีวางระเบิดราชประสงค์ที่ถูกจับเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2558 เป็นพลเมืองชาวตุรกีหรือไม่ รวมทั้งขอความชัดเจนเกี่ยวกับพาสปอร์ตตุรกีที่เจ้าหน้าที่ยึดได้จากการตรวจค้นห้องพักผู้ต้องสงสัยที่มีการเผยแพร่ทางโทรทัศน์
แถลงการณ์ของสถานทูต ซึ่งเป็นแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ภายหลังเหตุวินาศกรรมที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2558 ระบุว่าขณะนี้ยังคงรอคำชี้แจงอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการต่างประเทศอยู่ อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) สถานทูตได้รับบันทึกข้อความจากกระทรวงการต่างประเทศที่ระบุว่าขณะนี้การสอบสวนยังคงดำเนินอยู่จึงยังไม่สามารถระบุสัญชาติที่แน่ชัดของผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมได้ ทั้งนี้สถานทูตตุรกียังคงรอคำตอบเกี่ยวกับพาสปอร์ตตุรกีปลอมที่ปรากฏในข่าวโทรทัศน์
"นอกจากนี้ยังงมีสื่อไทยบางสำนักรายงานว่า มีการออกหมายจับผู้ต้องสงสัยที่มีสัญชาติตุรกี แต่จนถึงขณะนี้สถานทูตตุรกียังไม่ได้รับการแจ้งอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเกี่ยวกับการออกหมายจับบุคคลสัญชาติตุรกีดังกล่าว" แถลงการณ์ระบุ
สถานทูตตุรกียังได้รายงานคำให้สัมภาษณ์ของโฆษกกระทรวงกาารต่างประเทศของตุรกีเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ระบุว่ามีชาวตุรกีเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหมว่า "เราทราบจากเจ้าหน้าที่ไทยและการรายงานข่าวของสื่อมวลชนไทยว่าได้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยมาทำการสอบสวน 2 คนในวันที่ 29 และ 31 ส.ค. โดยสื่อมวลชนได้รายงานว่าผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับเมื่อวันที่ 29 ส.ค.พร้อมด้วยพาสปอร์ตปลอมของตุรกีจำนวนหนึ่ง ซึ่งจากภาพที่ปรากฏในสื่อมวลชนเราสามารถบอกได้ว่าพาสปอร์ตนั้นเป็นของปลอม แต่ทันทีที่ผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวถูกจับกุม มีสื่อมวลชนบางสำนักรายงานข้อมูลที่ไม่ถูกต้องว่าชายผู้ต้องสงสัยคนนี้เป็นชาวตุรกี สถานทูตตุรกีในกรุงเทพฯ ได้ออกมายืนยันว่าชายผู้นี้ไม่ได้เป็นพลเมืองตุรกี เช่นเดียวกับสถานทูตไทยในกรุงอังการาที่ได้ชี้แจงสื่อมวลชนว่ายังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 31 ส.ค.นั้น สื่อมวลชนรายงานว่าเป็นผู้ถือพาสปอร์ตของประเทศจีน ทั้งนี้ทางการไทยควรจะให้ข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้
"เจ้าหน้าที่สถานทูตตุรกีในกรุงเทพฯ ได้ทำการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย และกระทรวงการต่างประเทศตุรกีก็ได้ประสานงานกับสถานทูตไทยในกรุงอังการา และกระทรวงการต่างประเทศตุรกีได้ประสานตำรวจสากลเพื่อขอข้อมูลแต่เรายังไม่ได้รับคำตอบใดๆ กลับมา" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศตุรกีระบุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น