ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความ ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
"แล้วก็...ไม่พ้นทักษิณ"
ผมอ่านคำแก้ตัวล่าสุดของนายกรัฐมนตรี ที่ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวแห่งหนึ่งแล้วแทบไม่เชื่อตาตัวเอง เพราะนอกจากจะฟังไม่ขึ้นแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าพลเอกประยุทธ์ไม่เคยยอมรับความผิดพลาดของตนเองแต่ใช้วิธีโทษคนอื่น การแสดงออกที่ไร้วุฒิภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นจนเป็นที่เอือมระอาของผู้คนมานานแล้ว ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เหตุที่ผมต้องวิจารณ์เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของพลเอกประยุทธ์ แต่เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่เป็นบุคคลสาธารณะ
ก่อนหน้านี้ท่านจะพูดหรือแสดงออกอย่างไรคงเป็นเรื่องของท่าน แต่เมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วท่านต้องปรับปรุงพฤติกรรมตัวเอง ไม่ใช่นึกจะปาของใส่ใครก็ทำ หรืออยากจะขึ้นมึงกูหรืออยากจะหลุดคำหยาบที่เรียกสัตว์สัตว์เลื้อยคลานในที่สาธารณะก็พูดออกมา เพราะนอกจากจะเป็นการไม่เคารพผู้ฟังที่เป็นประชาชนแล้ว ท่านยังทำให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องมัวหมองอีกด้วย แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือการไม่ยอมรับความจริงอันเป็นต้นตอของปัญหา จึงทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้ การที่ท่านยังกล่าวหาว่านายกทักษิณเป็นต้นตอของปัญหาคือการก้าวข้ามไม่พ้น หรือกลัวทักษิณจนขึ้นสมอง จนนำไปสู่การเขียนรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เคารพอำนาจของประชาชนจนเกิดการต่อต้านจากทุกฝ่ายในขณะนี้
นายกทักษิณที่ท่านกล่าวหาว่าหนีคดีนั้น ถูกยึดอำนาจและถูกดำเนินคดีด้วยองค์กรที่คณะรัฐประหารตั้งขึ้นซึ่งไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม แล้วการที่ท่านนำกำลังออกมายึดอำนาจแล้วนิรโทษกรรมให้ตัวเอง หรือการบริหารประเทศภายหลังการยึดอำนาจที่ต้องใช้มาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญมาล้างผิดให้ตัวเองกับพรรคพวก พฤติกรรมเหล่านี้ต่างจากการหนีคดีตรงใหน ต่างกันเพียงอย่างเดียวคือนายกทักษิณไม่มีมาตรา 44 และเนติบริกรมานิรโทษกรรมให้ แน่จริงพลเอกประยุทธ์กล้าประกาศไหมว่าจะยอมให้ตัดมาตรา 270 ออกไปจากร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้สามารถตรวจสอบการทุจริตและการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของรัฐบาลท่านได้ คนดีทั้งหลายจะได้กล้าเงยหน้าสบตากับนายกยิ่งลักษณ์ที่กำลังต่อสู้คดีอยู่ในศาล อย่าเป็นชายแต่เพียงคำนำหน้านามเลย มันเสียศักดิ์ศรีครับ
วัฒนา เมืองสุข
8 กุมภาพันธ์ 2559
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น