นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า "ข้อเสนอถอนฟ้องคดีการเมืองโดยจงใจยกตัวอย่างคดียึดสนามบินและทำเนียบรัฐบาลนั้น อาจสะท้อนทัศนะทางการเมืองหรือการเลือกข้างของสปท.บางคน แต่ส่วนตัวไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพราะคิดว่าเรื่องที่สมาชิก สปท.ต้องเข้าใจให้ตรงกันคือ ข้อเสนอจากสปท.วันนี้มีสถานะเท่ากับข้อเสนอของพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองทั้งหลาย เพราะยังต้องเข้าสู่การพิจารณาของปยป. และไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ที่ปยป.ต้องปฏิบัติตาม อาจจะตีตกไปทั้งฉบับเลยก็ได้"
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า "ตอนแรกหลายฝ่ายเข้าใจว่าเนื้องานจากสปท.จะส่งตรงถึงคสช.และรัฐบาลโดยตรง แต่พอมีการแต่งตั้งปยป.บทบาทของสปท.ทั้งเรื่องปฏิรูปและปรองดองก็แทบหมดลงทันที จนต้องอาศัยเรื่องป๋าอนุสรณ์ทำให้สปท.กลับมามีพื้นที่ข่าวใหญ่อีกครั้ง ส่งผลให้หลายฝ่ายมองว่า เรื่องการปรองดองซึ่งควรขับเคลื่อนอย่างเป็นเอกภาพตั้งแต่ช่วงแรกของการยึดอำนาจนั้น เป็นเพียงภารกิจจับแพะชนแกะที่ตั้งองค์กรหรือคณะกรรมการต่อกันมาเรื่อยๆ โดยหัวรถจักรไม่เคลื่อน แต่ท้ายขบวนยาวขึ้นทุกที"
"นปช.ยังพร้อมให้ความร่วมมือ เพราะองค์กรต่อสู้ทางการเมืองโดยยึดหลักสันติวิธีจะปฏิเสธช่องทางแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติไม่ได้ ทั้งนี้ วันพรุ่งนี้ (15 มี.ค. 2560) แกนนำ 10 คนจะเดินทางไปที่กระทรวงกลาโหมเพื่อนำเสนอความคิดเห็น ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ คำตอบสำหรับกรอบคำถาม 11 ข้อ และมุมมองเรื่องการสร้างความปรองดองโดยยึดโยงกับข้อเท็จจริงที่ผ่านมา ภายใต้หลักการและความเชื่อมั่นว่า ความปรองดองจะเกิดได้ด้วยการสร้างประชาธิปไตย หวังว่าบรรยากาศจะเป็นไปด้วยดี และเราในฐานะแขกรับเชิญจะได้พูดทุกประเด็นที่อยากพูดเพื่อประกอบการพิจารณาของผู้มีอำนาจ" นายณัฐวุฒิ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น