ด้วยเมื่อสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่ากรรมการ ป.ป.ช.รายหนึ่ง ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ เคยระบุว่า มีอคติต่อตนมาตลอด ได้มีความพยายามที่จะนำคดีระบายข้าว (จีทูจี) โดยนำสัญญาระบายข้าวที่เหลือมาดำเนินคดีใหม่อีกเป็นครั้งที่ 2 แต่กลับมีการกล่าวหาบุคคลเพิ่มเติมนอกเหนือจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยให้จำเลยหลายรายในเรือนจำให้การซัดทอดถึง ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเครือญาติ โดยมีการจูงใจแลกกับสิทธิประโยชน์ที่ไม่ต้องรับโทษอยู่ในเรือนจำ แต่ให้อยู่ในโรงพยาบาลแทนโดยมีข้ออ้างเรื่องเจ็บป่วยตามที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้แถลงว่า ได้รับการประสานจากโรงพยาบาลตำรวจ รวมทั้งสัญญาที่จะให้สิทธิประโยชน์แก่จำเลยรายอื่นๆ ด้วย ในเรื่องที่แตกต่างกันไป ซึ่งมีข้อสังเกตว่าความพยายามเรื่องนี้สอดรับกับประกาศ ป.ป.ช. เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี พ.ศ. 2561 ที่เพิ่งมาประกาศใช้เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2561
ข้าพเจ้าในฐานะ ทนายความของอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีที่เหลือทั้งหมด จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า หากเป็นจริงตามกระแสข่าวดังกล่าวในช่วงนี้ เป็นเรื่องเศร้า และน่าอดสู่ใจเป็นอย่างยิ่ง ที่มีกรรมการ ป.ป.ช.บางคน นำองค์กรมาเป็นเครื่องมือในทางการเมืองเพียงเพื่อทำลายชื่อเสียงของท่านอดีตนายกรัฐมนตรีทั้งสองท่าน และทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคเพื่อไทย ในสถานการณ์ทางการเมืองที่ ปี่ กลอง การเลือกตั้งกำลังจะเริ่มขึ้น หากจะดำเนินคดีนี้อีกควรทำให้เป็นเรื่องปกติตามขั้นตอนและกระบวนการของกฎหมายเพื่อพิสูจน์ความถูกผิด ซึ่งศาลฎีกาเองก็ได้มีคำพิพากษาไว้แล้ว ไม่ควรที่จะมีข้อเท็จจริงใหม่เกินขอบเขตที่ศาลฎีกาได้พิพากษาไว้โดยกล่าวหาบุคคลอื่นเพิ่มเติมอีกแต่อย่างใด
ในชั้นนี้ ข้าพเจ้าในฐานะทนายความของท่านอดีตนายกรัฐมนตรีทั้งสองท่าน จึงขอเรียกร้องมายังประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. และกรรมการ ป.ป.ช. ท่านอื่นๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ อย่าตกเป็นเครื่องมือของกรรมการ ป.ป.ช.บางคน หรือกลุ่มบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่จะนำองค์กรมาเป็นเครื่องมือเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง
นายนรวิชญ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เพื่อดำรงไว้ซึ่งหลัก “นิติธรรม” คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะที่เหลือคงจะให้ความเป็นธรรมและใช้ดุลพินิจพิจารณาอย่างรอบคอบ เที่ยงธรรม เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่ต้องดำรงไว้ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น