ตนอ่านบทความดังกล่าวโดยละเอียดและสรุปได้โดยไม่ซับซ้อนว่า เนื้อหาเช่นนี้ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อความสง่างามและความน่าเชื่อถือขององค์กรอัยการ มั่นใจว่าจะต้องมีการชี้แจงข้อเท็จจริงตอบโต้ในทันที แต่จนถึงวันนี้ (16 ก.ย. 2561) ยังไม่ปรากฏคำชี้แจงใดๆ ทำให้นึกถึงหลักคิดทางกฎหมายข้อหนึ่งว่า "การนิ่งเฉยถือเป็นการยอมรับ" ทั้งนี้ ไม่ควรเป็นภาระของประชาชนในการค้นหาความจริงเรื่องนี้ แต่อัยการสูงสุดควรมีคำอธิบาย และหากท่านจะมีคำตอบต่อเรื่องดังกล่าว ตนซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ติดตามคดีนี้ท่ามกลางความมืดมนมาอย่างยาวนาน ขอคำอธิบายเพิ่มเติมเรื่องขั้นตอนการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
การเสียชีวิตทั้ง 99 ศพ ถือเป็นการตายโดยผิดธรรมชาติ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 148 พนักงานอัยการต้องดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 วรรค 5 และต้องเป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งอัยการถือปฏิบัติกันมาโดยไม่มีข้อยกเว้นหรือเลือกปฏิบัติ เช่น กรณีตัวอย่างการไต่สวนการตายจากเหตุวุ่นวายที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งมีการไต่สวนสาเหตุการตายโดยศาลจังหวัดปัตตานีรวม 78 ศพ แต่เหตุการณ์ปี 2553 อัยการดำเนินการไต่สวนการตายไปเพียงกว่า 20 ศพเท่านั้น ยังคงเหลืออีกเกิน 70 ศพ ที่ค้างอยู่ในกระบวนการและไม่มีความคืบหน้าใดๆ นับตั้งแต่การรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 แม้ศาลฎีกาจะวินิจฉัยว่าคดีดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ในฐานะพนักงานสอบสวน แต่การไต่สวนการตายยังเป็นหน้าที่ของพนักงานอัยการ ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ท่านมีแนวทางดำเนินการต่อกรณีผู้เสียชีวิตที่ยังรอการไต่สวนการตายอีกกว่า 70 ศพอย่างไร? หากเพิกเฉยจะถือว่าพนักงานอัยการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่?
ในจำนวนเกือบ 20 ศพ ที่ศาลชี้ว่าเสียชีวิตจากกระสุนปืนฝั่งเจ้าหน้าที่ มีบางกรณี เช่น 6 ศพที่วัดปทุมวนาราม และนายพัน คำกอง ซึ่งสำนวนระบุชัดว่ากระสุนมาจากทิศทางใด และสามารถตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่หน่วยใด คนไหน อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า ในฐานะผู้บริหารสูงสุดขององค์กรอัยการ ท่านมีคำอธิบายสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนจำนวนมากที่ติดตามคดีนี้อยู่หรือไม่? และไม่ทราบว่ามีนายพลคนไหนไปพบใครที่สำนกงานอัยการสูงสุด ไม่ทราบว่ามีข้อเจรจาให้คดีดังกล่าวเป็นสำนวนมุมดำจริงหรือไม่? และไม่ประสงค์จะกล่าวหาหรือให้ร้ายใคร แต่ตนต้องการคำอธิบาย เพราะแน่ใจมาตลอดว่าคดีสลายการชุมนุมกลุ่มนปช. 99 ศพ ไม่ได้รับความยุติธรรม ทั้งนี้ ตนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยืนขวางความอยุติธรรมในทุกกระบวนการอย่างถึงที่สุด
"ผมพยายามระมัดระวังไม่ให้การติดตามเรื่องนี้ก่อกระแสความขัดแย้งระหว่างคนต่างความคิด และพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายสร้างสังคมประชาธิปไตย แต่สิ่งนี้จะเป็นไปไม่ได้เลยหากละเว้นความยุติธรรมสำหรับคนบางกลุ่ม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความกระจ่างจากท่าน และยังหวังต่อไปว่าองค์กรอัยการจะรับรู้ความเจ็บปวดของประชาชน ที่ยิ่งเดินก็ดูเหมือนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ยิ่งเลือนหายไป อนึ่ง ผมจะมอบหมายตัวแทนฝ่ายกฎหมายเดินทางไปยื่นคำร้องเรื่องนี้ต่อสำนักงานอัยการสูงสุดอีกครั้งในสัปดาห์หน้า"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น