วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
“จาตุรนต์” ห่วงร่างฯรธน. ประชามติลวงโลก ไม่มีจะดีกว่า
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่าน เครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
'ประชามติที่ลวงโลก ไม่ต้องมีจะดีกว่า'
'น่าเสียดายที่ยังไม่ทันไรเลย การลงประชามติซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีอย่างหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยก็กำลังจะถูกทำลายไปเสียแต่ยังไม่เริ่มต้น'
คสช.และรัฐบาลกำลังส่งสัญญาณที่ไม่ดี สับสนอย่างยิ่งต่อสังคมไทยและชาวโลก
ผู้นำและบุคคลสำคัญของคสช.และรัฐบาลได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจนในการสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญเบื้องต้นที่กำลังอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายต่างๆ นอกจากพูดชี้นำอย่างไม่ต้องเหนียมอายว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้ดีวิเศษอย่างไร ทำไมต้องช่วยกันทำให้ร่างนี้ผ่านประชามติให้ได้แล้ว ยังมีการสั่งการให้หน่วยราชการบางหน่วยชี้แจงให้ประชาชนสนับสนุนร่างนี้ด้วย หน่วยราชการบางหน่วยได้ออกไปชี้แจงอย่างแข็งขันในระดับตำบลหมู่บ้านกันแล้ว
เรียกว่าไม่ต้องสงวนท่าทีว่าจะต้องวางตัวเป็นกลางและให้ประชาชนตัดสินใจกันเอง แต่ชี้นำกันโต้งๆพร้อมกับมีกระบวนการรองรับอย่างเป็นระบบเลย
ในขณะเดียวกันก็ปรากฏว่า ผู้นำและบุคคลสำคัญของคสช.และรัฐบาลก็ได้ออกมาปรามหรือสั่งให้จัดการกับผู้ที่เห็นต่างหรือคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญนี้อย่างเปิดเผย ทั้งยังย้ำด้วยว่าถ้าพูดไม่ดีอีกก็จะจัดการอีก พูดทุกวันก็จัดการทุกวัน เสมือนหนึ่งว่าจะไม่ให้มีการแสดงความคิดเห็นในทางคัดค้านหรือไม่สนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญนี้กันเลย
ไม่ต้องพูดถึงการรณรงค์คัดค้านซึ่งเมื่อถึงเวลาที่ควรจะเปิดให้มีการรณรงค์อย่างเสรี ก็คงจะถูกห้ามหรือขัดขวางอย่างเต็มที่แน่
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ควรจะเป็นอย่างขาวกับดำเลยทีเดียว
การจัดให้มีการลงประชามตินั้นจุดมุ่งหมาย ก็คือ การให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินในเรื่องที่มีความเห็นแตกต่างกันและการที่จะให้ประชาชนสามารถตัดสินใจได้ดีย่อมจะต้องให้ประชาชนได้รับข้อมูลให้มากที่สุด ทั้งที่เป็นข้อเท็จจริงและความคิดเห็น โดยเฉพาะความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องหนึ่งเรื่องใดนั้นย่อมมีอยู่หรือเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดาในทุกสังคม
ยิ่งให้ประชาชนได้ข้อมูลต่างๆมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้การตัดสินใจของประชาชนมีคุณค่าและความหมายมากเท่านั้น
เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นจึงเป็นสิ่งที่ต้องมีควบคู่ไปกับการทำประชามติ
แต่ถ้าให้ข้อมูลแก่ประชาชนแบบด้านเดียว ปิดกั้นข้อมูลความคิดเห็นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียแล้ว การลงประชามติย่อมไม่มีความหมาย ไม่มีประโยชน์
สู้ไม่ต้องจัดให้มีการลงประชามติเสียเลยยังดีกว่า
ไม่ต้องเสียเงินเสียทอง เสียแรงเสียเวลาไปด้วยกันเปล่าๆ เพราะถ้าทำกันอย่างนั้นประชาชนจำนวนมากก็จะไม่เห็นด้วยกับผลการลงประชามติอยู่ดี ที่สำคัญที่หวังจะไปตบตาหลอกลวงชาวโลกก็จะไม่สำเร็จ เพราะเขาก็จะรู้เท่าทันและเห็นเป็นเรื่องน่าอับอายขายหน้าเสียมากกว่า
สังคมไทยผ่านวิกฤตความขัดแย้งมามากและยังไม่มีทีท่าว่าจะแก้ตก ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะไม่ได้ใช้กระบวนการอันเป็นประชาธิปไตย เช่น การเลือกตั้งหรือการลงประชามติที่เป็นธรรมมาแก้ปัญหา การลงประชามติที่จะมีขึ้นในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับการแก้ปัญหาความขัดแย้งแตกต่างทางความคิดโดยให้ประชาชนเสียงส่วนใหญ่เป็นผู้ตัดสิน
น่าเสียดายที่ยังไม่ทันไรเลย การลงประชามติซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีอย่างหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยก็กำลังจะถูกทำลายไปเสียแต่ยังไม่เริ่มต้น
ไม่ได้ประชด แต่อยากจะบอกตรงๆว่าถ้าจะทำกันอย่างที่ทำอยู่นี้ ก็แก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวยกเลิกการลงประชามติไปเสียเลยจะดีกว่า
ขืนเดินหน้ากันไปอย่างนี้ ก็มีแต่จะสูญเสียสิ้นเปลืองไปเปล่าๆ
สิ่งที่สังคมไทยจะได้รับจากผู้มีอำนาจก็จะมีแค่การลงประชามติที่หลอกลวงและการเลือกตั้งที่ไร้ความหมายต่อเนื่องกันเท่านั้นเอง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น