วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2560

"จาตุรนต์" เผยรัฐประหารเป็นเหตุ อารยประเทศงดเชิญประยุทธ์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

จาก คำปรารภของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ ผมอยากจะแสดงความเห็นและความรู้สึก ก็คือ ข้อความในส่วนที่ว่า “…เพียงแต่ไม่ให้ผม(พล.อ.ประยุทธ์)เดินทางไปเยือนเพียงคนเดียว” นี้มากกว่า

พล.อ.ประยุทธ์พูดเหมือนกับจะขอความเห็นใจที่ไปเยือนต่างประเทศไม่ได้อยู่คนเดียว แต่พล.อ.ประยุทธ์ก็ควรเข้าใจว่า ที่ประเทศต่างๆหลายประเทศไม่อนุญาตให้พล.อ.ประยุทธ์ไปเยือน เพราะท่านเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารที่เข้าสู่อำนาจด้วยวิถีทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและยังคงอยู่ในอำนาจในฐานะหัวหน้าคสช. ...

ที่เขาต้องแสดงความไม่ยอมรับการอยู่ในอำนาจของหัวหน้าคณะรัฐประหารก็เพราะการมีอำนาจเบ็ดเสร็จโดยคนๆเดียวนั้นเป็นการปกครองที่ปราศจากหลักนิติธรรม ทำให้เกิดการละเมิดสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน ซึ่งมักนำสังคมไปสู่ความขัดแย้ง ความรุนแรงและการสูญเสียได้

แต่เมื่อท่านปรารภออกมาเหมือนกับจะมีความรู้สึกลึกๆอะไรอยู่ในใจก็ดีแล้ว ผมก็อยากจะปรารภกับท่านเหมือนกันว่า ผมก็ไปต่างประเทศไม่ได้เหมือนกัน จำนวนประเทศที่ผมไปไม่ได้มีมากกว่าท่านเสียอีก เพราะไปประเทศไหนก็ไม่ได้ เพื่อนๆที่เป็นอดีตรัฐมนตรี เป็นนักการเมืองหรือนักวิชาการเขาไปต่างประเทศกันได้หมด มีผมไปไม่ได้อยู่คนเดียว

ที่ผมไปต่างประเทศไม่ได้ ไม่ใช่เพราะต่างประเทศไม่อนุญาตให้ไป แต่เป็นเพราะท่านนั่นแหละที่ไม่ให้ผมไป เมื่อก่อนเคยมีบางประเทศเชิญผมไปเยือน แต่ท่านในฐานะหัวหน้าคสช.ไม่อนุญาตเพราะผมไปวิจารณ์ท่านเข้า ต่อมาพอผมวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ รัฐบาลของท่านก็ยกเลิกหนังสือเดินทางของผมทุกฉบับ ผมร้องศาลปกครอง ศาลปกครองกลางตัดสินว่าการยกเลิกหนังสือเดินทางของผมไม่ชอบด้วยกฏหมาย รัฐบาลของท่านก็ยังอุทธรณ์ต่อ ทำให้ผมยังไม่ได้หนังสือเดินทาง ต้องรอจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะตัดสินเสียก่อน

การไปต่างประเทศไม่ได้ของท่านกับผมนี้ ต้องเรียกว่าเป็นคนละเรื่องเดียวกัน คือ มีทั้งเหมือนกันและต่างกัน

เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ ไปต่างประเทศไม่ได้ ต่างกันที่สาเหตุ ท่านไปต่างประเทศไม่ได้เพราะประเทศต่างๆเขาไม่อนุญาต เนื่องจากท่านเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารที่ยังอยู่ในอำนาจ ผมไปไม่ได้เพราะท่านไม่อนุญาตเนื่องจากผมไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารและไปวิจารณ์ท่านกับร่างรัฐธรรมนูญของพวกท่าน ทั้งๆที่ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไรเลย

ที่เหมือนกันอีกอย่าง ก็คือ ถ้าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย และถ้าท่านและผมอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งท่านและผมก็คงมีเสรีภาพที่จะเดินทางไปประเทศไหนก็ได้ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น