คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และแกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางมาร่วมพิธีประสาทปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ต.ไทรน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา หลังทำดุษฎีนิพนธ์ เรื่อง พุทธวิธีเชิงบูรณาการแก้ปัญหาความขัดแย้งการเมืองไทยในปัจจุบัน โดย คุณหญิงสุดารัตน์ ได้กล่าวว่า เรื่องของพระธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนา เป็นการสอนให้คนรู้จักใช้ชีวิต ให้มีความสุขแล้วก็ทำให้เกิดความสำเร็จในชีวิต เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าหลักของศาสนาพุทธ ตั้งแต่หลักของการครองตนเอง หลักของการอยู่ร่วมกันในสังคม และก็หลักของการปกครองคน เรามีหลักหมด ดังนั้น ใครก็แล้วแต่ อยู่สาขาอาชีพไหนก็แล้วแต่ ถ้ามีหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะผลักดันให้กับชีวิตตนเองพบกับความสุขและความสำเร็จ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า “เรื่องที่ดิฉันเรียนและทำดุษฎีนิพนธ์ก็เป็นเรื่องการประยุกต์พุทธวิธีในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง แนวทาง คุณธรรม 4 ประการ โดยย่อ ก็คือ คิดดี ทำดี พูดดีต่อกัน สอดคล้องกับหลักสาราณียธรรมของพระพุทธศาสนา ก็หวังว่าดุษฎีนิพนธ์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมไม่มากก็น้อย จริงๆแล้วในหลักพุทธศาสนา ซึ่งก็ปรากฏในดุษฎีนิพนธ์ของดิฉันด้วย แล้วก็โดยหลักสันติวิธีที่ใช้กันทั่วโลก อย่างเริ่มต้นมันก็ต้องปรับทัศนคติกันไม่ใช่ไปปรับในค่ายนะคะ แต่จะเป็นการปรับโดยการคิดดีทำดีพูดดีต่อกันอย่างแท้จริง จากนั้นเราถึงต้องทำให้เกิดความยุติธรรม ความเที่ยงธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบ และก็การให้อภัยกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา เห็นอกเห็นใจกัน มันก็ใช้ได้ทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมในครอบครัวแล้วก็ปัญหาการเมืองด้วย”
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อไปว่า “ดิฉันคิดว่าวันนี้การที่เราทำให้ปัญหาสงบได้โดยการใช้มาตรา 44 หรือว่าอำนาจ มันอาจจะไม่ทำให้เกิดความสันติสุขอย่างยั่งยืน วิธีที่จะทำให้เกิดความสันติสุขอย่างยั่งยืนก็คือ เราควรปรับความคิดให้เข้าใจตรงกัน อะไรที่ไม่สอดคล้องก็ใช้เหตุใช้ผลที่ตั้งอยู่ในการคิดดีทำดีพูดดีต่อกัน ปรารถนาดีต่อกันก่อน แล้วก็อะไรที่ไม่ตรงกันก็มาดูว่าปรับอย่างไร แต่วันนี้เรายังไม่ได้ใช้หลักเหล่านี้ คือหลักเหล่านี้ไม่ได้อยู่แค่ในพุทธวิธี แต่หลักเหล่านี้อยู่ในสันติวิธีซึ่งเป็นหลักสากลด้วย ก็อยากจะให้ผู้มีอำนาจที่จะเดินไปสู่การทำให้เกิดความปรองดองได้อย่างแท้จริง อย่าใช้เพียงอำนาจกฎหมาย หรือมาตรา 44 หรือความกลัวนะคะ แต่อยากจะให้ใช้ความเข้าใจ คนไทยเป็นพี่น้องกัน คนไทยไม่ใช่คนพูดยาก หากได้พูดคุยกัน ได้ฟังกัน ได้หาแนวทางร่วมกัน ไม่ว่าจะฝ่ายไหนสีไหนก็คนไทยด้วยกันทั้งนั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าจะเริ่มต้นด้วยความปรารถนาดีต่อกันก่อน จริงๆไม่อยากให้ใครไปกลัวความคิดเห็นที่แตกต่าง ความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องที่สร้างสรรค์ และเราจะได้มีโอกาสมาคุยมีโอกาสที่จะปรับเปลี่ยนความคิดร่วมกัน พูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล ถ้ามีความคิดเห็นที่แตกต่างและมองว่าเป็นศัตรู การแก้ไขมันจะยากขึ้น”
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวในที่สุดว่า “คนที่ทำงานเป็นตัวแทนประชาชนต่างคนต่างก็มีจุดยืนมีอุดมการณ์และก็มีความรับผิดชอบต่อประชาชนของตนเอง ดิฉันคิดว่าน้อยคนที่จะกล้าทรยศต่ออุดมการณ์และก็ประชาชนของตนเอง ดิฉันก็ไม่สามารถรับรองใครได้ แต่ดิฉันเชื่อว่าน้อยคน ซึ่งคนส่วนใหญ่ยังรักษาอุดมการณ์และก็ยังรักษาความซื่อสัตย์ต่อประชาชน”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น