วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

"จิรายุ" ห่วงงบซื้อเรือดำน้ำ แนะ สตง.เร่งสอบ


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะเข้าไปตรวจสอบเรื่องของงบประมาณในการซื้อเรือดำน้ำนั้น สังคมกำลังสงสัยว่าที่ผ่านมา สตง. จะเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนได้จริงหรือไม่? และจะเอาผิดใครได้ขนาดไหน? อย่างไร? อย่าให้เป็นแค่การโชว์พาวเวอร์ให้ผู้มีอำนาจเห็นในช่วงหมดวาระของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และอยู่ในขั้นตอนเสนอชื่อ จึงออกมาเด้งรับว่า ถึงขนาดจะไปขอข้อมูลถึงสัตหีบ ในประเด็นดังกล่าวนี้อยากให้ สตง. ไม่ต้องไปถึงกองทัพเรือ เพราะกองทัพเรือเป็นปลายทางในการรับเรือไปใช้งานคงได้เอกสารและคำตอบที่เหมือนกับการแถลงข่าวออกโทรทัศน์

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า สตง. ต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนให้ได้เพราะท่านเป็นองค์กรอิสระที่เหลือไม่กี่องค์กร ที่กำลังจะไม่เป็นอิสระ อย่าให้อำนาจในการเสนอชื่อผู้ว่าฯสตง. คนใหม่ มาทำให้สั่นคลอนองค์กรที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน เพราะวันนี้ชาวบ้านเกรงว่าอาจจะเป็นมวยล้มต้มคนดู เป็นการฟอกขาว เพราะในการเสนอชื่อผู้ว่าฯสตง. คนใหม่ ก็เป็นอำนาจของหัวหน้า คสช. ใช่หรือไม่? และคนลงมติให้ใครได้เป็นผู้ว่าฯ ก็ขึ้นอยู่กับสมาชิก สนช. ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. ไม่ใช่หรือ?

ซึ่งสาระสำคัญที่ สตง. น่าจะไปตรวจสอบคือ การใช้งบประมาณแผ่นดินประจำปีที่เพิ่งผ่านการอนุมัติจาก สนช. ที่พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้มาจากประชาชน แต่กำลังทำหน้าที่พิจารณาการใช้งบประมาณอันเรียกเก็บมาจากภาษีของประชาชน ว่าการใช้งบประมาณสูงขนาดนี้ไปซื้อเรือดำน้ำในภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ รอดหูรอดตา สนช. ผู้ทรงคุณค่าไปได้อย่างไร? ไม่มีสมาชิก สนช. หรือกรรมาธิการงบประมาณทักท้วงเพื่อประชาชนตาดำๆบ้างเลยหรือ? ซึ่งดูแล้วน่าจะผิดทั้งระเบียบวิธีพิจารณาเงินงบประมาณแผ่นดิน และผิดพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี ประเด็นตรงนี้ต้องมีคนรับผิดชอบอย่างไร? สตง. อย่าเสียเวลาไปดูเรือจักรีนฤเบศที่กองทัพเรือเลย น่าจะไปดูว่าจะเอาเงินตรงไหนไปจ่ายจีนเขา หรือจะไปใช้งบลับ และงบลับพอจ่ายหรืออย่างไร? สตง. ควรจะไปติดตามตรวจสอบในประเด็นดังกล่าว

ส่วนกรณีที่ คณะรัฐมนตรีขยันทำงานอนุมัติผ่านให้ซื้อเรือดำน้ำจากจีน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์วันที่ 18 เมษายน 2560 นั้น สำนักงานปราบโกงของพรรคเพื่อไทยได้ติดตามตรวจสอบพบสิ่งผิดปกติหลายประเด็น อาทิเช่น ตกลงเป็นเรื่องลับหรือไม่ลับ? เพราะวันนี้เว็บไซต์จำนวนมากเผยแพร่เรื่องคุณสมบัติสเปคเรือดำน้ำ มาก่อนที่จะมีการอนุมัติเสียด้วยซ้ำ

และรัฐบาลได้ตั้งงบประมาณไว้เพื่อการนี้หรือไม่อย่างไร? อีกทั้งการพิจารณางบประมาณประจำปีที่ สนช. พิจารณาได้มีการบรรจุเรื่องนี้ไว้หรือไม่อย่างไร? และ สนช. ที่ร่วมกันพิจารณางบประมาณแผ่นดินอันมาจากภาษีประชาชนนั้นมีอยู่ตั้ง 250 คน ไม่มีใครทักท้วงเรื่องนี้บ้างเลยหรืออย่างไร? และการพิจารณาในวาระที่ 1 จนมากระทั่งวาระที่ 2 ที่มีการตั้งคณะกรรมาธิการ ไม่มีใครแสดงความคิดเห็นหรือทักท้วงการใช้งบประมาณในการซื้อเรือดำน้ำนี้เลยแม้แต่คนเดียวและผ่านกรรมาธิการงบประมาณไปได้อย่างไร? หรือเป็นเพราะว่าอยากจะโชว์ผลงานให้เข้าตา คสช. เผื่อจะได้เข้ามาเป็นสมาชิกวุฒิสภาแบบแต่งตั้งอีกครั้งในสมัยหน้า เลยทำเป็นมองไม่เห็น การใช้งบประมาณเรื่องเรือดำน้ำในภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น