นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ อดีต ส.ส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความคิดที่จะเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 1% เป็น 8% แต่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ,นายวิษณุ เครืองาม และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาปฏิเสธ ซึ่งสร้างความสับสนอย่างมาก ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาให้ดี เพราะสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ประชาชนเดือดร้อนกันอย่างมาก การเพิ่มภาษีจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชนมากขึ้น สินค้าจะมีราคาสูงขึ้น และอาจจะทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจลดลง อีกทั้งจะถ่วงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะคิดว่าประชาชนไทยมีความทุกข์น้อยสุดจากการรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก จึงคิดว่าประชาชนจะทนความลำบากจากการขึ้นภาษีได้ แต่ความจริงคือประชาชนลำบากกันมาก การสำรวจของบลูมเบิร์กวัดจากการว่างงานของไทยที่มีระดับต่ำ เพราะวิธีคิดการว่างงานของไทยกำหนดไว้ในเกณฑ์ที่ต่ำมาก อีกทั้งคนว่างงานก็ยังย้ายไปอยู่ภาคเกษตรได้ และปัจจุบันการว่างงานก็เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และความลำบากของประชาชนทางเศรษฐกิจก็เพิ่มขึ้น ดังนั้นอาจจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในตอนนี้ โดยต้องคำนึงว่าที่ผ่านมาการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐมีประสิทธิภาพเพียงใด รัฐบาลใช้เงินอย่างมากแต่เศรษฐกิจกลับขยายตัวน้อยมาก โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่าจ่ายเงินช่วยคนจนกว่า 9 แสนล้านบาท แต่ประชาชนที่มีรายได้น้อยกลับไม่ได้รู้สึกว่าความเป็นอยู่ดีขึ้น อีกทั้งมีข้อกล่าวหาว่ามีการทุจริตจำนวนมากแต่ตรวจสอบไม่ได้ เพราะไม่มีฝ่ายค้าน อีกทั้งมีการใช้จ่ายจำนวนมากในการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งหากรัฐบาลยังแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ รัฐบาลก็ควรจะเชิญนายศุภชัย พานิชภักดิ์ เข้ามาบริหารเศรษฐกิจแทนทีมเศรษฐกิจปัจจุบัน เพราะนายศุภชัยตั้งใจเชียร์รัฐบาลได้ถึงขนาดนั้น โดยเฉพาะ เชียร์กระทั่งยุทธศาสตร์ 20 ปี ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ และไม่มีประเทศไหนที่เจริญเขาทำกัน ซึ่งอยากเห็นว่านายศุภชัยจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้หรือไม่ในภาวะการเมืองปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น