ร้อยโทหญิง สุณิสา เลิศภควัต อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์โดยมีเนื้อหาดังนี้
แค่บอกว่า ชะลอโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วนั้น มันยังไม่พอหรอกค่ะ ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อยกเลิกโครงการ ถึงจะเชื่อได้ว่าจะไม่ซื้อจริงๆ ไม่อย่างนั้น ก็แอบซื้อกันได้ เหมือนที่เคยแอบซื้อเรือดำน้ำนั่นแหละค่ะ
ถึงแม้จะมีข่าวว่าตอนนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. จะชะลอโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพาออกไปก่อนเพราะถูกโจมตีอย่างหนักว่าราคาแพงเกินไปและตั้งสเปคเครื่องไว้สูงเกินความจำเป็นนั้น แต่สังคมก็อย่าเพิ่งวางใจ
เพราะโครงการจัดซื้อดังกล่าวได้รับอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณไปแล้ว แปลว่า กำเงินอยู่บนมือแล้ว เหลือแค่ขั้นตอน ควักเงินออกมาใช้เท่านั้น
ดังนั้น แค่ชะลอการซื้อก็ยังไม่พอ แต่ต้องมีการคืนงบประมาณกลับเข้าคลังโดยการขอยกเลิกโครงการดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ไม่อย่างนั้น หากประชาชนเผลอเมื่อไหร่ ผู้เกี่ยวข้องก็จะยังสามารถแอบสานต่อเรื่องนี้ได้ทุกเมื่อ เพราะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อนุมัติกรอบวงเงินไว้ให้แล้ว
ทั้งนี้ หากรัฐบาลมีความจริงใจ ก็ควรนำเรื่องเข้าพิจารณาใน ครม เพื่อยกเลิกโครงการดังกล่าวให้ชัดเจน ประชาชนจึงจะสบายใจได้ว่าจะไม่มีใครแอบใช้เงินก้อนดังกล่าวซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วสูงที่ราคาแพงเกินจริงได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่า เหตุที่มีการชะลอโครงการอื้อฉาวนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับกระแสข่าวการปรับ ครม. จนทำให้บรรดารัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ ไม่กล้าขยับตัวในช่วงนี้ และคงรอดูสถานการณ์ก่อน ว่าจะมีการ ปรับ ครม. จริงหรือไม่ เพราะกลัวถูก พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ข่าวฉาวเป็นข้ออ้างเพื่อปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ถ้าพ้นระยะอันตรายไปแล้ว และเห็นว่าเก้าอี้ยังมั่นคงดีอยู่ อีกทั้งหากสังคมเผลอเมื่อไหร่ ก็อาจมีการกำหนด TOR และจัดซื้อเครื่องมือดังกล่าวเมื่อไหร่ก็ได้ เหมือนที่เคยมีการแอบซื้อเรือดำน้ำและแอบใช้ ม.44 ยกเลิก ก.ม ผังเมืองใน 3 จังหวัดชายทะแลภาคตะวันออกมาแล้ว
ดังนั้น จึงต้องมีการยกเลิกโครงการโดย มติ ครม. เท่านั้น สังคมจึงจะมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการแอบซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วราคาแพงดังกล่าวจริง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น