วันพุธที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2561

ทีมทนายพานทองแท้ ยื่นขอความเป็นธรรมคดีกรุงไทย ถูกตัดพยาน-ไม่เป็นกลาง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00น. ที่ผ่านมา ทนายชุมสาย ศรียาภัย ในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของ นายพานทองแท้ ชินวัตร เดินทางไปยื่นหนังสือขอความธรรมในคดีกรุงไทยต่ออัยการสูงสุดและอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ทนายชุมสาย ระบุว่า "วันนี้ นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้มอบอำนาจให้ทนายความ มายื่นหนังสือ 2 ฉบับ โดย ฉบับแรก เป็นหนังสือขอความเป็นธรรม ถึงอัยการสูงสุด เพื่อขอให้ตรวจสอบและสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ของนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ พนักงานอัยการสอบสวนร่วมในคดีพิเศษที่ 25/2560 ด้วยเหตุที่น่าเชื่อว่าได้ปฏิบัติหน้าที่โดยมีอคติ ไม่เป็นธรรมต่อผู้ต้องหา หรือน่าเชื่อว่าปฏิบัติเกินกว่าอำนาจหน้าที่ ที่กฎหมายกำหนด อาทิ เช่น การให้สัมภาษณ์ในเชิงวิจารณ์ผู้ต้องหาในลักษณะไม่เป็นกลาง พฤติการณ์ในการชี้นำและแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 25/2560 ทั้งที่ขอบเขตอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการสอบสวนร่วมที่มีอำนาจกระทำได้ คือ การให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเท่านั้น ซึ่งพฤติกรรมการกระทำของนายขจรศักดิ์ อาจทำให้ผู้ต้องหาไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ได้ให้โอกาสผู้ต้องหาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131 และ มาตรา 134 อันเป็นหลักการสำคัญตามกฎหมายในกระบวนการชั้นสอบสวน"

"ฉบับที่ 2 เป็นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้กำกับดูแล และสั่งการให้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในคดีพิเศษที่ 25/2560 สอบพยานเพิ่มเติมให้ครบถ้วน อันเป็นการให้โอกาสผู้ต้องหาในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131 และ มาตรา 134 เนื่องจากการตัดพยานสำคัญที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหากว่าสิบปากนั้น อาจเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบและไม่เป็นธรรมของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่จะไม่ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา อันอาจเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา นอกจากนี้ ยังมีความน่าสงสัยว่าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 25/2560 อาจถูกชี้นำ หรือแทรกแซง การปฏิบัติหน้าที่จากนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ ในฐานะพนักงานอัยการสอบสวนร่วม จนอาจทำให้ นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากการใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ และไม่เป็นธรรมในการตัดพยาน ตลอดจนในการให้สัมภาษณ์ข่าวกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่อาจกระทำไปโดยไม่มีอำนาจหน้าที่ด้วย"

"ทั้งนี้ นายพานทองแท้ หวังให้ผู้มีอำนาจกำกับดูแลองค์กรและบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่สอบสวนคดีพิเศษ ในคดีพิเศษที่ 25/2560 ได้อำนวยความยุติธรรมเพื่อให้เกิดความชอบธรรมตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ซึ่งมุ่งให้ประชาชนได้รับการดำเนินกระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรมและปราศจากการแทรกแซงหรือครอบงำ ซึ่งทั้ง 2 ท่านที่นายพานทองแท้ ได้ร้องขอความเป็นธรรมไปนี้ ล้วนเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและความยุติธรรมอันเป็นที่พึ่งของประชาชน จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับการพิจารณาดำเนินการตามหนังสือขอความเป็นธรรมดังกล่าว อย่างเป็นธรรมและรวดเร็ว" ทนายชุมสาย ระบุ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น