นายชวลิต กล่าวว่า "ตนเป็นคนหนึ่งที่ฟังนายเสนาะ พูดตั้งแต่ต้นจนจบ ยืนยันว่า สิ่งที่นายเสนาะ พูดเป็นความจริง เป็นสัจธรรมทางการเมือง กล่าวคือ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ อาจได้ 250 ส.ว.หนุนให้เป็นนายกฯโดยบวกกับคะแนนเสียงจากพรรคการเมืองที่ประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง แต่งานในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี กฎหมายเกี่ยวกับการเงินอื่นๆ ตลอดจนการตรวจสอบรัฐบาลด้วยการตั้งกระทู้ และการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯหรือรัฐมนตรีเป็นต้น งานในสภาผู้แทนราษฏรดังกล่าว ส.ว.ไม่อาจมาลงคะแนนช่วยเหมือนตอนเลือกนายกฯได้ จึงเห็นได้ว่า สิ่งที่นายเสนาะพูดนั้น พูดจากประสบการณ์ ซึ่งตีความหมายได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจเป็นนายกฯได้ เพราะมี ส.ว. เป็นตัวช่วย แต่จะบริหารไม่ได้ เพราะเสียงในสภาผู้แทนราษฎรไม่พอหรือฉิวเฉียด ไม่ใช่ว่าพอพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นนายกฯแล้วจะก่อความวุ่นวายดังที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าใจ เพราะมิใช่วิสัยของพรรคเพื่อไทย"
นายชวลิต กล่าวว่า "ได้มีโอกาสคุยกับนายเสนาะ ท่านกล่าวว่าไม่คิดตอบโต้อะไรกับ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เป็นประโยชน์เพราะตนก็แก่แล้วจริงๆ ผู้ใหญ่จะลงไปทะเลาะกับผู้มีอายุคราวลูกก็ใช่ที่ เดี๋ยวจะถูกเด็กลูบหัวเอาอย่างไรก็ตามตนไม่ใช่แก่แล้วแก่เลย ยังแข็งแรง ความจำดี ที่สำคัญยังห่วงบ้านห่วงเมือง อยากให้เดินในแนวทางที่ถูกต้องตามครรลองประชาธิปไตย สุดท้ายป๋าเหนาะก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับกล่าวว่า ใครที่ต่อว่าผมว่าแก่แล้วนั้น ไม่แก่บ้างก็แล้วไป"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น