วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2561

"อนุสรณ์" ถาม ระหว่าง กกต.-คสช. ใครทำสังคมสับสน?


นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี การใช้อำนาจมาตรา 44 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ปลดนายสมชัย ศรีสุทธิยากร พ้นจากกรรมการ กกต. ว่า ผลจากคำสั่งนี้ ทำให้รัฐบาลคสช.ถูกมองว่าใช้อำนาจเกินกว่าเหตุโดยไม่จำเป็นหรือไม่ เพราะกกต. ชุดปัจจุบันเป็นเพียงชุดรักษาการ ไม่จำเป็นต้องสั่งให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ ก็มีอันต้องยุติในเร็วๆนี้อยู่แล้ว แม้สนช.จะลงมติคว่ำ 7 ว่าที่ กกต. ซึ่งผ่านการสรรหามาแล้ว แต่อีกไม่นานก็จะได้ว่าที่กกต.ชุดใหม่มาทำหน้าที่แทนชุดเก่าอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปรีบปลดนายสมชัยในเวลานี้ จนถูกมองว่าใช้อำนาจที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดพร่ำเพรื่อเกินไปหรือไม่? ปมที่ว่านายสมชัย ทำให้เกิดความสับสนต่อโรดแมปเลือกตั้ง ประชาชนสงสัยว่าระหว่างนายสมชัย กับ รัฐบาลคสช.ใครพูดแล้วโรดแมปเลือกตั้งสับสนมากกว่ากัน? โดยเฉพาะฐานความคิดเรื่องกฎหมายระหว่างนายสมชัย กับทีมกฎหมายรัฐบาลคสช.ก็ถูกตั้งคำถามว่า ของใครวิพากษ์วิจารณ์อยู่บนพื้นฐานกฎหมายหรืออยู่บนอารมณ์ความรู้สึก รัฐบาลคสช.ต้องระมัดระวังการใช้อำนาจนี้ เพราะมาตรา 44 เป็นเหมือนอำนาจพิเศษของฝ่ายบริหาร แต่กลับไปปลดกรรมการในองค์กรอิสระได้ ไม่เช่นนั้น จะมีคำถามตามมาว่า องค์กรตรวจสอบที่เป็นองค์กรอิสระที่มีคำถามถึงมาตรฐานการตรวจสอบทุจริตคอรัปชั่น ล่าช้า 2 มาตรฐานหรือไม่นั้น รัฐบาลคสช.ต้องสั่งปลดด้วยหรือไม่? หรือทุกภาคส่วนต้องลดราวาศอกให้บางเรื่อง ดุดันแข็งกร้าวในบางเรื่องหรือไม่? รัฐบาล คสช. ควรนำปัญหานี้ไปทบทวนว่า ทำอย่างไรจะให้เกิดความเชื่อมั่นว่าองค์กรอิสระสามารถทำงานได้อย่างอิสระ ไร้ใบสั่ง ไร้การแทรกแซง ไม่มีการล้วงลูก ปล่อยให้กระบวนการและความเป็นมืออาชีพ ดำเนินไปตามกระบวนการ อย่างแท้จริง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น