วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2562
"ปลอดประสพ" แนะรัฐเร่งแก้ปัญหาฝุ่นพิษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงนโยบายและมาตรการแก้ไขปัญหามลพิษในกทม.เร่งด่วน ของพรรคเพื่อไทย ดังนี้
1. เนื่องจากปัญหาละอองลอย PM 2.5 มากกว่าครึ่ง เกิดจากการใช้น้ำมันดีเซลและเครื่องยนต์เก่าที่มีการสันดาปไม่สมบูรณ์ จึงมีความจำเป็นต้องมีนโยบายและการบังคับใช้ระเบียบคือ
1.1) สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าโดยการลดภาษีฯ
1.2) ค่อยๆ ลดรถยนต์ดีเซลที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ แต่ต้องแล้วเสร็จ ภายใน 20 ปี
1.3) ผลิตน้ำมันในตระกูลไบโอดีเซลออกใช้โดยเร็วที่สุด โดยเริ่มจาก B -20 และ มีเป้าหมายที่ B-100
1.4) เข้มงวดการตรวจสภาพรถยนต์ของขสมก. และรถบรรทุกวิ่งใช้ใน กทม. โดยใช้มาตรการเข้มงวดสูงสุดถึงขั้นยึดรถ
2. เนื่องจากพบว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าได้ก่อให้เกิดฝุ่นหยาบขนาด P.10 ซึ่งอาจแตก ออกเป็น P 2.5 ได้อย่างรวดเร็ว จึงให้ห้ามการก่อสร้างในเวลากลางวันไปถึงสุดเดือนมีนาคม (โดยจะมีการติดตามประเมินอย่างต่อเนื่อง)
3. ห้ามโรงงานประเภทที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละอองหรือควันหยุดปฏิบัติงานในเวลากลางวันไปจนสุดเดือนมีนาคม (monitoring)
4. ตึกที่มีความสูงเกิน 20 ชั้น ให้ช่วย spray น้ำ จากชั้นสูงสุดในทั้ง 4 ทิศทาง ตามเวลาที่ทางราชการจะประกาศ โดยทางราชการจะจัดหาปลายสูบ (niggle) ขนาดจิ๋วให้
5. เคร่งครัดการติดตามข้อบังคับของ EIA (Environmental Impact Assessment) คือ “รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม” สำหรับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่โดยเน้น EIA ในช่วงการก่อสร้าง
6. ศึกษาความเป็นไปได้ ในการสร้างหอคอยขนาดใหญ่ 4 มุมเมือง เพื่อฟอกอากาศ กำจัดฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 เป็นการเร่งด่วน
"เพื่อไทย" แนะประยุทธ์ลาออก สร้างความเชื่อมั่น-ประเทศเดินหน้า
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ส.นครพนม ติง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พิจารณาแนวทางการตัดสินใจทางการเมืองอย่างมีสติ โดยควรคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม คือ เกียรติยศ ศักดิ์ศรี หน้าตาประเทศ และหน้าตาของคนไทย
ขอให้ทบทวน คิดให้รอบคอบ บ้านเมืองมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยทราบกันดี จึงควรละประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง แล้วส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นประเทศศิวิไลซ์ สามารถยืนอยู่ในสังคมโลกได้อย่างมีเกียรติยศและศักดิ์ศรี
หากท่านตัดสินใจไม่ลาออกจากหัวหน้า คสช. ก็จะถูกชาวโลกวิพากษ์ วิจารณ์ ตราหน้าคนไทยและ ประเทศไทยว่า ยังเป็นบ้านป่า เมืองเถื่อน ทึ่จะต้องมีหัวหน้าคณะปฏิวัตินั่งคุมการเลือกตั้งร่วมกับ กกต.ไปจนกว่าการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ นับเป็นการถอยหลังเข้าคลอง ไม่เป็นผลดีกับประเทศชาติและประชาชน
นายชวลิต กล่าวในที่สุดว่า การลาออกจากหัวหน้า คสช.หลังมี พรฎ.การเลือกตั้ง นับเป็นมารยาท เป็นจริยธรรม ที่คนไทยพึงมี เพื่อร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นประเทศให้กลับคืนมา โปรดอย่าอ้างกฎหมายที่ออกมาภายใต้การคุมอำนาจของ คสช. แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึง คือ มารยาทและจริยธรรมนับเป็นคุณธรรมขั้นสูง ที่อยู่เหนือกว่ากฎหมาย
ท่านเรียกร้องการปฏิรูปการเมือง ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ท่านก็ควรถือโอกาสนี้ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า ต้องการปฏิรูปการเมืองจริง ๆ จึงขอให้คิดให้รอบคอบ ผมให้ความเห็นเรื่องนี้ด้วยความสุจริตใจ
ทึ่อยากจะเห็นประเทศไทยเดินไปข้างหน้าอย่างสง่างาม
“เพื่อไทย” เตือนรัฐบาล ระวังจะไม่มีที่ยืนในสังคม หากยังไม่เร่งแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ สุรนาทยุทธ์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เราคงไม่ต้องเกริ่นถึงปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่ากระทบกับสุขภาพเราแค่ไหนและอย่างไร และคงไม่ต้องถามว่าใครได้รับผลกระทบบ้าง เพราะพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าประชาชนคนไทยทุกคนที่พักอาศัย เดินทางสัญจรใน กทม.และปริมณฑลย่อมรู้สึกถึงฝุ่นในลำคอ ย่อมมองเห็นกลุ่มหมอกควันในทุกครั้งและทุกวันที่เราออกจากบ้าน หากสิ่งที่รัฐบาลบอกว่าทำแล้ว และทำได้ดีแล้ว เช่นการล้างถนนไม่กี่จุด พ่นละอองน้ำบนตึกใบหยก 1 จุด แล้วสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ได้ทั้งหมดนั้น ประชาชนตาดำๆ อย่างเราๆ คงไม่ต้องมาทนดมอากาศเป็นพิษที่เพิ่มขึ้นในทุกวันแบบนี้มาตลอดเกือบ 1 เดือน และไม่รู้ว่าจะมีจุดสิ้นสุดเมื่อใด พรรคเพื่อไทยห่วงใยสุขอนามัยของประชาชนทุกคน เพราะจากการที่รัฐบาลมาออก ข่าวว่าประชาชนต้องดูแลตนเองนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรเพราะรัฐควรต้องรับผิดชอบ และเร่งแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษที่เพิ่ม มากขึ้นทุกวัน ซึ่งพรรคการเมืองเกือบทุกพรรคมักพูดถึงแต่ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะอาจเห็นว่าปัญหาปากท้องเป็นสิ่ง ที่ต้องการในตลาด แต่หากวันนี้เรามีเงินแต่ต้องสูดอากาศที่เป็นพิษ เข้าไปทุกวัน เงินที่เรามีคงไม่มีประโยชน์ เพราะอันตรายในครั้งนี้ถึงกับชีวิต ซึ่งประชาชนคนไทยต้องการแก้ไขอย่างจริงจังและทันท่วงที
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวต่อว่า มีหลายสิ่งอย่างที่ภาครัฐควรเป็นแกนนำ และเร่งประสานไปยังเอกชนทุกภาคส่วน เพื่อช่วยกันผลักดันแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการแก้ปัญหาฝุ่นพิษครั้งนี้ เช่น
1. ปัญหาจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายจุดในกทม. รัฐต้องจัดการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดโดยควรจัดระเบียบ ดังนี้ เช่น งดก่อสร้างในเวลากลางวัน เพื่อคืนพื้นที่การจราจร ให้รถยนต์มีความคล่องตัวในช่วงเวลา กลางวัน และเปลี่ยนเวลาการก่อสร้างเป็นเวลากลางคืนพราะ หากรถติดน้อยลงจะลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ลงได้บ้าง เพราะที่ผ่านมาในช่วงปีใหม่ ผู้คนกลับบ้าน รถยนต์ในกรุงเทพ เบาบาง ตรวจพบว่าค่าฝุ่นพิษ ลดลงในหลายพื้นที่ ณ ช่วงเวลาดังกล่าว
2. รัฐต้องประกาศหยุดใช้และนำเข้าพลังงานถ่านหิน ควบคุมโรงงานขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะโรงงานที่นำวัสดุ รีไซเคิลมาจากประเทศจีน รัฐควรยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่ใช้มาตรา 44 ซึ่งยกเว้นการทำ EIA และผังเมือง สำหรับการ สร้างโรงงานไฟฟ้าขยะ เพราะปัญหาฝุ่นพิษในปัจจุบันมีมากเพียงพอแล้ว รัฐไม่ควรสนับสนุนการสร้างมลพิษให้เพิ่ม ขึ้นอีก รัฐควรควบคุมการปล่อยควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภท การก่อสร้างขนาดใหญ่ต้องจัดให้มี หน่วยงานตรวจปริมาณฝุ่นทุกวันทุกพื้นที่ พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้โรงงานหยุดเดินเครื่องในวันที่มลพิษเกิน มาตรฐาน เพราะปัจจุบันยังมีหลายแห่งที่ยังดำเนินกิจการอยู่และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นจำนวนมาก
3. ภาครัฐต้องรณรงค์ขอความร่วมมือจากภาคเอกชนในทุกจุดที่มีค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน โดยสนับสนุนให้มี การพ่นละอองน้ำและรัฐเป็นผู้สนับสนุนอุปกรณ์แก้ปัญหาฝุ่นพิษที่ได้มาตรฐานสากลพร้อมทั้งสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่เอกชนต้องจ่ายตามจริง และควรพิจารณาอนุมัติการติดตั้งเครื่องดูดฝุ่นยักษ์แบบประเทศจีนที่ได้มีการทดลองวางเครื่อง ฟอกอากาศยักษ์ ซึ่งสามารถลดระดับมลพิษ จากระดับรุ่นแรงมากเป็นระดับปานกลางได้ในหลายพื้นที่ รวมถึงยัง สามารถกำจัดไนโตรเจนออกไซด์ในอากาศได้ถึงร้อยละ 80 พ้อมทั้งยังสามารถฟอกอากาศได้ถึง 5.4 ล้านลูกบาศก์ เมตรต่อชั่วโมง
4. รัฐบาลควรสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด เช่น ก๊าซธรรมชาติ โดยพัฒนาให้ใช้กับอุตสาหกรรมและยานยนต์ ในบ้านเรา เพราะปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกก๊าซไปขายที่ต่างประเทศในราคาถูก หากเราสามารถนำมาพัฒนาใช้ในบ้านเราก็จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย โดยควบคุมน้ำมันดีเซลให้ได้มาตรฐาน ยูโร 6 เพราะเป็นพลังงานที่สะอาดกว่า ยูโร 4 และ5 ที่ใช้ในปัจจุบัน และควรใช้งบประมาณกองทุนน้ำมันควบคุมราคา น้ำมันดีเซล ยูโร 6 ให้ไม่เกิน 23 บาทต่อลิตร และส่งเสริมการใช้รถยนต์ Hybrid และ Electrical Vehicles เช่น เพิ่ม มาตรการการลดหย่อนภาษีนำเข้ารถยนต์ประเภทนี้ ลดค่าต่อภาษีทะเบียนรถยนต์ประจำปี และผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อใช้เองและเพื่อการส่งออก
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์กล่าวว่า ย้อนไปสมัยปี 54 ที่เกิดปัญหาน้ำท่วม ภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง ตั้ง War Room ร่วมแก้ปัญหา เพราะรัฐบาลในสมัยนั้นมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างจริงจัง ซึ่งตัวผมเองในตอนนั้นก็ได้ร่วมมือช่วยเหลือป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตบางซื่อ ซึ่งเป็นบ้านที่ผมพักอาศัย แต่ปัญหาฝุ่นมลพิษในวันนี้ รัฐบาลยังไม่ได้แก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง ประชาชนทุกคนยังคงต้องใช้ชีวิตใน กทม.และปริมณฑล ได้รับผลกระทบ จากการหายใจเอาตะกั่ว โลหะหนัก สารพิษต่างๆที่ติดกับฝุ่น PM2.5 เข้าปอดทุกวินาที เพียงเพราะ ณ วันนี้พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล ซึ่งถ้าหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ป่านนี้คงแก้ไขปัญหานี้ได้จบไปแล้ว เพราะเรามีทีมนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมืออาชีพ ที่ได้รับการยอมรับจากองค์การระหว่างประเทศหลากหลายองค์กร ซึ่งพร้อมเข้าแก้ไขปัญหานี้ได้ทันที
วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562
"ลดาวัลลิ์" ติงรัฐละเมิดสิทธิ์ ส่งทหารประกบ "สุดารัตน์"
“ลดาวัลลิ์” จี้ถาม “พล.อ.ประยุทธ์” ทหารเกาะติด “คุณหญิงสุดารัตน์” เป็นการสั่งให้ทหารทำหน้าที่กดดันคู่แข่งทางการเมืองใช่หรือไม่?
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นกรณีที่ โฆษก คสช.ชี้แจงการส่งเจ้าหน้าที่ กอ. รมน.ติดตามคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติของเจ้าหน้าที่นั้น ว่า นับจากวันที่ คสช.ใช้กำลังยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วที่กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประชาชนและนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม มีทั้งการถ่ายภาพ การตรวจค้น การเฝ้าติดตาม การลอบทำร้าย การดำเนินคดี หรือแม้กระทั่งการติดตามถ่ายคลิปภาพต่างๆ ที่เป็นเรื่องส่วนบุคคล แล้วนำมาปล่อยทางโซเชียล ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้สุ่มเสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญในการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หากกระทำด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่ประสงค์ร้ายก็ควรแจ้งให้ผู้ที่จะถูกถ่ายภาพและติดตามรู้ตัวล่วงหน้าและแสดงตนในหรือนอกเครื่องแบบทุกครั้ง
นางลดาวัลลิ์ กล่าวอีกว่า การที่โฆษก คสช.ออกมาอ้างว่าทหารที่ติดตามถ่ายภาพ คุณหญิงสุดารัตน์นั้น เป็นการทำตามหน้าที่ แสดงว่าได้รู้เห็นเหตุการณ์ และทราบการสั่งการเรื่องนี้ดี จึงอยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในการสั่งการ ที่กำลังจะเป็นคู่แข่งคนสำคัญคนหนึ่ง ในการชิงตำแหน่งผู้นำรัฐบาลในอนาคต การใช้อำนาจสั่งการให้กำลังพลให้ทำหน้าที่ ไปติดตามคู่แข่งทางการเมืองเช่นแกนนำพรรคเพื่อไทยแบบนี้ ถือเป็นกดดันและเอาเปรียบคู่แข่งขันหรือไม่? เพราะอีกไม่ถึง 2 เดือนก็จะมีการเลือกตั้งแล้ว
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่มีแนวโน้มว่าจะมีความวุ่นวายทางการเมืองเกิดขึ้น ดังนั้น คสช.และรัฐบาลควรปล่อยให้นักการเมืองได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างอิสระตามกรอบของกฎหมายเลือกตั้ง และใช้กำลังพลไปเพื่อการรักษาความมั่นคง ความสงบสุขในจุดอื่นๆของประเทศเช่น พื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ และทหารควรใส่ใจในงานหลักๆทางด้านความมั่นคง เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ จะดีกว่า
"อนุสรณ์" แนะรัฐบาลคสช. แก้ปัญหาทุจริตอย่างจริงจัง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) ได้เปิดเผยดัชนีภาพลักษณ์การคอรัปชั่นในรัฐบาลทั่วโลก หรือ (Corruption Perception Index - CPI) ประจำปี 2018 โดยประเทศไทยได้ 36 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน อันดับลดลงจากปี 2017 ที่อันดับ 96 เป็นอันดับที่ 99 ของโลก ว่า อันดับดัชนีภาพลักษณ์การคอรัปชั่นในรัฐบาลที่ตกต่ำลงไป ทั้งที่ไม่มีนักการเมืองมา4-5ปี แสดงว่าที่รัฐบาลคสช.บอกว่านักการเมืองทุจริต อาจไม่ใช่ความเข้าใจที่ถูกต้องทั้งหมด อันดับดัชนีที่ลดลงอาจมาจากปัญหาเชิงโครงสร้าง ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปมแหวนมารดานาฬิกาเพื่อน การต่ออายุองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่น การส่งอดีตเลขาฯของตัวเองไปเป็นประธานองค์กรอิสระ คำตัดสินเรื่องนาฬิกาหรูที่ออกมาทำให้ภาพลักษณ์การตรวจสอบทุจริตล่มสลายลงทันที ไม่เหลือความเชื่อมั่นในสังคมโลก ทำให้มีปัญหากระทบต่ออันดับดัชนีภาพลักษณ์การคอรัปชั่นในรัฐบาล กระทบต่อความเชื่อมั่นขององค์กรระดับนานาชาติหรือไม่ จนถึงวันนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ก็ยังไม่ได้ตอบคำถามของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่เผยแพร่บทความ 8 เหตุผลที่ไม่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีก โดยเฉพาะประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อนและสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ของพลเอกประยุทธ์ รัฐบาลมีองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นมากมาย แต่ผลงานในเรื่องการปราบปรามคอร์รัปชั่นแทบไม่ปรากฏ ต้องไปพึ่งนักศึกษาฝึกงาน ที่ออกมาเปิดโปงเรื่องโกงเงินคนจน และอีกหลายเรื่องที่ประชาชนมิอาจฝากความหวังไว้กับองค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบได้ทั้งหมด ขอให้รัฐบาลใช้เวลาที่มีอยู่ เร่งแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ที่ประชาชนทั้งประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนัก และไม่ควรจะมีใครได้รับผลกระทบจากปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นภาครัฐ จนเป็นอุปสรรค ไม่สามารถประกอบสัมมาอาชีพได้อีกต่อไป
วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2562
"ทักษิณ" ชวนโลกมาเที่ยวไทย กระจายรายได้ทุกจังหวัด
ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
เรียนพี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน
สวัสดีเช้าวันจันทร์ ที่ 28 มกราคม 2562
Good Monday รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกกับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร "EP.3 ชวนโลกมาเที่ยวไทย กระจายรายได้ทุกจังหวัด"
www.thaksinofficial.com
www.thaksinofficial.com
ในช่วงหลายปีที่ผมมีโอกาสได้เดินทางบ่อย ประเทศที่ผมไปส่วนใหญ่จะอยู่ในสหภาพยุโรป (EU) ที่แม้จะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดของโลกอยู่แล้ว แต่ทางเค้าก็ไม่ได้อยู่เฉย ต่างปรับยุทธศาสตร์ภาคการท่องเที่ยวโดยเน้นการเพิ่มขีดความสามารถจากทุกภาคส่วน เพื่อรักษาตำแหน่งแชมป์สถานที่เที่ยวอันดับหนึ่งเอาไว้ หรือในดูไบเองก็ดี แม้บ้านเมืองเค้าจะมีประชากรน้อย แต่เค้าเน้นดึงประชากรจากทั่วโลกมาสร้างเศรษฐกิจ จนมีสถิติออกมาว่า คนไปเที่ยวดูไบเฉลี่ยต่อคนใช้เงินมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก
"EP.3 ชวนโลกมาเที่ยวไทย กระจายรายได้ทุกจังหวัด" ในตอนนี้ ผมมองว่า แม้ทิศทางอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในหลายปีมานี้จะส่งสัญญาณเป็นบวก ปัจจุบันทาง World Bank ประเมินว่า รายได้จากการท่องเที่ยวไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า คิดเป็นเม็ดเงิน 5.9 ล้านล้านบาท แต่เราก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ประเด็นสำคัญคือทำยังไงให้เม็ดเงินจากตรงนี้กระจายไปถึงประชากรทุกระดับ การเพิ่มศักยภาพของสนามบินให้สามารถรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์หลักที่เราต้องให้ความสำคัญ เพื่อที่เราจะเป็น Hub ด้านการบินของภูมิภาค ผมเชื่อว่าเรามีศักยภาพในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มได้อีกมหาศาล แต่ต้องมีการคิดและวางแผนอย่างเป็นระบบครับ
ด้วยรักและห่วงใยพี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่านครับ
#ThaksinGoodMonday
#ThaksinGoodMonday
วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2562
"อนุสรณ์" แนะประยุทธ์ ตัดสินใจ 4 รมต. ลาออกก่อนเลือกตั้ง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เตรียมจะเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.ในบัญชีนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ ว่า เมื่อมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ควรเร่งรีบตัดสินใจและพูดให้ชัดเจนว่าจะตัดสินใจในอนาคตทางการเมืองของตัวเองอย่างไร เพื่อจะได้ให้ประชาชนตัดสินใจว่า จะเลือกพรรคที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของคสช. ที่จะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีกหนึ่งสมัย หรือจะเลือกพรรคที่จะยุติการสืบทอดอำนาจของคสช. ได้เวลาที่ 4 รัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ ควรแสดงสปิริตลาออกได้แล้ว และควรพิจารณาในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด คำนึงถึงมาตรฐานคุณธรรมจริยธรรม ธรรมาภิบาล ความเหมาะสม ความรับผิดชอบทางการเมืองสูงกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมาย พวกท่านสร้างความได้เปรียบทางการเมืองจากผลประโยชน์ทับซ้อนที่อาจมีเกี่ยวพันกับการใช้อำนาจรัฐ ทรัพยากร บุคลากร งบประมาณ ต่อการหาเสียงเลือกตั้ง การจัดรายการผ่านสื่อของรัฐโดยใช้ทรัพยากรของรัฐเป็นช่องทางสื่อสารสร้างคะแนนเสียงกับประชาชน ที่ท่านพูดคนเดียวมา 5 ปี ต้องพิจารณาว่าควรจะจัดต่อหรือไม่ เพื่อให้การเลือกตั้งสุจริต เที่ยงธรรม และนำมาซึ่งการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ
"ลดาวัลลิ์" เผยสังคมจับตา ค้านการสืบทอดอำนาจ
“ลดาวัลลิ์” ชี้พรรคเพื่อไทยพร้อมจับมือกับประชาชนต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. พร้อมเรียกร้องสังคมจับตาการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ และ 4 รัฐมนตรี หลังไม่ลาออกแม้พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ออกมาแล้ว
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จนถึงนาทีนี้คงจะป่วยการที่จะเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ 4 รัฐมนตรี ในสังกัดของพรรคประชารัฐ แสดงสปิริตด้วยการลาออก หลังจาก พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ประกาศบังคับใช้แล้ว เพราะจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ทำให้สามารถคาดเดาได้ว่าทั้งหมดจะยังคงทำหน้าที่ต่อไปจนมีรัฐบาลใหม่ โดยยกเอารัฐธรรมนูญมาตรา 264 และ 265 มาใช้เป็นข้ออ้าง
“ด้วยเหตุดังกล่าวจึงอยากเรียกร้องให้ประชาชนและองค์กรตรวจสอบต่างๆ ช่วยกันจับตาและตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ และ 4 รัฐมนตรี ในสังกัดพรรคประชารัฐว่าจะมีการใช้เวลา ทรัพยากรหรืองบประมาณของภาครัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทางการเมืองเพื่อทำให้เกิดความได้เปรียบทางการเมืองหรือไม่?”
นอกจากนี้นางลดาวัลลิ์ ยังได้แสดงความเห็นกรณีนักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่าจะไม่มีพรรคการเมืองใดร่วมลงสัตยาบันร่วมต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.กับพรรคเพื่อไทย โดยอ้างว่าในทางการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวรนั้นว่า อย่าลืมว่าพลังที่ยิ่งใหญ่คือพลังของประชาชน เรายังเชื่อมั่นในความศรัทธาและความไว้วางใจของประชาชนทั่วประเทศที่มีต่อพรรคเพื่อไทยตลอด 17 ปีที่ผ่านมาจะยังคงเหนียวแน่นอยู่จนถึงวันเลือกตั้งดัง นั้นพรรคเพื่อไทยจะร่วมมือกับประชาชนในการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย เพราะที่ผ่านมาเกือบ 5 ปี เห็นได้อย่างชัดเจนว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการใช้อำนาจนอกระบบ ทำให้สภาพบ้านเมืองและชีวิตความเป็นอยู่ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนมีความยากลำบากมากน้อยแค่ไหน และยังขาดมาตรการป้องกันวิกฤติฝุ่นพิษรุนแรงในกรุงเทพมหานครจนเด็กๆล้มป่วยนับหมื่นรายแล้ว
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จนถึงนาทีนี้คงจะป่วยการที่จะเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ 4 รัฐมนตรี ในสังกัดของพรรคประชารัฐ แสดงสปิริตด้วยการลาออก หลังจาก พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ประกาศบังคับใช้แล้ว เพราะจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ทำให้สามารถคาดเดาได้ว่าทั้งหมดจะยังคงทำหน้าที่ต่อไปจนมีรัฐบาลใหม่ โดยยกเอารัฐธรรมนูญมาตรา 264 และ 265 มาใช้เป็นข้ออ้าง
“ด้วยเหตุดังกล่าวจึงอยากเรียกร้องให้ประชาชนและองค์กรตรวจสอบต่างๆ ช่วยกันจับตาและตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ และ 4 รัฐมนตรี ในสังกัดพรรคประชารัฐว่าจะมีการใช้เวลา ทรัพยากรหรืองบประมาณของภาครัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทางการเมืองเพื่อทำให้เกิดความได้เปรียบทางการเมืองหรือไม่?”
นอกจากนี้นางลดาวัลลิ์ ยังได้แสดงความเห็นกรณีนักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่าจะไม่มีพรรคการเมืองใดร่วมลงสัตยาบันร่วมต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.กับพรรคเพื่อไทย โดยอ้างว่าในทางการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวรนั้นว่า อย่าลืมว่าพลังที่ยิ่งใหญ่คือพลังของประชาชน เรายังเชื่อมั่นในความศรัทธาและความไว้วางใจของประชาชนทั่วประเทศที่มีต่อพรรคเพื่อไทยตลอด 17 ปีที่ผ่านมาจะยังคงเหนียวแน่นอยู่จนถึงวันเลือกตั้งดัง นั้นพรรคเพื่อไทยจะร่วมมือกับประชาชนในการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย เพราะที่ผ่านมาเกือบ 5 ปี เห็นได้อย่างชัดเจนว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการใช้อำนาจนอกระบบ ทำให้สภาพบ้านเมืองและชีวิตความเป็นอยู่ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนมีความยากลำบากมากน้อยแค่ไหน และยังขาดมาตรการป้องกันวิกฤติฝุ่นพิษรุนแรงในกรุงเทพมหานครจนเด็กๆล้มป่วยนับหมื่นรายแล้ว
วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2562
"พานทองแท้" โพสต์ ชอบบรรยากาศแบบไหน...คนไทยขอ ”เลือกเอง!!”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ ระบุว่า ชอบบรรยากาศแบบไหน...คนไทยขอ ”เลือกเอง!!” พร้อมกราฟิกระบุว่า ขออภัย ปิดปรับปรุง อยู่ระหว่างรอการเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายพานทองแท้ โพสต์ข้อความดังกล่าว หลังจาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศโปรดเกล้าฯพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการทั่วไป พ.ศ.2562 โดยหลังจากประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว นับจากนี้ภายใน 5 วัน กกต.จะประกาศวันเลือกตั้ง
วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2562
"ชุมสาย" ชี้ บังคับใช้กฎหมายเลือกปฏิบัติ ต้นเหตุต่างชาติเมินลงทุน
นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาบรรดาการกระทำความผิดต่างๆของกลุ่มการเมืองที่มีความผูกพันกันในอดีต และมีแนวทางหรือแนวโน้มในการสนับสนุนอำนาจในปัจจุบันของผู้มีอำนาจในรัฐบาล มักจะถูกปล่อยปละละเลย กระบวนการยุติธรรมไม่ทำงานเท่าที่ควรหรือประวิงเวลาให้เนิ่นช้า เพื่อประโยชน์ในทางใดๆ และจบที่ผลของคดีที่เป็นคุณของกลุ่มการเมืองนั้นอยู่เสมอ
ประกอบกับบรรดาการกระทำความผิดต่างๆของบุคคลที่มีอำนาจในรัฐบาลก็มักจะถูกเพิกเฉย ปล่อยผู้กระทำผิดลอยนวล ประหนึ่งว่าไม่มีอะไรหรือที่น่าเกลียดที่สุดคือกรณีที่น่าเชื่อว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพื่อช่วยตนเองและพวกพ้องให้ปลอดภัยจากคดีความ และให้อยู่ในอำนาจต่อไป รวมถึงกรณีที่อาจมีการใช้ประโยชน์ทางคดีบีบคอต่อรองนักการเมืองให้ย้ายพรรค เป็นต้น ในขณะที่การบังคับใช้กฎหมายกลับอีกกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามกลับดำเนินไปอย่างหนักหน่วง รวดเร็วรุนแรง และอาจเป็นการเลือกจังหวะเวลาเพื่อประโยชน์ในทางการเมือง
"การบังคับใช้กฎหมาย ต้องคำนึงถึงหลักนิติธรรม และมีเมตตาธรรมประกอบด้วย การที่ผู้มีอำนาจใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือในทางการเมือง บังคับใช้กฎหมายโดยมีอคติและเลือกปฏิบัติ หวั่นกลัวว่าในสังคมจะเต็มไปด้วยคนที่ไร้คุณธรรมจริยธรรม จะเกิดความแตกแยก จะหาความสงบสุขไม่ได้เลย และ ต่างชาติจะไม่เชื่อถือ อาจจะไม่กล้ามาลงทุน” นายชุมสาย กล่าวทิ้งท้าย
"ทษช." ลงพื้นที่พบผู้ประกอบการนครปฐม
ทษช. ลงพื้นท่ีนครปฐม เปิดนโยบายต่อยอด SME เจาะตลาดโลก "ปรีชาพล" ชวนคนนครปฐมเลือก ทษช.เป็นรัฐบาลไล่เผด็จการ แก้เศรษฐกิจตกต่ำ “ณัฐวุฒิ” แจงโปรแกรมหาเสียงทั่วประเทศ ย้ำ ความพร้อม รอ กกต.ทำหน้าท่ีในฐานะองค์กรอิสระท่ีเป็นธรรม
พรรคไทยรักษาชาติ นำโดยร้อยโท ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงและกรรมการบริหารพร้อมแกนนำพรรค ลงพื้นที่เยี่ยมชมโรงงาน ธุรกิจ SME น้ำลูกยอ ในเขตเทศบาลตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เพื่อต่อยอดนโยบาย SME ผลักดันสินค้าเกษตรแปรรูปซึ่งเป็นสินค้าหลักของประเทศไทย ด้วยยุทธศาสตร์เชื่อมไทย เชื่อมโลก โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครปฐม ทั้ง 5 เขตพร้อมผู้สนับสนุนพรรคให้การต้อนรับ
ร้อยโทปรีชาพล กล่าวกับชาวพุทธมณฑลว่า ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา พรรคการเมืองถูกปิดกันไม่ให้สื่อสารกับประชาชน ซึ่งวันนี้คนไทยเจอปัญหาหลากหลายในแต่ละพื้นที่ แต่ที่เหมือนกันทั่วประเทศคือปัญหาเศรษฐกิจและราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ สวนทางกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยยืนยันว่า ปัญหาที่เผชิญอยู่สามารถแก้ไขได้ หากมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งที่ใส่ใจประชาชน ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติด้วย และแม้ว่าการเลือกตั้งจะถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆ แต่อยากให้ประชาชนเตรียมพร้อมในการใช้สิทธิ์
ร้อยโทปรีชาพล ระบุด้วยว่าขณะที่รูปแบบบัตรใบเดียวอาจทำให้สับสน แต่การลงคะแนนหรือกาเพียงครั้งเดียว ได้ถึง 4 วัตถุประสงค์ คือ 1.เลือก ส.ส.เขต 2.เลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3.นายกรัฐมนตรี และ 4.คือ ไล่ คสช. พร้อมกับย้ำว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีเพียง 2 ทางเลือกคือ จะเลือกฝ่ายประชาธิปไตยเข้ามาแก้ปัญหาประเทศ หรือจะเลือกพรรคการเมืองที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช.
จากนั้นมีการลงพื้นที่พบปะและรับฟังการสะท้อนปัญหาของประชาชน ที่ตลาดดอนหวาย ตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
โดยร้อยโทปรีชาพล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่าทุกพรรคการเมืองพร้อมลงสนามเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ไม่ต้องกังวลเรื่องงานธุรการของแต่ละพรรค ส่วนพรรคไทยรักษา กำลังจะประชุมคณะกรรมการสรรหาและคัดเลือกผู้สมัคร ซึ่งจะชัดเจนในอีก 2 -3 วันจากนี้ โดยเห็นว่าพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ต้องได้ ส.ส.รวมกันอย่างน้อย 376 ที่นั่ง จะได้ไม่ต้องมีข้อกังวลใดๆทั้งสิ้นต่อกระบวนการที่ผู้มีอำนาจเตรียมการไว้ และทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน ที่จะทวงสิทธิเสรีภาพและความกินดีอยู่ดีที่ถูกลิดรอนไปกลับคืนมาได้ผ่านการเลือกตั้งให้ได้รัฐบาลที่มาจากประชาชนเข้าไปแก้ไขปัญหาหรือการจราจรให้กับประชาชนทั้งประเทศ
พร้อมกันนี้ ได้เรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองประกาศจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะสนับสนุนการสืบทอดอำนาจ หรือมีจุดยืนประชาธิปไตย เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ และยืนยันว่าไม่ใช่การเรียกร้องให้เกิดความขัดแย้ง แต่เป็นการแสดงว่าทิศทางประเทศจะไปทางไหน
ด้านนายณัฐวุฒิ เปิดเผยว่า พรรคไทยรักษาชาติจะลงพื้นที่ต่อเนื่องทุกภาคของประเทศหลังจากนี้ เเละเชื่อว่าประชาชน รวมถึงคนปักษ์ใต้เข้าใจสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างดีโดยแนวทางของพรรคไทยรักษาชาติพร้อมจะเผชิญหน้ากับเผด็จการทุกรูปแบบและก็พร้อมที่จะทำงานกับประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่าย
นายณัฐวุฒิ ยังเรียกร้องให้ กกต.ปฏิบัติหน้าที่ให้โปร่งใส ตรงไปตรงมา ด้วยความเป็นธรรมและมีความเป็นอิสระ โดยเฉพาะการตรวจสอบนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยที่เดินทางไปพบอดีตนายกรัฐมนตรีที่ต่างประเทศ ว่าเข้าข่ายการถูกครอบงำหรือไม่ ซึ่งปกติควรปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกันกับทุกพรรคการเมือง โดยเทียบเคียงกับพรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศตลอดมาว่า นโยบายและผลงานของรัฐบาลก็คือนโยบายพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงการสนับสนุนผู้มีอำนาจอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งนายณัฐวุฒิ ตั้งข้อสังเกตว่า ลักษณะเช่นนี้เป็นยิ่งกว่าการครอบงำ เพราะคือการครอบครองโดยคนใหญ่คนโตในรัฐบาลหรือไม่ ดังนั้น กกต.ต้องเตือนตัวเองให้มากและตระหนักว่าประชาชนรู้เท่าทันและต้องการความชัดเจนการปฏิบัติจาก กกต.ด้วย
วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2562
"ชัชชาติ" นำเพื่อไทย เยี่ยมเกษตรกรมหาสารคาม หนุนปลูกผักปลอดสารพิษ
‘ชัชชาติ’ ย้ำ เลือกตั้งนี้แพ้ไม่ได้ ขอประชาชนออกไปเลือกตั้งล้มเผด็จการที่ปลอมตัวมาเป็นนักประชาธิปไตย เพื่ออนาคตลูกหลาน พร้อมอาสาแก้ปัญหาเกษตร ชูเกษตรทางเลือกสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกร
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมือง ลงพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดมหาสารคาม เยี่ยมชมสวนผักปลอดสารพิษ ชุมชนบ้านหนองบัว ตำบลนาภู อำเภอยางสีสุราช สวนผักนี้เป็นการลงทุนลงแรงร่วมกันของชุมชนปลูกผักส่งให้ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่าปีนี้มีปัญหาภัยแล้ง ทำให้ผลิตข้าวได้ปริมาณน้อยลงเหลือ 3 กระสอบต่อ 10 ไร่ จึงหันมารวมกัน 18 ครัวเรือนปลูกผักปลอดสารพิษ 25 ไร่ตามความต้องการของท้องตลาดสร้างรายได้สัปดาห์ละ 10,000 บาท
ทั้งนี้นายชัชชาติ ได้พูดคุยถึงปัญหาและขั้นตอนการผลิตและส่งออกผักกับชาวบ้าน พร้อมทั้งรดน้ำสวนผัก ซื้อผัก และรับประทานผักปลอดสารพิษในไร่ หลังจากนั้นนายชัชชาติยังช่วยเก็บต้นหอม และอวยพรว่า “ใครกินผักกาละมังนี้ ขอให้แข็งแกร่ง”
นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการมาลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า จุดที่ลงพื้นที่เป็นมิติใหม่ เนื่องจากการทำข้าวได้ผลไม่ดี เกษตรกรจึงมีการทำผักขึ้นมาเสริม เป็นผักไร้สารพิษ ส่งตรงเข้ากรุงเทพมหานครฯ สร้างรายได้มาทดแทนข้าว ซึ่งการขายข้าวมี 3 มิติ คือ ราคาขายข้าว ผลผลิตต่อไร่ และต้นทุนการผลิต แต่ราคาขายข้าวเกษตรกรควบคุมไม่ได้ เพราะตลาดโลกเป็นคนกำหนด ดังนั้นมี 3 วิธีที่จะแก้ปัญหาราคาข้าวคือ การพยุงราคาข้าว, การลดต้นทุน, และการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ นอกจากนั้นคือการหารายได้เพิ่มให้กับเกษตรกร เช่น หมู่บ้านนี้ที่มีน้ำบาดาลดีจึงดึงน้ำบาดาลขึ้นมาปลูกผักปลอดสารพิษได้ ซึ่งมีทางเลือกอื่นอีกมากที่จะมาช่วยเสริมรายได้และรัฐบาลเองต้องเข้ามาช่วยเหลือและให้ความรู้ ต้นไปดูสถิติของกระทรวงเกษตร ผลผลิตข้าวสารต่อไร่ของประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 9 ของโลกจาก 10 อันดับสูงกว่าเมียนมาร์ประเทศเดียว แสดงว่าผลผลิตต่อไร่ต่ำ ดังนั้นถ้าทำให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่ม หรือลดต้นทุน แม้จะขายในราคาเท่าเดิมแต่ก็ได้รายได้เพิ่ม ซึ่งต้องมองในหลายมิติ ตนมองว่าเกษตรทางเลือกจะเป็นตัวช่วยที่ดี แต่สำคัญคือต้องตอบโจทย์ตลาด และถ้าสามารถตัดคนกลางได้ ถ้าสามารถตัดราคาส่วนต่างได้ หากทำให้เกษตรกรเข้าใกล้ผู้บริโภคได้มากขึ้น เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องผ่านคนกลางมาก ซึ่งช่องทางตรงนี้สามารถใช้อินเตอร์เน็ตเชื่อมโยงเกษตรกรกับผู้บริโภคได้ ประกอบกับการคมนาคมที่ดีจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า
“ผมว่าก็เหมือนการทำธุรกิจทั่วไป บริษัททำธุรกิจก็ไม่ได้ทำผลิตภัณฑ์อย่างเดียว ต้องมีผลิตภัณฑ์หลายอย่างเพื่อลดความเสี่ยง ต้องบริหารต้นทุนเพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายลง ต้องหาตลาดให้เป็นและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ให้ใช้ทรัพยากรเท่าเดิม แรงงานต่อหน่วยมากขึ้น ถ้าเรามองเกษตรกรเหมือนเป็นธุรกิจผมเชื่อว่าจะมีทางออกอีกเยอะแยะเลยที่จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นได้ ไม่ใช่มองแค่เดียวราคาอย่างเดียวซึ่งเป็นรูปแบบเก่า เราดูให้ครบวงจร ผมเชื่อว่าอนาคตทุกคนยังต้องกินข้าวและอาหารปลอดภัยเป็นเทรนด์ใหม่ของโลกที่จะมาเสริมรายได้ให้เกษตรกรได้”
จากนั้น นายชัชชาติ เดินทางมาพบปะประชาชนในชุมชน ชาวบ้านผูกผ้าขาวม้าและผูกสายสิญจน์ที่ข้อมือเพื่อต้อนรับ นายชัชชาติกล่าวกับประชาชนว่า วันนี้ได้มาดูแปลงผักมีวิธีการจัดการที่น่าสนใจ และรัฐบาลชุดหน้าจะเข้ามาลดรายจ่าย สร้างรายได้ ขยายโอกาส ให้ทุกคนเท่าเทียมกันทั้งการเกษตร การศึกษา และสาธารณสุข การมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจาก ตัวแทนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับเลือกเป็น ส.ส. นำปัญหาของประชาชน นำเสนอเข้ามาแก้ไขในคณะรัฐมนตรีอย่างตรงจุด โดยนายชัชชาติสัญญาว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะดูแลรายได้สินค้าเกษตร การรักษาพยาบาล การศึกษาให้เท่าเทียม เพราะมันคือประชาธิปไตย ที่ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน
นายชัชชาติ ย้ำว่าคนที่ฆ่าเราอยู่ตอนนี้ไม่ใช่นักการเมืองแต่คือเผด็จการที่ปลอมตัวมาเป็นนักประชาธิปไตย คนพวกนี้หัวใจไม่ใช่ประชาธิปไตยแต่เป็นเผด็จการ และมาหลอกคนประชาธิปไตยในช่วงการเลือกตั้ง จะทำลายประชาธิปไตยไทยในระยะยาว จะเห็นได้ว่าช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาไม่มีโครงการอะไร แต่พอใกล้ช่วงเลือกตั้งกลับมีโครงการขึ้นมามากมาย
ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยจึงแพ้ไม่ได้ และต้องได้ ส.ส. 375 คนจาก 500 คน เนื่องจากรัฐบาลได้แต่งตั้ง ส.ว. 250 คนที่มีสิทธิโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอกไว้ด้วย ตนจึงขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันออกไปเลือกตั้ง แต่ไม่ใช่เพียงช่วยเราหรือช่วยพรรคเพื่อไทย แต่เป็นการช่วยระบบประชาธิปไตยให้ไปรอด เพื่ออนาคตของลูกหลาน และเพื่ออนคาตของประชาธิปไตยในประเทศไทย
จากนั้นนายชัชชาติเยี่ยมชม ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรอินทรีย์เฉลิมพระเกียรติ ที่ทำโดยคนรุ่นใหม่โครงการ Young Smart Farmer ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการผลิตและขายสินค้าเกษตร ส่วนวันพรุ่งนี้ นายชัชชาติ และทีมงานจะไปลงพื้นที่พบปะประชาชนที่ อ.นาดูน และ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมือง ลงพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดมหาสารคาม เยี่ยมชมสวนผักปลอดสารพิษ ชุมชนบ้านหนองบัว ตำบลนาภู อำเภอยางสีสุราช สวนผักนี้เป็นการลงทุนลงแรงร่วมกันของชุมชนปลูกผักส่งให้ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่าปีนี้มีปัญหาภัยแล้ง ทำให้ผลิตข้าวได้ปริมาณน้อยลงเหลือ 3 กระสอบต่อ 10 ไร่ จึงหันมารวมกัน 18 ครัวเรือนปลูกผักปลอดสารพิษ 25 ไร่ตามความต้องการของท้องตลาดสร้างรายได้สัปดาห์ละ 10,000 บาท
ทั้งนี้นายชัชชาติ ได้พูดคุยถึงปัญหาและขั้นตอนการผลิตและส่งออกผักกับชาวบ้าน พร้อมทั้งรดน้ำสวนผัก ซื้อผัก และรับประทานผักปลอดสารพิษในไร่ หลังจากนั้นนายชัชชาติยังช่วยเก็บต้นหอม และอวยพรว่า “ใครกินผักกาละมังนี้ ขอให้แข็งแกร่ง”
นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการมาลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า จุดที่ลงพื้นที่เป็นมิติใหม่ เนื่องจากการทำข้าวได้ผลไม่ดี เกษตรกรจึงมีการทำผักขึ้นมาเสริม เป็นผักไร้สารพิษ ส่งตรงเข้ากรุงเทพมหานครฯ สร้างรายได้มาทดแทนข้าว ซึ่งการขายข้าวมี 3 มิติ คือ ราคาขายข้าว ผลผลิตต่อไร่ และต้นทุนการผลิต แต่ราคาขายข้าวเกษตรกรควบคุมไม่ได้ เพราะตลาดโลกเป็นคนกำหนด ดังนั้นมี 3 วิธีที่จะแก้ปัญหาราคาข้าวคือ การพยุงราคาข้าว, การลดต้นทุน, และการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ นอกจากนั้นคือการหารายได้เพิ่มให้กับเกษตรกร เช่น หมู่บ้านนี้ที่มีน้ำบาดาลดีจึงดึงน้ำบาดาลขึ้นมาปลูกผักปลอดสารพิษได้ ซึ่งมีทางเลือกอื่นอีกมากที่จะมาช่วยเสริมรายได้และรัฐบาลเองต้องเข้ามาช่วยเหลือและให้ความรู้ ต้นไปดูสถิติของกระทรวงเกษตร ผลผลิตข้าวสารต่อไร่ของประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 9 ของโลกจาก 10 อันดับสูงกว่าเมียนมาร์ประเทศเดียว แสดงว่าผลผลิตต่อไร่ต่ำ ดังนั้นถ้าทำให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่ม หรือลดต้นทุน แม้จะขายในราคาเท่าเดิมแต่ก็ได้รายได้เพิ่ม ซึ่งต้องมองในหลายมิติ ตนมองว่าเกษตรทางเลือกจะเป็นตัวช่วยที่ดี แต่สำคัญคือต้องตอบโจทย์ตลาด และถ้าสามารถตัดคนกลางได้ ถ้าสามารถตัดราคาส่วนต่างได้ หากทำให้เกษตรกรเข้าใกล้ผู้บริโภคได้มากขึ้น เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องผ่านคนกลางมาก ซึ่งช่องทางตรงนี้สามารถใช้อินเตอร์เน็ตเชื่อมโยงเกษตรกรกับผู้บริโภคได้ ประกอบกับการคมนาคมที่ดีจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า
“ผมว่าก็เหมือนการทำธุรกิจทั่วไป บริษัททำธุรกิจก็ไม่ได้ทำผลิตภัณฑ์อย่างเดียว ต้องมีผลิตภัณฑ์หลายอย่างเพื่อลดความเสี่ยง ต้องบริหารต้นทุนเพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายลง ต้องหาตลาดให้เป็นและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ให้ใช้ทรัพยากรเท่าเดิม แรงงานต่อหน่วยมากขึ้น ถ้าเรามองเกษตรกรเหมือนเป็นธุรกิจผมเชื่อว่าจะมีทางออกอีกเยอะแยะเลยที่จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นได้ ไม่ใช่มองแค่เดียวราคาอย่างเดียวซึ่งเป็นรูปแบบเก่า เราดูให้ครบวงจร ผมเชื่อว่าอนาคตทุกคนยังต้องกินข้าวและอาหารปลอดภัยเป็นเทรนด์ใหม่ของโลกที่จะมาเสริมรายได้ให้เกษตรกรได้”
จากนั้น นายชัชชาติ เดินทางมาพบปะประชาชนในชุมชน ชาวบ้านผูกผ้าขาวม้าและผูกสายสิญจน์ที่ข้อมือเพื่อต้อนรับ นายชัชชาติกล่าวกับประชาชนว่า วันนี้ได้มาดูแปลงผักมีวิธีการจัดการที่น่าสนใจ และรัฐบาลชุดหน้าจะเข้ามาลดรายจ่าย สร้างรายได้ ขยายโอกาส ให้ทุกคนเท่าเทียมกันทั้งการเกษตร การศึกษา และสาธารณสุข การมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจาก ตัวแทนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับเลือกเป็น ส.ส. นำปัญหาของประชาชน นำเสนอเข้ามาแก้ไขในคณะรัฐมนตรีอย่างตรงจุด โดยนายชัชชาติสัญญาว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะดูแลรายได้สินค้าเกษตร การรักษาพยาบาล การศึกษาให้เท่าเทียม เพราะมันคือประชาธิปไตย ที่ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน
นายชัชชาติ ย้ำว่าคนที่ฆ่าเราอยู่ตอนนี้ไม่ใช่นักการเมืองแต่คือเผด็จการที่ปลอมตัวมาเป็นนักประชาธิปไตย คนพวกนี้หัวใจไม่ใช่ประชาธิปไตยแต่เป็นเผด็จการ และมาหลอกคนประชาธิปไตยในช่วงการเลือกตั้ง จะทำลายประชาธิปไตยไทยในระยะยาว จะเห็นได้ว่าช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาไม่มีโครงการอะไร แต่พอใกล้ช่วงเลือกตั้งกลับมีโครงการขึ้นมามากมาย
ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยจึงแพ้ไม่ได้ และต้องได้ ส.ส. 375 คนจาก 500 คน เนื่องจากรัฐบาลได้แต่งตั้ง ส.ว. 250 คนที่มีสิทธิโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอกไว้ด้วย ตนจึงขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันออกไปเลือกตั้ง แต่ไม่ใช่เพียงช่วยเราหรือช่วยพรรคเพื่อไทย แต่เป็นการช่วยระบบประชาธิปไตยให้ไปรอด เพื่ออนาคตของลูกหลาน และเพื่ออนคาตของประชาธิปไตยในประเทศไทย
จากนั้นนายชัชชาติเยี่ยมชม ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรอินทรีย์เฉลิมพระเกียรติ ที่ทำโดยคนรุ่นใหม่โครงการ Young Smart Farmer ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการผลิตและขายสินค้าเกษตร ส่วนวันพรุ่งนี้ นายชัชชาติ และทีมงานจะไปลงพื้นที่พบปะประชาชนที่ อ.นาดูน และ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)