ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สถานีตำรวจนครบาลเทียนทะเล ในฐานะเลขาธิการสหพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติ เสียชีวิตแล้วในสภาพถูกผูกคอที่บ้านพักท้องที่ สน.แสมดำ หลังหายตัวไปนานกว่า 2 วัน ขณะที่เว็บไซท์ศูนย์กลางพนักงานสอบสวน ที่มีเครือข่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ อย่าง http://www.sobsuan.com ได้วิพากษ์วิจารณ์ กรณีการยุบเลิกตำแหน่ง และเงินประจำตำแหน่ง พนักงานสอบสวน ตามคำสั่ง คสช.ที่ 6/2559 และ คำสั่ง คสช.ที่ 7/2559 เป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ (8 กุมภาพันธ์) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สถานีตำรวจนครบาลเทียนทะเล ในฐานะเลขาธิการสหพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ทบทวนการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 6/2559 เกี่ยวกับการยุบเลิกตำแหน่ง และเงินประจำตำแหน่ง พนักงานสอบสวน ตามคำสั่ง คสช.ที่ 6/2559
ทั้งนี้ พ.ต.ท.จันทร์ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน โดยระบุว่าจะเป็นการผิดวินัยของตำรวจ และขอให้สื่อมวลชนอ่านรายละเอียดที่ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ขอให้มีการทบทวนคำสั่งดังกล่าวเพราะทำให้พนักงานสอบสวนมีความยากลำบาก ขอให้พิจารณาด้วยหลักพรหมวิหาร 4 มีความเมตตาธรรม ที่ดีกว่าการฟาดฟันกัน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหนังสือร้องเรียน ระบุตอนหนึ่งว่า ข้าพเจ้า พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ ได้ผ่านการประเมินประจำปี 2558 จะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคำสั่งประจำปี 2558 ซึ่งคำสั่งแต่งตั้งจะมีผลในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 และจะถูกปลดจากตำแหน่งพนักงานสอบสวนและถูกตัดเงินประจำตำแหน่งตามคำสั่งนี้ และในฐานะเลขาธิการสหพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติ ขอเรียกร้องความเป็นธรรมแก่พนักงานสอบสวนที่มีสมาชิกพนักงานสอบสวนทั้งหมด 2,900 คน แต่ทั้งนี้พนักงานสอบสวนปัจจุบันระดับผู้ทรงคุณวุฒิมีทั้งหมด 700 คน มีเงินค่าประจำตำแหน่ง 20,800 บาท ทำให้ต้องหลุดไปจากตำแหน่งโดยไม่ได้สมัครใจ ไม่รู้อนาคตของตนเองว่าจะเป็นอย่างไร ไม่มีการประกันอนาคตตามระบบคุณธรรม หน่วยงานที่สังกัดใหม่ก็ยังไม่มี การกระทำดังกล่าวก็ไม่ได้มีการวิเคราะห์ศึกษาแต่อย่างใด ไม่มีเหตุเร่งด่วนที่จะต้องยุบเลิก ตัดโอน ไปโดยทันทีทันใด สร้างเคราะห์กรรมให้พนักงานสอบสวนระดับผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นไปเป็นอันมากอย่างไม่คาดคิดและไม่เคยมีมาก่อน ตำแหน่งที่จะไปดำรงใหม่ก็ยังไม่ได้กำหนดตำแหน่งและหน่วยงาน ปัญหารายได้หายไปจำนวนมาก มีความเดือดร้อนที่จะอุปการะครอบครัว
ซึ่งคำสั่งนี้ทำให้การแต่งตั้งที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและได้รับการเยียวยาตามกระบวนการศาลปกครองได้รับการเยียวยามีอันสิ้นผล หมายความว่าคำสั่งนี้ลบล้างการเยียวยาขอความเป็นธรรมของข้าราชการตำรวจให้เป็นอันสิ้นผลไป เพื่อให้ สตช.พ้นจากภัยของข้าราชการตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาที่ขอความเป็นธรรม และคำสั่งคสช.ที่ 7/2559 เรื่องการกำหนดตำแหน่งของข้าราชการตำรวจซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวนเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปด้านการบริหารราชการแผ่นดินสมควรกำหนดตำแหน่งพนักงานสอบสวนเสียใหม่จึงให้ยกเลิกตำแหน่งพนักงานสอบสวนทั้งหมด ตามมาตรา 44 48 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และยกเลิกเงินตำแหน่งพนักงานสอบสวนตามมาตรา 72 หมายความว่ากำหนดให้พนักงานสอบสวนตั้งแต่ระดับพนักงานสอบสวนถึงพนักงานสอบสวนระดับพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ เป็นรองสารวัตรสืบสวนถึงตำแหน่งรองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน ซึ่งยังอยู่ที่เดิม กลับไปสู่ระบบเดิมที่ใช้อยู่ประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา และโอนตำแหน่งพนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้กำกับการ (นิติกร) รองผู้บังคับการ (นิติกร) ในตำแหน่งพนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิและพนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญประมาณ 700 คน ตัดโอนไปตำแหน่งใหม่ที่ยังไม่ได้ตั้งขึ้น ตัดเงินประจำตำแหน่งไปโดยไม่เป็นธรรม และการปฏิบัติเช่นนี้ทำให้ สตช.พ้นภัยร้ายแรงและเร่งด่วน
หนังสือร้องเรียนระบุอีกว่า พนักงานสอบสวนทำงานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำแต่ได้รับการกีดกันทางด้านสิทธิประโยชน์ความก้าวหน้าทางอาชีพ จึงได้มีการพัฒนาการให้ก้าวหน้าในตำแหน่งพนักงานสอบสวนตามพระราชบัญญัติตำรวจ 2547 การได้เงินประจำตำแหน่งก็ต้องใช้ สิทธิทางศาลปกครอง 9 ปีกว่าจะได้มา และได้มาจนถึงปัจจุบันที่มีการยกเลิกตามคำสั่งหัวหน้าคสช.เป็นการจบสิ้นการเจริญก้าวหน้าแห่งอาชีพและอนาคต ปิดกั้นการพัฒนางานสอบสวนไปในทางสู่ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
“จึงกราบเรียนมายังหัวหน้า คสช.เพื่อทบทวนถึงปัญหาความเร่งด่วนของการออกคำสั่งดังกล่าว และทบทวนถึงปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับงานสอบสวนความทุกข์ความเดือดร้อนของประชาชนที่มารับบริการ ความทุกข์ยากแสนสาหัสของพนักงานสอบสวน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับพนักงานสอบสวนทั่วประเทศต่อไป”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น