วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

“วิญญัติ” เร่งดำเนินคดี แกนนำ กปปส.


นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และเลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ (สกสส.) พร้อมคณะทำงาน ได้เข้ายื่นหนังสือต่ออธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นายวงศ์สกุล กิตติพรหม ให้เร่งนำตัวผู้ต้องหากลุ่ม กปปส. ที่เหลืออีกอย่างน้อย 18 คน ฟ้องศาลอาญาในคดีร่วมกันเป็นกบฏ

นายวิญญัติ กล่าวว่า จนกระทั่งบัดนี้ยังไม่มีการนำตัวมาฟ้อง ทั้งๆที่ผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นชุดเดียวกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งมีคำสั่งฟ้องจากอธิบดีอัยการไปแล้วเมื่อปี 2558 ต่อมาคณะทำงานคดีก็ยืนยันมติเดิมจนนำมาสู้การฟ้องแกนนำหลักๆไปแล้วนั้น เรื่องนี้สำนักงานอัยการสูงสุดต้องทำหน้าที่ของตนอย่างมีเกียรติให้เป็นที่ประจักษ์ว่าไม่ได้รับคำสั่งใคร

ส่วนผู้ต้องหาคดีกบฏที่ยังมิได้นำตัวมาฟ้องต่อศาลอาญาอีกหลายคน ได้แก่ นายนิติธร ล้ำเหลือ ผู้ต้องหาที่ 11 นายอุทัย ยอดมณี ผู้ต้องหาที่ 12 นายสุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์ ผู้ต้องหาที่ 17 นางสาวจิตรภัสร์ กฤดากร ผู้ต้องหาที่ 19 นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้ต้องหาที่ 25  นายกิตติศักดิ์ ปรกติ ผู้ต้องหาที่ 27 พลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ผู้ต้องหาที่ 31 นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ต้องหาที่ 32 นายพิภพ ธงไชย ผู้ต้องหาที่ 33 นายอมร อมรรัตนานนท์ (รัชต์ชยุตม์ ศิรโยธินภักดี) ผู้ต้องหาที่ 37 นายกิตติชัย ใสสะอาด ผู้ต้องหาที่ 43 นายคมสัน ทองศิริ ผู้ต้องหาที่ 44 นายพิเชษฐ พัฒนโชติ ผู้ต้องหาที่ 46  นายประกอบกิจ อินทร์ทอง ผู้ต้องหาที่ 48 นายนัสเซอร์ ยีหมะ ผู้ต้องหาที่ 49 นายพานสุวรรณ แก้ว ผู้ต้องหาที่ 50 นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ผู้ต้องหาที่ 51 และ นางทยา ทีปสุวรรณ ผู้ต้องหาที่ 55

ดังนั้น ในการมายื่นหนังสือครั้งนี้ มีเจตนาชัดแจ้งว่า เพื่อประโยชน์แก่สาธารณะและทางราชการ  จึงต้องมาบอกกล่าวความเสียหายว่า หากไม่จัดให้มีการนำตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาฟ้องต่อศาลโดยเร็ว ภายใน 30 วันนี้ ตนมีความจำเป็นที่จะต้องกล่าวโทษและใช้สิทธิตามกฎหมายดำเนินคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไป


ผมเข้าใจต่อความอึดอัดใจของคนในตำแหน่ง แต่เมื่อท่านเป็นข้าราชการมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ท่านย่อมต้องมีความกล้าหาญที่จะยึดหลักนิติธรรมและจริยธรรมของท่าน อย่าให้เสียนายวิญญัติ ชาติมนตรี กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น