ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ สุรนาทยุทธ์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าจากการลงพื้นที่หลายจังหวัดทั่วประเทศไทย ของพรรคเพื่อไทย ในการรับสมัครสมาชิกพรรคนั้น ได้มีประชาชนเข้ามาร้องขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เนื่องจากปัจจุบันชาวบ้านส่วนใหญ่ลำบากมาก ไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องซื้อข้าวของเครื่องใช้ ไม่มีข้าวจะกิน และไม่มีเงินส่งเสียลูกเรียนหนังสือ ซึ่งจากผลงานรัฐบาลตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยมีอัตราการเติบโตต่ำที่สุดในอาเซียน โดยในปี 2561 อัตราการเจริญเติบโตของไทยในไตรมาส 1 คือ 4.8% ไตรมาส 2 คือ 4.6% และในไตรมาสที่ 3 มีอัตราการขยายตัวเพียงแค่ 3.3% ซึ่งถือว่าต่ำมาก และดูที่ท่าว่าในไตรมาสที่ 4 นี้ส่อแววว่าจะยิ่งแย่ลงไปอีก เพราะสาเหตุจากการท่องเที่ยวที่ตกต่ำ นักท่องเที่ยวจีนหนีหมด นักลงทุนไม่กล้ามาลงทุน สินค้าเกษตรขายไม่ได้ราคา เพราะขาดความมั่นใจในรัฐบาล และคสช. และขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ หากเป็นเช่นนี้ อนาคตความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยจะเป็นอย่างไร?
มีหลายครั้งที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดย้ำเตือนเสมอว่าเศรษฐกิจไทยดี และปีหน้าจะเป็นปีทองของประเทศไทยนั้น ทางพรรคเพื่อไทยกลับเล็งเห็นว่า คงเป็นไปได้ยาก และยังมองไม่เห็นความเป็นความเป็นไปได้เลย เพราะผลงานของรัฐบาลชุดนี้ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ผ่านมา ยังไม่พบว่ามีมาตราการไหนที่จะสามารถแก้ไขปัญหาปากท้องของคนไทยได้อย่างยั่งยืน ทุกวันนี้ปัญหาหนี้เสียในระบบธนาคารยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนคนไทยยังลำบากอยู่ พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีประสบการณ์และแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้คนไทยได้ทุกระดับชั้น ได้เล็งเห็นถึงปัญหาและได้จัดเตรียมมาตรการแนวทางแก้ไขไว้แล้วในทุกภาคส่วน อาทิเช่น การท่องเที่ยว การส่งออก พืชผลทางการเกษตรอื่นๆ ข้าว ยางพารา ฯลฯ โดยมุ่งเน้นนโยบายที่สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนชาวไทย และชาวต่างชาติ ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวเสริมว่า พรรคเพื่อไทยมีแนวความคิดที่มีความต่างจากรัฐบาลปัจจุบัน เพราะเราจะให้เบ็ดกับชาวบ้าน แทนที่จะให้ปลากับชาวบ้าน ตามศาสตร์ของพระราชาและสโลแกนของพรรคเพื่อไทย ที่เน้นยำว่า หัวใจคือประชาชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น