วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2561

"ชญาดา" แจ้งความ-ยื่นหนังสือร้องทุกข์ หลังถูก ธ.ก.ส. เลิกจ้างไม่เป็นธรรม


#TV24 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2561 เวลา 10.00 น. นางสาวชญาดา ตระกูลรุ่งโรจน์ อดีตพนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ถูกเลิกจ้างตามคำสั่งธนาคาร ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขน โดยระบุว่า


ผู้บังคับบัญชาไม่ปฏิบัติตามระเบียบธนาคาร กรณีการส่งมอบคนและทรัพย์สิน อีกทั้งมีบุคคลอื่นเคลื่อนย้ายคอมพิวเตอร์ที่ธนาคารส่งมอบให้ข้าพเจ้าใช้งานและดูแลเก็บรักษาไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากข้าพเจ้า ทั้งที่ข้าพเจ้ายังอยู่ในวิสัยที่จะส่งมอบงานและทรัพย์สินได้ ข้าพเจ้าจึงได้เดินทางมาแจ้งความในวันนี้

ต่อมาเวลา 13.00 น. นางสาวชญาดา ตระกูลรุ่งโรจน์ ได้เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรี กรณีถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม


นางสาวชญาดา กล่าวว่า “รายละเอียดของหนังสือที่มายื่นในวันนี้ เป็นกรณีที่ตนถูกแขวนตำแหน่งตั้งแต่ไปชี้มูลกรณีธนาคาร ธ.ก.ส. แจ้งหนี้ไปยังองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) และ องค์การคลังสินค้า (อ.ค.ส.) ไม่ถูกต้อง เป็นการโต้แย้งว่าไม่ถูกต้อง โดยตรวจพบวงเงินโอนออกให้กับบุคคลภายนอกที่มีเหตุสงสัยว่าผิดปกติ หลังจากที่ชี้มูลโต้แย้งไปแล้ว กลับถูกธนาคารชี้มูลว่าตัวเราเป็นบุคคลที่มีปัญหาทางจิต หลังจากนั้นก็ถูกส่งเข้าโครงการรักษาสุขภาพ เมื่อถูกส่งเข้าโครงการรักษาสุขภาพแล้ว ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการถูกแขวนตำแหน่ง หลังจากที่ถูกแขวนตำแหน่งแล้วทางธนาคารก็มีการทำหนังสือขอเอกสารคืนที่เราครอบครองอยู่ถึง 3 ครั้ง นี่คือเนื้อเรื่อง”


“พอเราคืนเอกสารแล้ว ทางธนาคารก็ส่งจมหมายให้เออร์ลี่ ซึ่งเราก็ได้โต้แย้งกลับไปอีกว่าเราไม่เข้าด้วยคุณสมบัติด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอายุงาน เรื่องของอาการป่วยที่ทางธนาคารชี้มูล เราก็บอกว่าไม่เป็นความจริง หลังจากนั้นธนาคารก็ส่งไปตรวจจิตเวชที่สถาบันจิตเวชสมเด็จเจ้าพระยา โดยหลักถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะลาออกไปแล้ว แต่ว่าเราตัดสินใจว่ามันกระทบกับชีวิตเราทั้งชีวิต มันไม่ใช่ว่าเราลาออกจากธนาคาร ธ.ก.ส. แล้วเราจะกลับมามีชีวิตได้เป็นปกติ เพราะเขาชี้มูลมาเป็นในลักษณะนั้น ก็เลยตัดสินใจว่าความจริงเป็นยังไงเราต้องเผชิญกับมัน ก็เลยตัดสินใจไปตรวจจิตเวชตามที่ธนาคารส่งไปตรวจ พอไปตรวจทางโรงพยาบาลก็ชี้แจ้งว่าคงจะตรวจให้เราไม่ได้เนื่องจากคุยเบื้องต้นแล้วเราปกติดี การมาตรวจจิตเวชไม่ใช่ใครก็ไปตรวจได้ ถ้าปกติดีเขาไม่ตรวจให้ เพราะว่าโรงพยาบาลเขามีคนไข้ที่ป่วยจริงๆเยอะอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมันก็เป็นลักษณะที่ว่ามีการฟ้องร้องกันตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา ว่าเราถูกธนาคารใส่ความโดยใช้กระบวนการของธนาคาร ไม่ใช่การหมิ่นประมาทกันระหว่างบุคคล เป็นการทำลายชีวิตคนคนหนึ่งเลย” นางสาวชญาดา กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น