คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยเนื้อหาดังนี้
คงต้องขออนุญาตกลับมาพูดเรื่อง"โครงการหลักประกันสุขภาพ"อีกครั้งหนึ่งนะคะ หลังจากที่ได้เขียนลง Facebook สะท้อนปัญหาและความห่วงใยไปเมื่อวานก่อน
ทั้งที่ไม่อยากให้เป็นการตอบโต้กันไปมา แต่เมื่อได้ฟังผู้มีอำนาจทั้งสองท่านคือพลเอกประยุทธ์ และดร.สมคิด ออกมาพูดเรื่องนี้อย่างไม่เข้าใจ และไม่ ”ฟัง” เลยต้องมา Post อีกครั้ง
ประเด็นที่ได้แสดงความห่วงใยและท้วงติง คือ ที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ ”บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ซึ่งถูกเรียกกันอย่างแพร่หลายว่า”บัตรคนจน”รักษาฟรี
ทั้งที่ประชาชนได้รับสิทธิ์การรักษาฟรีอยู่แล้ว ตามโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ให้สิทธิคนไทยทุกคน ได้เข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพดีทัดเทียมกัน โดยไม่แบ่งแยกว่าคนผู้นั้นจะมีฐานะยากจนแค่ไหน ก็ต้องมีสิทธิ์ได้รับการรักษาพยาบาลในมาตรฐานเดียวกันกับคนอื่น
แต่จากมติครม.นี้ ดิฉันเกรงว่าจะทำให้เกิดผลเสีย เพราะเป็นการแยกคนที่ขึ้นทะเบียนคนจนจำนวน 11.4 ล้าน ที่ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการรักษาฟรีออกมา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาเหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตตั้งแต่ปีพ.ศ. 2519 ที่คน”ยากจน” ต้องใช้”บัตรอนาถา”ในการรักษาฟรี ทำให้ได้คุณภาพการรักษาที่ไม่ทัดเทียมกัน ซึ่งปัญหานี้ได้ถูกแก้ไข เมื่อมีโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้คนไทยทุกคนมีโอกาสเข้ารับการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพทัดเทียมกัน จึงได้เรียกว่า “บัตรทอง”
แล้วทำไมเราต้องทำย้อนยุค วนกลับไปเจอปัญหาเดิมอีก ทั้งที่การทำงานน่าจะมีแต่ต้องพัฒนาไปข้างหน้าให้ดีขึ้น เลยทำให้ไม่เข้าใจว่า มตินี้ออกมาเพื่ออะไร หรือต้องการเพิ่มสิทธิของบัตรคนจน เพื่อหวังในคะแนนนิยมเท่านั้น โดยไม่เข้าใจว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไร
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ว่าเราไม่ควรจะทำการเมืองแบบเก่าๆกันอีกแล้ว
ดังนั้นจึงหวังว่า ท่านผู้มีอำนาจทั้งสองจะเปิดใจรับ”ฟัง”ความห่วงใย
ต่อคุณภาพการรักษาพยาบาลของประชาชนบ้าง ถ้ารับฟังและศึกษาข้อมูลให้ดีท่านจะเห็นปัญหาที่จะต้องแก้ไข ที่มิใช่แก้ แค่การ”สั่ง”เปลี่ยนชื่อบัตรเท่านั้น
ส่วนเรื่องชื่อ ”บัตรคนจน “ ดิฉัน มั่นใจว่าไม่ได้ เรียกอยู่คนเดียว ถ้ารองนายกสมคิด ให้ทีมงานทำการบ้านเปิดข่าว online หรือตามสื่อต่างๆให้ท่านดู ท่านก็จะทราบความจริงว่าใครๆเขาก็เรียกบัตรของท่านว่า”บัตรคนจน”มานานแล้ว
สำหรับประเด็นที่รองนายกฯสมคิด พูดว่าถ้าทำ ต้องทำให้ได้ดีกว่าบัตรประชารัฐนั้น
ขอเรียนว่าพวกเรามีวิธีคิด วิธีทำงาน ทีต่างจากที่รัฐบาลนี้ ทำมากว่า4 ปี เราให้ความสำคัญกับการสนับสนุน และกระจายรายได้ให้ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก start up ตลอดจนเกษตรกรซึ่งเป็น’คนตัวเล็ก’ แต่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เพราะการเพิ่มเงินในกระเป๋าของคนส่วนใหญ่เหล่านี้ จะสร้างกำลังซื้อภายในประเทศที่จะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนเติบโตได้ต่อเนื่อง
เรามั่นใจว่าเรามีวิธีที่จะสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ เพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชนโดยตรง แบบไม่ใช่ให้แค่ผ่านมือคนจนไปสู่ธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น