ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ และนายธนวุฒิ โมทย์วารีศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดสมุทรสงครามของพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อรับฟังปัญหาของกลุ่มประมง โดยมีนายชินชัย สถิรยากร เลขาธิการสมาคมประมงให้การต้อนรับ
ชาวสมุทรสงครามต่างร้องเรียนถึงปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ เริ่มตั้งแต่ปัญหาราคามะพร้าว กล้วย ที่ตกต่ำกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก ไม่คุ้มต้นทุนการผลิต ในขณะที่ของทุกอย่างขึ้นราคา แต่ราคาพืชผลการเกษตรกลับตกต่ำ ลำบากไปทุกหย่อมหญ้า ส่วนผู้ประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง พบปัญหาจากการออกกฎหมายประมงใหม่เมื่อปี 2558 ที่ไม่มีการฟังความเห็นของชาวประมงก่อน เพราะหากจะใช้บังคับกฎหมาย ควรฟังความเห็นของชาวประมงและต้องทำให้กลุ่มคนทำประมงอยู่ได้ด้วย อยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ต้องให้ความรู้แก่ประชาชนถึงกฎหมายใหม่ว่าการกระทำใดบ้างเป็นความผิด
เลขาประมงกล่าวอีกด้วยว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะฟังเสียงประชาชน และได้การยอมรับจากต่างประเทศ บางคนไม่ smart แต่อยากจะ smart ซึ่งหากรัฐบาลจะอ้างระเบียบของนานาชาติ เราไม่ขัดข้อง แต่การแก้ปัญหาต้องให้ชาวประมงอยู่ได้ การที่ประเทศไทยจะได้ไฟเขียว มีทางเดียวคือให้รัฐบาลปัจจุบันรีบไป ซึ่งผลของการแก้ระเบียบต่างๆ ทำให้มีเรือพาณิชย์เหลือใช้งานอยู่ได้เพียง 10,800 กว่าลำ และที่ออกจากท่าได้มีเพียง 800 ลำ ตนเห็นว่าตอนนี้ปลายอุโมงค์เริ่มเปิดแล้วเพราะจะมีการเลือกตั้ง และพรรคไหนที่ฟังพี่น้องประชาชน พรรคนั้นจะชนะถล่มทลาย จริงๆแล้วไม่ต้องยกเลิกกฎหมายประมงฉบับนี้ก็ได้ ส่วนพ่อค้าแม่ค้าขายปลาทู เดิมนึ่งขายได้วันละ 30-40 เข่ง แต่ 3-4 ปี มานี้ เหลือนึ่งขายได้วันละ 10-12 เข่ง ทำให้ขาดทุนเป็นล้าน ซื้อมาแพงแต่ขายถูก อยากให้ได้ผู้ที่เป็นประชาธิปไตยมาเป็นรัฐบาล ขอให้รัฐบาลชุดหน้าที่มาจากการเลือกตั้งทำเศรษฐกิจให้ดีขึ้น
หลังจากรับฟังปัญหาของพี่น้องชาวสมุทรสงครามแล้ว ร.ท.ปรีชาพล กล่าวกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับว่า ที่ผ่านมารับทราบถึงปัญหาประมงที่กระจายไปทั่ว 22 จังหวัด จากการออกกฎหมาย พระราชกำหนด และประกาศต่างๆ เกี่ยวกับการประมง ซึ่งเกิดจากหน่วยงานของรัฐไม่ได้ใส่ใจวิถีชีวิตของชาวประมง ทำให้เกิดข้อจำกัดหลายอย่าง การแก้ปัญหาโดยที่ไปเอาใจอียูเพื่อไม่ให้โดนออกใบเหลืองใบแดง ไม่รู้หรือว่าจริงๆแล้วคือการที่เขาต้องการลงโทษเราจากการไม่เป็นประชาธิปไตย และกล่าวต่อพี่น้องประชาชนว่า ถ้ามีโอกาสได้เข้าไปทำงาน จะพยายามหาทางออกทบทวนและแก้ไขปัญหากฎหมายเหล่านี้ ในวันนี้ มีทางเลือกอยู่ 2 ฝั่ง คือฝั่งประชาธิปไตย กับฝั่งที่ต้องการสืบทอดอำนาจ ถ้าท่านรู้สึกอิสระไม่อึดอัดกับสภาพบ้านเมืองใน 4 ปีที่ผ่านมา ก็ให้เลือกฝั่งสืบทอดอำนาจ แต่หากท่านอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศ ให้ประเทศก้าวหน้า 24 กุมภาพันธ์นี้ ท่านต้องกาบัตรเลือกตั้งให้ฝ่ายประชาธิปไตย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น