นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาระบุ การจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วของกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 573,075,000 บาท เพื่อจัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา 849 เครื่อง แพงเกินจริง กำลังทบทวนความจำเป็นในการจัดซื้อ ว่า ยังไม่ต้องประเมินความคุ้มค่าในการใช้งาน เอาเฉพาะราคาจัดซื้อที่แพงเกินจริงถึง 9 เท่า สังคมก็วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก แม้แกนนำรัฐบาลจะออกมาช่วยกันชี้แจงเกือบครบทุกคนก็ไม่ช่วยอะไร เพราะชาวบ้านตั้งคำถามว่า รัฐบาลนี้เอาอีกแล้วหรือ? มีประเด็นให้ต้องติดตามตรวจสอบอีกแล้ว ตั้งแต่ GT200 เรือเหาะ ถูกตั้งคำถามเอื้อเอกชนรายใหญ่รุกป่าชุมชนหรือไม่?
ดังนั้นสังคมไม่อยากเห็นองค์กรอิสระ ทำตัวเป็นสารฟอกขาว การตรวจสอบต้องทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่เลือกปฏิบัติ และต้องมีคำตอบอธิบายกับสังคมได้ ถ้าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเรื่องลักษณะนี้จะต้องถูกไล่บี้ตรวจสอบอย่างหนักจากทุกภาคส่วน แม้รัฐบาลนี้จะมาด้วยวิธีพิเศษ แต่ก็ไม่มีข้อยกเว้นว่าจะได้รับสิทธิพิเศษจนตรวจสอบไม่ได้ การทบทวนจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วนั้น เป็นเพราะทนกระแสสังคมไม่ได้หรือไม่? เมื่อเรื่องเงียบแล้วจะเดินหน้าดำเนินการต่อไปหรือไม่? และยังมีเรื่องอื่นๆในลักษณะนี้ในกระทรวงมหาดไทยอีกหรือไม่? ประชาชนจะไว้วางใจได้อย่างไรว่าโครงการจัดซื้อในลักษณะนี้จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น