นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี อีสานโพลศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน ม.ขอนแก่น เผยผลสำรวจหัวข้อ “คนอีสานกับการ (จะได้) เลือกตั้ง” พบว่าประชาชนจะสนับสนุนพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 39.7 ว่า พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่น พรรคเพื่อไทยยังคงต้องทำงานอย่างหนักต่อไป ทั้งการปฏิรูปพรรค การเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ การทำวิจัยเพื่อคิดและและพัฒนานโยบาย ที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศชาติให้เป็นผลสำเร็จ ส่วนการที่ประชาชนจะเลือกพรรคที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงร้อยละ 3.4 เป็นเรื่องที่พลเอกประยุทธ์และเครือข่ายทั้งหมดต้องไปประเมินว่าทำไมช่วงระยะเวลา4ปีของการเข้ามาบริหารประเทศ ประชาชนจึงไม่ให้การยอมรับและไม่เชื่อมั่น ทั้งที่พยายามผลักดันสารพัดโครงการ ใช้งบประมาณ ใช้องคาพยพจำนวนมากในการทำโครงการ แต่กลับไม่ได้รับการยอมรับ เสียงสนับสนุนพรรคทหารยังไม่กระเตื้อง ทั้งที่ไม่ติดขัดเงื่อนไขและข้อผูกมัดใดๆในการทำกิจกรรม หาเสียงล่วงหน้าทุกรูปแบบ ในขณะที่สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจเรื่อง “ประชาชนคิดอย่างไรกรณีเลื่อนเวลาเลือกตั้ง” พบว่า ร้อยละ 48.27 ระบุ อยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย สะท้อนว่าประชาชนต้องการการเลือกตั้งโดยเร็วมาดับวิกฤติเศรษฐกิจจากสภาพปัญหาในปัจจุบัน ประชาชนยากลำบากอย่างหนักถ้วนหน้า รัฐบาลคสช.บอกว่าขอเวลาอีกไม่นาน แต่อยู่เกือบจะ 5 ปี เศรษฐกิจไม่ดี ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาบ่งชี้ว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจไม่ได้รับการแก้ไข รวยกระจุก จนกระจายเศรษฐกิจไม่กระจายตัวลงสู่ฐานราก ประกอบกับบอกว่าจะมีการเลือกตั้งก็ไม่มี ประชาชนเลยต้องออกมาชุมนุมเรียกร้อง จนโดนมาตรา 116 ตนจึงหวังว่า รัฐบาลจะทำตามโรดแมป ปลดลอคพรรคการเมืองให้ทำกิจกรรมได้ เพื่อเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งที่ประชาชนคาดหวังไว้ ไม่ตั้งข้อกล่าวหารุนแรงเกินจากสภาพที่แท้จริงกับประชาชนที่มาชุมนุม และต้องสำรวจตัวเองว่า ถ้ารักษาคำสัญญาเลือกตั้ง ประชาชนคงไม่ต้องมาเสียเวลาชุมนุมเรียกร้อง ใครคือคนสร้างปัญหา ใครคือต้นเหตุที่ทำให้ประชาชนออกมาชุมนุมเรียกร้องเพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว
วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
”อนุสรณ์” ชี้ ประชาชนชุมนุม เพราะรัฐยื้อเลือกตั้ง-ไม่รักษาสัญญา
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี อีสานโพลศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน ม.ขอนแก่น เผยผลสำรวจหัวข้อ “คนอีสานกับการ (จะได้) เลือกตั้ง” พบว่าประชาชนจะสนับสนุนพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 39.7 ว่า พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่น พรรคเพื่อไทยยังคงต้องทำงานอย่างหนักต่อไป ทั้งการปฏิรูปพรรค การเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ การทำวิจัยเพื่อคิดและและพัฒนานโยบาย ที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศชาติให้เป็นผลสำเร็จ ส่วนการที่ประชาชนจะเลือกพรรคที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงร้อยละ 3.4 เป็นเรื่องที่พลเอกประยุทธ์และเครือข่ายทั้งหมดต้องไปประเมินว่าทำไมช่วงระยะเวลา4ปีของการเข้ามาบริหารประเทศ ประชาชนจึงไม่ให้การยอมรับและไม่เชื่อมั่น ทั้งที่พยายามผลักดันสารพัดโครงการ ใช้งบประมาณ ใช้องคาพยพจำนวนมากในการทำโครงการ แต่กลับไม่ได้รับการยอมรับ เสียงสนับสนุนพรรคทหารยังไม่กระเตื้อง ทั้งที่ไม่ติดขัดเงื่อนไขและข้อผูกมัดใดๆในการทำกิจกรรม หาเสียงล่วงหน้าทุกรูปแบบ ในขณะที่สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจเรื่อง “ประชาชนคิดอย่างไรกรณีเลื่อนเวลาเลือกตั้ง” พบว่า ร้อยละ 48.27 ระบุ อยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย สะท้อนว่าประชาชนต้องการการเลือกตั้งโดยเร็วมาดับวิกฤติเศรษฐกิจจากสภาพปัญหาในปัจจุบัน ประชาชนยากลำบากอย่างหนักถ้วนหน้า รัฐบาลคสช.บอกว่าขอเวลาอีกไม่นาน แต่อยู่เกือบจะ 5 ปี เศรษฐกิจไม่ดี ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาบ่งชี้ว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจไม่ได้รับการแก้ไข รวยกระจุก จนกระจายเศรษฐกิจไม่กระจายตัวลงสู่ฐานราก ประกอบกับบอกว่าจะมีการเลือกตั้งก็ไม่มี ประชาชนเลยต้องออกมาชุมนุมเรียกร้อง จนโดนมาตรา 116 ตนจึงหวังว่า รัฐบาลจะทำตามโรดแมป ปลดลอคพรรคการเมืองให้ทำกิจกรรมได้ เพื่อเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งที่ประชาชนคาดหวังไว้ ไม่ตั้งข้อกล่าวหารุนแรงเกินจากสภาพที่แท้จริงกับประชาชนที่มาชุมนุม และต้องสำรวจตัวเองว่า ถ้ารักษาคำสัญญาเลือกตั้ง ประชาชนคงไม่ต้องมาเสียเวลาชุมนุมเรียกร้อง ใครคือคนสร้างปัญหา ใครคือต้นเหตุที่ทำให้ประชาชนออกมาชุมนุมเรียกร้องเพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น