"จิรายุ" กังวลบัตรคนจนเอื้อนายทุน-รัฐเปิดช่องทุจริต

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลใช้นโยบายแบบประชานิยม ในการแจกบัตรคนจนในขณะนี้นั้น ว่า "ตนเห็นว่ารัฐบาลทำเหมือนกับปานประหนึ่งว่า กำลังจะหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้รังเกียจรังงอนกับการดูแลประชาชนคนรากหญ้า เพราะกลัวว่าจะเข้ารูปแบบประชานิยม แต่การออกบัตรคนจนไปรูดรับของฟรีในลักษณะนี้จะให้เรียกว่านโยบายแบบไหน? ทั้งนี้รัฐบาลไม่ควรเร่งรีบและต้องยอมรับความจริงว่าประเทศไทยยังเจริญไม่ทั่วถึง  มีเพียงไม่กี่จังหวัดไม่กี่อำเภอ ไม่กี่ตำบลไม่กี่หมู่บ้านที่มีความพร้อมในอุปกรณ์เครื่องรูดบัตรในลักษณะแบบบัตรเครดิตที่ต้องมีระบบออนไลน์เชื่อมกับระบบโทรศัพท์และฐานข้อมูล เพราะที่เหลือจะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน เพราะหลายหมู่บ้านหลายตำบลไม่มีความพร้อมกรณีเครื่องรูดบัตร หมู่บ้านในถิ่นทุรกันดารคนบนภูเขาจะถูกเลือกปฏิบัติหรือไม่? แม้รัฐบาล คสช. บอกว่ามีร้านธงฟ้าที่สามารถใช้บัตรได้ แต่ขอถามว่าร้านธงฟ้ามีอยู่แห่ง? ชาวบ้านที่อยู่ในชนบทเป็นสิบล้านคน เขาจะต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าพาหนะ เข้ามารูดในเมืองจะคุ้มค่าเดินทางได้อย่างไร? ซึ่งตนเห็นว่าควรใช้บัตรได้กับร้านทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะธงฟ้าเท่านั้น"
     
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า "วันนี้รัฐบาล คสช. ควรไปสร้างระบบที่สามารถซื้อสินค้าจากเกษตรกรรายย่อยให้ลืมตาอ้าปากได้ด้วย ถึงจะได้ช่วยเหลือคนรากหญ้าอย่างแท้จริง เพราะโครงการนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าเอื้อนายทุนหรือไม่? และทำนโยบายแจกเงินแบบเฮเลคอปเตอร์มันนี่ มันง่ายไปหรือเปล่า? นโยบายหาเงินเข้าประเทศมีอะไรบ้างที่เป็นมรรคเป็นผล รูปแบบนี้เห็นกันชัดๆว่าเป็นการแจกเงิน ตกลงแล้ว เป็นประชานิยมหรือไม่? ติดกับดักประชานิยมแล้วหรืออย่างไร? อย่าให้ใครกล่าวได้ว่ารัฐบาล คสช. ถ่มน้ำลายรดฟ้า เพราะที่ผ่านมาก็ออกมาแสดงการรังเกียจแนวทางลักษณะเช่นนี้มาตลอด"

นายจิรายุ กล่าวต่อไปอีกว่า "นโยบายแบบนี้ กระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ได้น้อยมาก แถมยังมีช่องทางทุจริตมาก หากเกิดทุจริตขึ้นมาอย่างนี้นายกรัฐมนตรีผู้ออกนโยบายจะต้องรับผิดชอบหรือไม่? เพราะวันนี้ขนาดอธิบดีกรมบัญชีกลางยังออกมายอมรับแล้วว่าเกิดการทุจริตเกิดขึ้นแล้วโดยมีการฮั้วกับร้านค้าโดยใช้วิธีการรูดบัตรคนจนซื้อของ แต่รับเงินสดของไม่ได้รับไป"

นายจิรายุ กล่าวในที่สุดว่า "พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อย แต่วิธีการดำเนินการต้องฉลาดและมีประสิทธิผล มากกว่าที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ และยิ่งธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตอกย้ำในวันนี้ว่านโยบายบัตรคนจนไม่สามารถจะไปกระตุ้นเศรษฐกิจหรือ GDP ของประเทศได้  เรื่องอย่างนี้รัฐบาล คสช. ก็ควรจะฟังบ้าง"