วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2561

"เรืองไกร" ยื่น คลังตรวจสอบจำนำข้าวขาดทุนไม่มีอยู่จริง


#TV24 ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 10.00 น. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เดินทางมายื่นหนังสือที่กระทรวงการคลัง ขอให้กระทรวงการคลังตรวจสอบว่า ทําไมไม่มีตัวเลขผลขาดทุนจากการปิดบัญชีโครงการรับจํานําข้าวอยู่ในรายงานการเงิน แผ่นดิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 และตัวเลขผลขาดทุนที่เคยมีในคําพิพากษาคดีโครงการรับจํานําข้าว เมื่อ วันที่ 30 กันยายน 2557 ที่มีผลขาดทุนสะสม 536,908.30 ล้านบาท จึงเป็นตัวเลขที่เชื่อถือไม่ได้ใช่หรือไม่? และจะถือเป็นการนําข้อมูลเท็จหรือข้อมูลที่ไม่จริงไปใช้ในการกล่าวหานายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่?


นายเรืองไกร กล่าวว่า "วันนี้ความจริงปรากฎเป็นไปตามที่ผมจะมาร้องว่าโครงการรับจำนำข้าวไม่มีขาดทุนอยู่จริง และถ้าคนที่เข้าใจบัญชี โดยเฉพาะบัญชีของรัฐบาลก็จะเห็นอย่างที่ผมเห็น แล้วก็อธิบดีกรมบัญชีกลางก็ตอกย้ำว่าไม่มีการทำบัญชีเรื่องนี้ รัฐบาลปิดงบการเงินแผ่นดินคือกรมบัญชีกลางเป็นผู้รับผิดชอบ ทำเสร็จก็ล่าช้าพึ่งเสร็จปี 2558 ก็ต้องส่งให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบรับรองความถูกต้อง แล้วให้ท่านรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเห็นชอบ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รับทราบ โดยไม่มีผลขาดทุนโครงการรับจํานําข้าว ตามที่มีอยู่ในคําพิพากษาแต่อย่างใด ทําให้เห็นได้ว่าสิ่งที่นํามากล่าวอ้างว่าโครงการรับจํานําข้าวมีผลขาดทุนมหาศาลนั้นไม่มีอยู่จริง ย่อมแสดงว่าโครงการรับจํานําข้าวของรัฐบาลสมัยนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ได้เกิดความเสียหายหรือมีผลขาดทุนตามที่ถูกกล่าวหาใช่หรือไม่?"


นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า "ภายใต้การบริหารของรัฐบาลปัจจุบันซึ่งมาโดยการยึดอํานาจที่นําสต๊อกข้าวไปจัดชั้นคุณภาพและนําออกจําหน่ายจึงเป็นข้าวที่ไม่ได้เสื่อมคุณภาพใช่หรือไม่? จึงอาจเป็นการนําข้าวดีไปตีราคาเป็นข้าวเสียหรือข้าวเสื่อมคุณภาพเพื่อจําหน่ายในราคาต่ํากว่าความเป็นจริงที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐใช่หรือไม่? และยังปรากฎข้อมูลตามมาว่าหลังจากเข้าบริหารจัดการสต๊อกข้าวดังกล่าวแล้ว ยังมีข้าวในสต็อกหายไปจากบัญชีอีกประมาณ 1 ล้านตันใช่หรือไม่? และปัจจุบันมีการดําเนินการตรวจสอบเพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกรณีข้าวในสต็อกหายไปจากบัญชีอีกประมาณ 1 ล้านตัน มาดําเนินการทางกฎหมายหรือเรียกชดใช้ทางละเมิดหรือไม่?"


ทั้งนี้ นายเรืองไกร ยังกล่าวถึง กรณีที่อธิบดีกรมบัญชีกลางออกมาชี้แจ้ง 3 ข้อ เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยนายเรืองไกร มีคำโต้แย้ง 3 ข้อดังนี้

คําโต้แย้งข้อ 1 แสดงว่า งบการเงินแผ่นดินต้องทําตามตามเกณฑ์คงค้างแบบผสม (Modified Accrual Basis) ซึ่งแสดงว่า ถ้าโครงการรับจํานําข้าวมีรายได้ ค่าใช้จ่าย ก็ต้องนํามาลงบัญชี และสต๊อกข้าวก็ต้อง น่ามาแสดงเป็นสินค้าคงเหลือของรัฐ

คําโต้แย้งข้อ 2 คือ ข้อมูลดังกล่าวไม่สอดคล้องกับงบการเงินของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งปิดบัญชีทุกวันที่ 31 มีนาคม และปัจจุบันมีงบการเงิน ธ.ก.ส. ณ 31 มีนาคม 2561 ออกมาแล้ว ก็ไม่มีการแสดงผลขาดทุนโครงการรับจํานําข้าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ ดูได้จากหมายเหตุข้อ 8.34 ที่ระบุว่า "โดย ธ.ก.ส. มิได้รวมบัญชีและงบการเงินของโครงการไว้ในการดําเนินงานปกติ แต่ได้จัดทําเป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA)” ซึ่งไม่มีการแสดงผลขาดทุนจากโครงการรับจํานําข้าวไว้เช่นกัน

คําโต้แย้งข้อ 3 คือ กรมบัญชีกลางยอมรับว่า รายงานการเงินแผ่นดิน ณ 30 กันยายน 2557 ดังกล่าว ไม่มีหรือไม่สามารถมีรายการผลขาดทุนจากโครงการรับจําน่าข้าวตามคําพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญา นักการเมือง จํานวน 536.908.30 ล้านบาท ตามที่ตั้งข้อสังเกตถึงกระทรวงการคลัง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น