นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายสงัด ปัถวี รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบและเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลปกครองว่าการเสนอและการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. การจัดทำยุทธศาสตร์ พ.ศ... และร่าง พ.ร.บ. แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ... เข้าลักษณะเป็นกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 231 (2) หรือไม่?
โดยนายเรืองไกรกล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติ 2 ฉบับ ดังกล่าวทราบว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะมีการพิจารณาวาระสองและสามในวันที่ 22 มิ.ย. นี้ แต่จากที่ตนได้ตรวจสอบ พบว่าคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายทั้งสองฉบับเมื่อวันที่ 4 เม.ย. และนายกรัฐมนตรีลงนามหนังสือถึงประธาน สนช. ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้พิจารณาในวันเดียวกัน และเมื่อมาตรวจสอบในส่วนของเหตุผลประกอบร่างกฎหมายดังกล่าวก็พบว่า มีการอ้างบทบัญญัติมาตรา 65 ของรัฐธรรมนูญ 60 ในการตรา พ.ร.บ. การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติพ.ศ.... และบทบัญญัติมาตรา 259 ในการตรา พ.ร.บ. แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ ทั้งที่ในวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวไปยัง สนช. รัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 65 และมาตรา 259 ยังไม่มีผลใช้บังคับ การระบุ เหตุผลในการตราร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับจึงไม่ถูกต้อง เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 60 มีการประกาศและมีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 เม.ย. จึงเห็นว่าการเสนอและการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับ โดยอ้างบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 60 ก่อนที่จะมีผลใชับังคับนั้นเข้าข่ายเป็นกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญมาตรา 231(2)
"ฝากถึงคณะรัฐมนตรี และ สนช. ว่าจะทำยังไงก็ได้ ขอให้นำร่างนี้กลับไปพิจารณาใหม่ ร่างกฎหมาย 2 ฉบับนี้ไปต่อไม่ได้ เพราะ สมัยที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็น สนช. และนายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธานวุฒิสภา มีการเสนอร่าง พ.ร.บ. มหาวิทยาลัยทักษิณ ตัวเนื้อกฎหมาย หรือตัวบทกฎหมายไม่ได้มีปัญหา แต่มีการอ้างวรรคกฎหมายผิด นายวิษณุ ก็อภิปรายเอง เรื่องพวกนี้จะผิดและปล่อยผ่านไปไม่ได้ ดังนั้นร่างพระราชบัญญัติ 2 ฉบับที่ สนช. กำลังจะมีการพิจารณาวาระสาม ในวันที่ 22 มิ.ย. จึงไม่ควรที่จะเป็นการพิจารณาเพื่อตราเป็นกฎหมาย เพราะถ้าเลยไปถึงชั้นนั้นก็ต้องมีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ ที่ประชุม สนช. จึงควรพิจารณาคว่ำร่าง หรือถ้าจะให้เกิดผลเสียน้อยที่สุดคณะรัฐมนตรี ก็ควรจะเสนอขอถอนร่างกลับไป เพื่อนำไปให้ ครม. พิจารณาใหม่ให้ถูกต้องและเสนอกลับมาให้ สนช. พิจารณาทีเดียว 3 วาระรวดก็ได้" นายเรืองไกร กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากดำเนินการเช่นนี้ ก็จะทำให้ผู้ตรวจหมดประเด็นที่จะวินิจฉัยและสั่งยุติเรื่องได้เช่นกัน รวมถึงการนำร่างกฎหมายไปพิจารณาใหม่ก็ไม่น่าทำให้การออกกฎหมายดังกล่าวช้าจนเกินกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วันนับแต่รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น