“นปช.” ห่วงปัญหาเศรษฐกิจ แนะ คสช. ดูแลปากท้องประชาชน

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า ตนคิดว่าปัญหาเฉพาะหน้าที่เร่งด่วนที่สุดคือเศรษฐกิจปากท้อง อยากให้ผู้รับผิดชอบรับฟังความจริงจากประชาชนให้มาก จะได้เข้าใจว่าตัวเลขจีดีพีหรืออัตราการเติบโตต่างๆ เป็นเรื่องไกลตัว แต่ชีวิตประจำวันและการทำมาหากินคือของจริงที่ชี้ว่าคนส่วนใหญ่ยากลำบาก ทั้งนี้ จากการพบปะพูดคุยกับคนหลายกลุ่มพบว่า สภาพปัญหาขณะนี้ลุกลามจากคนระดับล่างไปถึงผู้ประกอบการ มาตรการต่างๆ ของรัฐบาลไม่ส่งผลเหมือนที่คาด การลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐที่ควรจะมีก็ไม่ชัดเจน แถมยังมีข่าวเกาเหลาในทีมเศรษฐกิจ ถ้ารัฐบาลแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างเป็นรูปธรรมได้ จะมีน้ำหนักมากกว่าคำแถลงทั้งหมด

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการสร้างประชาธิปไตยและแก้ปัญหาความขัดแย้ง เมื่อเนื้อหารัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตยก็คาดหวังยาก เพราะกฎหมายสูงสุดกลายเป็นเครื่องมือในการรักษาอำนาจ สิ่งที่ต้องช่วยกันคือระมัดระวังไม่ให้สถานการณ์บานปลายเมื่อบังคับใช้ และหาทางออกโดยสันติให้ได้เมื่อเกิดวิกฤติ ส่วนด้านการรักษาความสงบที่รัฐบาลยกเป็นผลงานโบว์แดงมาตลอด มีข้อสังเกตุง่ายๆ ว่า ความสงบของประเทศคือ การที่ประชาชนทุกฝ่ายมีสิทธิเสรีภาพอย่างเท่าเทียมภายใต้กฎหมายที่เป็นสากล ตราบใดที่ยังมีการใช้อำนาจพิเศษ และมีลักษณะเลือกปฏิบัติก็ยังเรียกว่าความสงบไม่ได้ แต่เป็นการสยบทุกอย่างไว้ด้วยอำนาจ

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า สุดท้ายคือเรื่องปราบโกง ซึ่งเห็นแต่การดำเนินการกับนักการเมืองและข้าราชการในเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนรัฐประหาร แต่หลายเรื่องที่เกิดในยุคนี้และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เช่น โครงการขุดลอกคูคลองของอผศ. งบประมาณตำบลละ 5 ล้านบาท กลับไม่มีกระบวนการตรวจสอบที่โปร่งใสชัดเจน ทำให้สงสัยว่า การปราบโกงมีประสิทธิภาพเฉพาะเรื่องเก่าหรือไม่ ทั้งนี้ โดยรวมแล้วตนเชื่อว่ารัฐบาลมีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหา แต่ด้วยแต้มต่อที่มีคืออำนาจเบ็ดเสร็จ จึงเป็นที่คาดหวังสูงของคนบางส่วน ต้องเร่งพิสูจน์ตัวเองต่อไป ส่วนเรื่องการเมืองเมื่อใช้วิธีที่ผิด ผลลัพธ์ก็ย่อมไม่ถูก แต่มาถึงขั้นนี้ถือว่าสังคมไทยต้องใช้เวลาในการหาข้อสรุปว่า ประชาธิปไตยต้องสร้างโดยอำนาจรัฐประหารหรืออำนาจประชาชน