นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สดับตรับฟังจากทุกฝ่ายก็เห็นว่าต่างก็ให้การสนับสนุนให้เกิดการปรองดอง และทุกคนก็ดูเหมือนจะมีข้อแม้อยู่ในใจด้วยกันแทบทั้งสิ้น ก็คิดว่าน่าจะสำเร็จได้ยาก ก็ต้องขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน โดยเริ่มต้นจากฝ่ายรัฐบาล คสช. ก่อน โดยท่านนายกฯประยุทธ์ และรองนายกฯ ประวิตร ต้องขอถามฝ่ายท่านก่อนว่า ท่านมีความจริงใจ และพร้อมที่จะเดินหน้าประเทศไปด้วยกันให้ได้ และให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองหรือไม่? ถ้าใช่ ก็ต้องขอให้ฝ่ายท่านยอมเสียสละและยอมรับความจริงกันก่อนบ้างได้หรือไม่? ท่านก็เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งในอดีต จะมามัวแต่คิดว่าฝ่ายตนเองเป็นพระเอกที่ต้องออกกันมาเพื่อห้ามศึกที่ฝ่ายการเมืองขัดแย้งกันหรือทะเลาะกันมาก่อนนั้น คิดว่าน่าจะหยุดพูดกันได้แล้ว ส่วนฝ่ายการเมืองหรือกลุ่มก้อนมวลชนต่างๆ ก็ต้องช่วยกันสนับสนุนและหาทางออกร่วมกันในแนวทางที่ทุกๆฝ่ายยอมรับกันให้ได้ จะให้ถูกใจกลุ่มหรือพวกตนเองทั้งหมดก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะทุกคนต่างก็มีส่วนร่วมในการทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งกันมา ไม่ใช่ไม่ทันที่จะเริ่มต้นพูดคุยหารือก็มีแต่ติติงและใช้คำว่า "แต่" แล้วมันจะคุยกันได้รู้เรื่องอย่างไร?
พวกเราทุกๆฝ่ายน่าที่จะเริ่มต้นกันได้หากละวางสิ่งเหล่านี้ไปก่อนเสีย กล่าวคือ 1) ต้องเลิกวิธีการฟื้นฝอยหาตะเข็บ ระหว่างกัน 2) ต้องยอมรับว่าที่ผ่านๆมานั้น ล้วนทำผิดพลาดด้วยกันทั้งสิ้น 3) เลิกคิดเอาแต่ได้ เอาชนะคะคานกันอยู่ฝ่ายเดียว และ 4) ทุกฝ่ายล้วนแต่มีผลประโยชน์แอบแฝง ซ้อนเร้นกันทั้งนั้น ซึ่งทั้ง 4 ข้อนี้ ถ้าพวกเราลืมกันให้ได้ เปิดใจกันให้กว้าง ให้อภัยซึ่งกันและกัน เลิกจองเวรจองกรรมกันเสียที ก็เชื่อว่าการพูดจาปรองดองกันก็น่าจะทำได้สำเร็จแน่ ทั้งนี้การจะไปบีบบังคับใครๆก็คงไม่ได้ พวกเราควรต้องรู้จักคิดเพื่อช่วยหาทางออกให้แก่ประเทศชาติของพวกเรา จะได้หันหน้ามาช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองกันได้เสียที ก็อยากฝากถึงทุกๆฝ่ายให้ยอมถอยกันคนละก้าวจะดีไหม?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น