นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวว่า ในฐานะประชาชน ตนเห็นว่าสาระสำคัญในการเรียกร้องให้ปลดล็อคพรรคการเมืองนั้น ไม่ได้อยู่ที่แต่ละพรรคจะเตรียมตัวลงเลือกตั้งทันหรือไม่ แต่หัวใจของเรื่องคือการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย เมื่อ พ.ร.บ.พรรคการเมือง บังคับใช้มากว่า 1 เดือนแล้ว ผู้มีอำนาจไม่ควรจะถ่วงรั้งเอาไว้ ไม่เช่นนั้นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดมาตลอดว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายจะกลายเป็นเรื่องหลักลอย เชื่อไม่ได้ ทั้งนี้ เท่าที่ดูท่าทีของฝ่ายการเมืองที่ตั้งคำถามก็อยู่บนพื้นฐานของการเข้าใจข้อเท็จจริงและถ้อยทีถ้อยอาศัย เช่น ช่วงเดือนตุลาคมไม่มีพรรคไหนเรียกร้องจะทำกิจกรรม หรือพอเข้าเดือนพฤศจิกายนก็ทวงถามแบบยอมรับความจริงว่า ถึงแม้ปลดล็อคก็คงมีข้อจำกัดบางประเด็น จะขับเคลื่อนเต็มรูปแบบคงยังไม่ได้ เรื่องนี้จึงน่าจะมีข้อยุติด้วยเหตุผลมากกว่าการแสดงอารมณ์ เพราะกฎหมายไม่สามารถบังคับใช้ตามความพอใจของใครหรือคนกลุ่มไหนได้
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าแม้วันนี้ยังไม่ปลดล็อค แต่พรรคการเมืองคงเตรียมความพร้อมเท่าที่ทำได้เพื่อให้ทุกอย่างทันเวลา ดังนั้น สิ่งที่ถูกล็อคอยู่วันนี้จึงไม่ใช่พรรคการเมือง แต่เป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ผ่านทุกขั้นตอนแล้วแต่ยังไม่บังคับใช้ เมื่อกฎหมายลูกถูกล็อค ก็เหมือนจับลูกเป็นตัวประกัน ตัวแม่คือรัฐธรรมนูญ จึงเท่ากับถูกงดใช้บางมาตราไปด้วย ทั้งนี้ หากห่วงเรื่องความมั่นคงตนมั่นใจว่า ไม่มีใคร พรรคไหนคิดจะเคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาล ถ้ามีคงไม่รอกันถึงวันนี้ สิ่งที่ควรพิจารณาคือ เมื่อใช้อำนาจออกกฎหมายมาแล้วก็ต้องปฏิบัติตาม เพราะกฎหมายประกาศบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษา ไม่ได้จารึกบนผืนทราย จะเขียนด้วยมือแล้วลบด้วยเท้าไม่ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น