วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
"อนุสรณ์" มองรัฐ IO ข่าวลอบสังหาร-กลบข่าวทุจริต
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการจุดกระแสข่าวลอบสังหาร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า "ถือเป็นประเด็นน่าสงสัย ที่จู่ๆบุคคลระดับรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ออกมาพูดเรื่องที่ไม่มั่นคง ไม่ปลอดภัยเสียเอง แล้วปฏิบัติการข่าวนี้ออกมาในขณะที่รัฐบาลกำลังเผชิญกับมรสุมปัญหารุมเร้าหลายด้าน มีเรื่องต้องให้แก้ไขอย่างหนัก ตั้งแต่ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นแย่ลง ตกจากอันดับที่ 76 มาอยู่ที่อันดับที่ 101 มีคะแนนเพียง 35 จาก 100 คะแนน อยู่ในลำดับที่ 101 จาก 176 ประเทศทั่วโลก ซึ่งถือว่าตกต่ำลงอย่างมาก เว็บไซต์วอชิงตันโพสต์เสนอบทวิเคราะห์ว่าประเทศไทยติดอันดับ 2 ของประเทศที่มีความเป็นไปได้ในการเกิดการปฏิวัติรัฐประหารขึ้นในปี 2560 หรือแม้แต่ประเด็นข้าราชการระดับสูงระดับรองอธิบดีขโมยภาพวาดที่ประเทศญี่ปุ่น เรื่องต่อสัญญาศูนย์ประชุมแห่งชาติยาว 50 ปี ที่สังคมสงสัยว่ารัฐบาลรัฐประหารที่มาจากการยึดอำนาจ ควรดำเนินการเรื่องนี้ในเวลานี้หรือไม่? มีประเด็นเอื้อประโยชน์ภาคเอกชนในลักษณะผลประโยชน์ต่างตอบแทนหรือไม่? จึงเกิดข้อสงสัยว่า ความพยายามที่จะเปิดประเด็นลอบสังหาร ต้องการสร้างมากลบประเด็นปัญหาเหล่านี้หรือไม่? เพราะในความเป็นจริง บุคคลระดับรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง มีชุดคุ้มกัน ด้วยมาตรการดูแลความปลอดภัยขั้นสูง โอกาสที่จะมีคนลอบสังหารจึงเป็นไปได้ยากถึงเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นหากจะมีปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารใดๆที่หวังจะมากลบปัญหาของรัฐบาล ต้องระวังถึงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นของประเทศ ซึ่งจะได้ไม่คุ้มเสีย เพราะถ้าขนาดบุคคลระดับรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ยังรู้สึกไม่มั่นคงแล้ว ประชาชน นักลงทุน นักท่องเที่ยว จะรู้สึกมั่นคงได้อย่างไร?"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามซื้อเรือดำน้ำเวลานี้เหมาะสมหรือไม่? นายอนุสรณ์ กล่าวว่า "ส่วนประเด็นความพยายามของรัฐบาล ที่จะเร่งรัดการจัดซื้อเรือดำน้ำในช่วงนี้ ซึ่งถือว่าไม่ได้มีความจำเป็นเร่งด่วน หรือการศึกสงครามอะไร ต้องดูสภาพเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลทำงบประมาณปี 61 ขาดดุล 4.5 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 60 ที่ขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท ในขณะที่ระบบเศรษฐกิจประเทศมีปัญหา ประชาชนเผชิญกับปัญหาข้าวยากหมากแพง สภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ การนำเงินภาษีของประชาชนจำนวนมาก มาจัดซื้อเรือดำน้ำหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ต้องระมัดระวัง การตัดสินใจเรื่องสำคัญๆและใช้งบประมาณจำนวนมากขนาดนี้ ควรรอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมาตัดสินใจ ดีกว่าหรือไม่ เหตุผลซื้อเพื่อรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ทางทะเล สังคมพอรับฟังได้ แต่ควรไปศึกษาข้อท้วงติงให้ครบถ้วน เช่นประเด็นท้องทะเลไทยไม่เหมาะกับการปฏิบัติการของเรือดำน้ำ เพราะน้ำตื้นสามารถถูกตรวจจับได้ง่าย ไม่อยากให้กองทัพและรัฐบาลผลีผลาม ใจเร็วด่วนได้ แล้วไม่เกิดประโยชน์สูงสุด เหมือน เรือเหาะ รถหุ้มเกราะยูเครน หรือ จีที 200"
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น