ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า เนติบริกรระดับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ต้องไม่ลืมว่า หลักสำคัญประการหนึ่งของกฎหมายคือ ต้องเป็นคำสั่งหรือข้อบังคับที่ใช้ได้ทั่วไป ไม่ใช่กำหนดขึ้นเพื่อประโยชน์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง การอธิบายว่าถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ตอบรับให้พรรคการเมืองเสนอชื่อเป็นนายกฯ แล้วยังใช้อำนาจเต็มได้ แต่ห้ามพูดเชิญชวนให้เลือกพรรคนั้น มันชัดเจนในตัวว่ากติกาแบบนี้เอื้อประโยชน์ให้คนคนเดียว เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ และจะมีพรรคการเมืองเสนอชื่อ จึงเขียนไว้แบบนี้ใช่หรือไม่? การตอบรับเป็นว่าที่นายกฯ ของพรรคไหนความหมายคือเชิญชวนให้ประชาชนเลือกพรรคนั้นอยู่แล้ว ยิ่งพูดก็ยิ่งเห็นความลักลั่นของกติกาการเลือกตั้งครั้งนี้
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องกำหนดวันเลือกตั้งแม้เป็นความจริงว่า กกต.ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ และเป็นไปได้ว่าอาจไม่ใช่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 แต่ถ้ามองความเข้าใจและคาดหวังของประชาชนคิดว่าไปไกลแล้ว วันนี้ไปถามใครเขาก็ตั้งใจว่าจะไปเลือกตั้งในวันดังกล่าว แม้แต่รัฐบาลก็ย้ำแล้วย้ำอีกว่าจะไม่เลื่อน ถ้า กกต.ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลัก จะขยับออกไปก็ต้องประเมินดีๆ เลือกตั้งเที่ยวนี้ไม่ใช่แค่ลงคะแนน แต่เป็นความหวังของคนส่วนใหญ่ว่าจะหลุดพ้นความข้นแค้นยากเข็ญ ที่หากินฝืดเคืองมาเกือบ 5 ปี เผื่อชีวิตจะดีขึ้น ถ้าปล่อยเวลาจนล่วงเลยมาป่านนี้แล้ว กกต.ประกาศว่าวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ไม่ได้เลือกตั้ง ก็ต้องยอมรับว่าใจถึงมาก และเสี่ยงจะถูกมองว่าเอื้อประโยชน์ให้พรรคใหม่บางพรรคที่ยังไม่พร้อม องค์กรอิสระก็จะกลายเป็นหน่วยขึ้นตรงของผู้มีอำนาจหรือไม่?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น