นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การที่ท่าน ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความตั้งใจที่ให้ทุกฝ่ายไม่ต้องนำตัวท่านมาเป็นเงื่อนไขในกระบวนการสร้างความปรองดอง ถือว่าท่านเป็นสุภาพบุรุษมาก ถึงแม้ว่าตัวเองจะถูกกระทำโดยใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมมากำจัดตัวท่าน และถือว่าโดนกระทำฝ่ายเดียวมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ท่านก็ขอเก็บความเจ็บปวดไว้เพียงคนเดียว และที่ผ่านมาท่านก็ไม่เคยพูดอะไรมานานแล้ว มีแต่เดินสายทำสิ่งดีๆ ด้วยการประชาสัมพันธ์ให้กับประเทศไทยว่าเป็นประเทศที่มีคุณภาพ และมีศักยภาพในการลงทุน และเป็นประเทศที่มีหน้ามีตาในสังคมโลก ในทุกๆครั้งที่ท่านมีโอกาสได้ไปบรรยายในต่างประเทศ วันนี้ขอเพียงให้ประเทศไทยเดินหน้าพ้นจากกับดักความขัดแย้ง เท่านั้นเป็นสิ่งที่เพียงพอแล้ว และตนเห็นว่าคนไทยก็อยากให้ประเทศสงบสุข ยุติความขัดแย้งต่างๆ และกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยเสียที เศรษฐกิจจะได้กลับมาดีเหมือนเดิม ชาวบ้านกลับมาทำมาหากินกันได้เสียที วันนี้จะตายกันหมดอยู่แล้วลงทุนอะไรไปก็มีแต่จะเจ๊ง
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า วันนี้ชาวบ้านเริ่มเบื่อหน่าย พวกคิดอะไรไม่ออกโทษใครไม่ได้ ก็ลง ทักษิณทุกที และส่วนใหญ่ก็เป็นเจ้าเก่าหน้าเดิมๆที่ส่วนใหญ่เป็นพวกไม่อยากให้บ้านเมืองสงบสุข อยากให้ประเทศมีความขัดแย้งอยู่อย่างนี้ เพราะคนกลุ่มนี้ได้ประโยชน์ มีความขัดแย้งทีไรได้มีอำนาจได้ตำแหน่งใหญ่โตทุกที รวมทั้งพวกนักการเมืองที่รู้ตัวว่าเลือกตั้งกี่ครั้งๆ ก็แพ้ ประชาชนเขาไม่เอาคนพวกนี้ ที่ถูกตราหน้ามาตลอดว่า เป็นพวกขี้แพ้ชวนตี พวกดีแต่พูด คนพวกนี้จึงไม่อยากให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยคงอยากให้บ้านเมืองวุ่นวายต่อไป โดยหวังส้มหล่น เผื่อผู้มีอำนาจ จะกระดิกนิ้วเรียกเข้าไปตั้งรัฐบาลในค่ายอีกใช่หรือไม่?
ส่วนกรณีที่ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ออกมากล่าวคำหยาบนั้น ตนรู้สึกผิดหวังกับคนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่อย่างนายวิรัตน์ ซึ่งน่าจะใช้ความรู้เรื่องกฎหมายออกมาทำให้กฎหมายเป็นกฎหมายจริงๆ เป็นที่พึ่งให้กับนักกฎหมายรุ่นหลัง กลับใช้ภาษาที่คนระดับนี้เขาไม่ใช้กันออกมาพูดเช่นนั้น วันนี้ตนอยากเรียกร้องให้นายวิรัตน์ ใช้ความรู้ความสามารถไปช่วยกันร่างนโยบายที่ถูกใจคนไทยทั้งประเทศ เลือกตั้งคราวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะได้คะแนนอย่างถล่มทลาย และจะได้มาเป็นรัฐบาลแบบสง่างามไม่ต้องให้ใครมาดูถูกดูแคลนได้
"วันนี้แฟนคลับผู้ศึกษารัฐศาสตร์การปกครองและนิติศาสตร์รอไอดอลของเขาอยู่ ก็คือเจตนารมณ์ของการจัดตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตั้งมามากกว่าครึ่งศตวรรษที่ประกาศแล้วประกาศเล่าว่า จะส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการ วันนี้อะไรปิดปากพวกท่านอยู่ หรือคำว่า "ส้มหล่น" อยู่เหนืออุดมการณ์ไปเสียแล้ว" นายจิรายุกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น