วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2562
"ชัชชาติ" มั่นใจ เพื่อไทยคว้าชัย อันดับ1
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แจงแผนปราศรัยใหญ่เพื่อไทย เตรียมปูพรมนโยบาย ขอเสียงประชาชนส่งขุนพลฝ่ายประชาธิปไตย เข้าสู่สภาสู้ ส.ว.250 เสียง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ย่านคลองจั่นพร้อมผู้สมัครเขตบางกะปิ นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เบอร์ 5 ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง โดยได้พบปะประชาชนที่มาออกกำลังกายที่สวนพฤษ์ชาติ
โดยนายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการปราศรัยใหญ่ในเวลา 16.00 น. วันนี้(22มี.ค.) ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ว่า พรรคเพื่อไทยจะมุ่งเน้นในการทำความเข้าใจกับประชาชนว่าเหตุใดต้องเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย และให้พรรคเพื่อไทยเข้าไปคานอำนาจส.ว. นั่นคือสิ่งที่เพื่อไทยได้แสดงจุดยืนไว้ชัดเจนอยู่แล้ว
ส่วนการแข่งขันในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนั้น เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองมียุทธศาสตร์อยู่แล้ว ก็ขอให้สู้กันอย่างเต็มที่ สำหรับบางพรรคจะเปิดหน้าหรือไม่ ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าตลอดห้าปีที่ผ่านมาชอบไม่ชอบ
เมื่อถามถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ ออกมาระบุถึงการจับมือตั้งพรรคร่วมรัฐบาล นายชัชชาติเห็นว่า ตัวแปรสำคัญคือ ส.ว สรรหาร 250 คน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยคว้าคะแนนเสียงอันดับ 1 อยู่แล้ว และต้องเป็นตัวหลักในการหาพันธมิตรมาจับมือกัน ซึ่งถ้ารวมกันได้376 เสียง ก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องส.ว.250เสียง อย่างไรก็ดีมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะคว้าเสียงข้างมากและเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลได้ และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยมีแนวร่วมอุดมการณ์ที่ยึดมั่นและเคารพเสียงของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย
“ทุกคนคงไม่อยากให้ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้ง มันมีเสียงเหนือมติประชาชนได้ และเห็นว่าการเมืองมันคือเรื่องยาวๆ ถ้าใครไปอยู่กับส.ว.ก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง ว่าเรายึดมั่นในมติประชาชนหรือไม่?” ชัชชาติ ระบุ
ขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทยจะเร่งปัญหาเศรษฐกิจเป็นนโยบายนำของพรรค เพราะทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ ตลอดจนถึงการแก้งบด้านความมั่นคง
นอกจากนี้เมื่อถามว่าจะมีไอเดียการจัดเก็บในส่วนของป้ายหาเสียงหรือขยะภายหลังการเลือกตั้งอย่างไร นายชัชชาติ เห็นว่าต้องมีการนำไปรีไซเคิลเพื่อให้เกิดประโยชน์ เพราะวัสดุที่นำม่ใช้ก็สามารถรีไซเคิลได้ อย่างไรก็ดีเห็นว่าป้ายหาเสียงคือมูลค่าถ้าพรรคไม่เก็บก็จะมีประชาชนนำไปใช้ต่อ อีกทั้งยังเป็นการลดใช้พลาสติก
ทั้งนี้นายชัชชาติ ยังแสดงความกังวลต่อเรื่องผู้พิการทางในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ว่า ต้องฝากให้กกต.หามาตรการอำนวยความสะดวก ต่อผู้พิการเพราะเห็นว่าทุกคนต้องได้รับการปฏิบัติและให้สิทธิอย่างเท่าเทียม ตามหัวใจสำคัญของประชาธิปไตยคืออิสระและเท่าเทียมกัน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น