ขุนพล ทษช. ยึดเวทีปราศรัยใหญ่ สมุทรสาคร แห่โชว์วิสัยทัศน์ แนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แม่ทัพใหญ่จาตุรนต์ ย้ำประชาชนต้องเลือกประชาธิปไตยเท่านั้น หมดเวลาแล้ว คสช. “ปรีชาพล” วอนชาวประมงให้จำความเจ็บปวด ยัน ทษช. จะมาช่วยแก้ไข
พรรคไทยรักษาชาติ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร นำโดย ร้อยโท ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค, นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียง, นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจและแกนนำพรรค โดยมีนางสาวอัจฉรา สรวารี นักเคลื่อนไหวด้านคุณภาพชีวิตคนจนเมือง มูลนิธิอิสรชนและนายพลภวัฒน์ ชำนาญวาด นักการเมืองท้องถิ่น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร เขต 1 และเขต 2 พร้อมผู้สนับสนุนพรรคให้การต้อนรับ ซึ่งจังหวัดสมุทรสาคร มี 3 เขตเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติส่งผู้สมัครลง 2 เขตเท่านั้น
โดยทั้งคณะได้ร่วมสักการะเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ก่อนจะตั้งขบวนรถแห่แบ่งเป็น 2 ขบวน ประกอบด้วย ขบวนรถที่ 1 นำโดยนายจตุรนต์ ใช้เส้นทางตลาดมหาชัย ส่วนร้อยโทปรีชาพล นำขบวนที่ 2 ใช้เส้นทางกระทุ่มแบน-บางยาง-หนองนกไข่ แยกกันแนะนำพรรคต่อประชาชนตามเส้นทาง ก่อนเข้าพื้นที่ตั้งเวที บริเวณลานตลาดนัด ตรงข้ามวัดอ้อมน้อย ในเวลาไล่เลี่ยกันประมาณ 17 นาฬิกา 30 นาที ซึ่งชาวกระทุ่มแบนและอำเภอใกล้เคียง ให้การต้อนรับว่าที่ผู้สมัครอย่างอบอุ่นและเดินทางมาฟังการปราศรัยกันอย่างหนาแน่น
ร้อยโทปรีชาพล ปราศรัยตอนหนึ่งระบุว่า จากการลงพื้นที่หลายจังหวัดพบว่า ปัญหาเฉพาะของแต่ละจังหวัดแตกต่างกันไป แต่ที่เผชิญเหมือนกันทั่วประเทศ คือปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอย ที่สำคัญคือการค้าขายยุคใหม่ผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรือ E commerce ซึ่งรัฐบาล คสช.ให้สิทธิให้บริษัทต่างชาติอาลีบาบา ผูกพันสัญญาลดหย่อนภาษี ถึง 13 ปี แต่กลับเก็บภาษีย้อนหลังกับ e-commerce รายย่อยที่เป็นคนไทย
ขณะเดียวกัน รัฐบาล คสช.ได้ทำลายความมั่นใจนักลงทุนต่างชาติ จากการเลื่อนการเลือกตั้งบ่อยครั้ง ต่างชาติจึงรอให้ประเทศไทยมีการเลือกตั้งและได้รัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยก่อน ดังนั้น ประชาชนต้องร่วมกันเลือกฝ่ายประชาธิปไตย สกัดกั้นการสืบทอดอำนาจของ คสช.เพื่อให้ได้รัฐบาลที่ยึดโยงกับประชาชนมาบริหารประเทศ
ร้อยโทปรีชาพล ชี้ว่า ต้องนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสิ่งแปลกใหม่มาเป็นตัวช่วยแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้คนไทยจะร่ำรวยได้อย่างเท่ๆไม่ต้องอายใคร ต่างจากวัดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เรียกกันทั่วไปว่าบัตรคนจน ที่ยิ่งแจกเงิน คนจนยิ่งเพิ่มมากขึ้นและไม่เข้าใจว่ารัฐบาลมองเป็นผลงานได้อย่างไรเมื่อคนจนนับวันยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่นายจาตุรนต์ ระบุว่า ต้องใช้วาระการเลือกตั้งให้ได้รัฐบาลประชาธิปไตยเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน เพราะที่ผ่านมารัฐบาล คสช.ไม่เข้าใจสภาพปัญหา โดยยกตัวอย่างการจัดการปัญหาประมง ที่เป็นอาชีพสำคัญของชาวสมุทรสาครและ 20 กว่าจังหวัดชายฝั่งทั่วประเทศ ซึ่งรัฐบาล คสช.รีบดำเนินการตามข้อเสนอของสหภาพยุโรป ออกระเบียบจำนวนมากควบคุมการทำประมง กระทบผู้ประกอบการและแรงงานจำนวนมาก
นายจาตุรนค์ ย้ำว่าประมงไทยที่เคยส่งออกได้ปีละ 5 หมื่นล้านบาท เหลือเพียงหมื่นล้านบาทต่อปี เรือประมงแถบนี้ออกทะเลได้ เพียง 200 ลำจาก พันกว่าลำ และเมื่ออาชีพประมงหายไป ก็ส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงผู้ประกอบการโรงน้ำแข็ง และการค้าขายที่ต่อเนื่องจากอุตสาหกรรมประมงและประมงพื้นบ้านรวมถึงอัตราการจ้างงานด้วย ดังนั้น จึงเป็นความจำเป็นที่เลี่ยงไม่ได้ ที่ประชาชนจะต้องร่วมกับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย จัดตั้งรัฐบาลที่เข้าใจปัญหาและมีอำนาจต่อรองกับนานาชาติ เพื่อมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทย
ด้านนางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค ขึ้นเวทีแนะนำตัวต่อชาวสมุทรสาครและปราศรัย ระบุถึง การตัดสินใจทำงานการเมืองเต็มตัว เพราะเชื่อว่าความยากจนไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาด พร้อมย้ำว่าพรรคไทยรักษาชาติ จะมาทำงานแก้ปัญหาหลักๆใน 3 เรื่องคือ 1.สานต่อรัฐบาลนโยบายรัฐบาลพรรคไทยรักไทยและจะนำเทคโนโลยีมาต่อยอดนโยบายให้ดีขึ้น เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น
2.ต้องการคืนคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน ทั้งการศึกษา การรักษาพยาบาล และ 3. จะคืนรัฐบาลที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ให้กับประชาชน ให้รัฐบาลเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริงอีกครั้งหนึ่ง พร้อมสำทับว่า ทั้งหมดทั้งมวลจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย ที่สำคัญคือ ประชาชนต้องไปเลือกตั้งให้มากที่สุดด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น