#TV24 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 กันยายน 2561 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า "ตามที่ผู้ว่า สตง. ได้ ออกมาชี้แจงกรณีผลขาดทุนของโครงการรับจำนำข้าวที่กำลังเป็นประเด็นอยู่นั้น โดย ผู้ว่า สตง. กล่าว อ้างมติ ครม. เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2555 ว่า ครม. อนุมัติให้กระทรวงพาณิชย์แต่งตั้งคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก เพื่อดำเนินการปิดบัญชีโครงการดังกล่าว หลังจากครบกำหนดไถ่ระยะเวลาโครงการ และให้มีการปิดบัญชีเป็นปีๆไป โดยให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับแต่วันสิ้นสุดรอบปีบัญชี"
นายเรืองไกร กล่าวว่า "มติ ครม. เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2555 เป็นการปิดบัญชีฯ เฉพาะโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 เท่านั้น ซึ่งต่อมาก็มีคำสั่ง คสช. ที่ 176/2557 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2557 ตั้ง คณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาจัดทำบัญชีปริมาณข้าวคงเหลือของรัฐ ทั้งปริมาณการรับ ปริมาณ การจ่าย โดยแยกตามชนิดข้าว และคำสั่ง กบข. ที่ 2/2557 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่ผ่านมาของรัฐบาล ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2557 และผู้ว่า สตง. เคยเบิกความ ไว้ต่อศาลฎีกาเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2559 โดยระบุถึงคำสั่ง กบข. ที่ 2/2557 ไว้ด้วย"
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า "กรณีจึงเห็นได้ว่า หลังจากตนออกมาถามเรื่องขาดทุนจำนำข้าว ก็มีหลาย หน่วยงานออกมาโต้แย้งโดยอ้างข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนหรือขัดแย้งกันเอง เช่น กรมบัญชีกลาง บอกว่า รัฐบาลมิได้ลงบัญชีเป็นรายโครงการ ซึ่งขัดกับคำเบิกความของนางสาว น. คณะทำงานปิดบัญชี ที่เบิก ความไว้ว่า หลักการคิดผลขาดทุนโครงการรับจำนำข้าว จัดทำข้อมูลแยกเป็นรายโครงการ นอกจากนี้ ในคำเบิกความของนางสาว น. ต่อศาลฎีกาเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 ยังมีข้อสังเกตที่ชวน สงสัยว่า ทำไมผลขาดทุนของข้าวเปลือกนาปี ปี 55/56 ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 จึงน้อยกว่าผลขาดทุน ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และปริมาณสต๊อกข้าวคงเหลือจึงมีมูลค่าลดลงมากผิดปกติ จาก ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จำนวน 19.22 ล้านตัน มูลค่า 494,608.15 ล้านบาท เหลือเพียง ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 จำนวน 17.56 ล้านตัน มูลค่า 197,349.98 ล้านบาท ทำให้เกิดข้อสังเกตที่ชวนสงสัยว่า ทำไมเวลาแค่ 4 เดือนเศษ หรือประมาณ 130 วัน สต๊อกข้าวที่ลดลง 1.66 ล้านตัน แต่มูลค่ากลับลดลงถึง 297,258.17 ล้านบาท"
นายเรืองไกร กล่าวสรุปว่า "การที่หน่วยงานของรัฐนำผลขาดทุนจากการปิดบัญชีของนางสาว น. มาใช้ อ้างอิง จึงยังไม่น่าจะถูกต้อง ด้วยเหตุนี้ ตนจึงจำเป็นต้องงัดหลักฐานมาโชว์และนำข้อสังเกตุที่ชวนสงสัย ดังกล่าวไปชี้ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เห็นกับตา เพื่อจะได้ทราบว่า ผลขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวนั้น ไม่ได้มาจากการจัดทำบัญชีแต่อย่างใด และ สตง. ก็ยังไม่เคยตรวจสอบรับรอง ดังนั้น การออกคำสั่งของกระทรวงการคลังก่อนหน้านี้ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ เห็นชอบด้วย ซึ่งคำสั่งดังกล่าวได้อ้างผลขาดทุนเพื่อเรียกชดใช้ค่าเสียหายจาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงน่าจะมาจากข้อมูลที่ยังไม่ได้ข้อยุติ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น