ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
น้องสาวผม ทั้งเอมและอิ๊งค์ ออกไปเลือกตั้งล่วงหน้ากันแล้ว ส่วนผมจะกลับจากฮ่องกงมาเลือกตั้งตรงวัน คือวันที่ 24 มีนาคมครับ
วันนี้ในโซเชี่ยลตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับข้อขัดข้องในการเลือกตั้งล่วงหน้ากันเยอะมาก ส่วนใหญ่ก็จะลงที่ กกต.กันนะครับ ยิ่งมีข่าวว่า กกต.ไม่อยู่ประชุมในช่วงเตรียมการเลือกตั้ง และบินไปดูงานต่างประเทศกัน พอการเลือกตั้งล่วงหน้าออกมาไม่เรียบร้อย ก็ย่อมโดนตำหนิเป็นธรรมดา
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราไม่ค่อยได้พูดถึงกัน และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ กกต.โดนตำหนิ ทั้งๆที่เป็นการกำหนดแผนการของคนอื่นก็คือ การกำหนดกฎเกณฑ์การเลือกตั้ง ที่ระบุว่าให้ทั้ง 350 เขตเลือกตั้ง จับสลากเบอร์เลือกตั้งกันเอง ทั้งๆที่การกาบัตรเลือกตั้งในใบเดียวกันนั้น เป็นการเลือกทั้ง ส.ส.เขต และปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคนั้นๆด้วย
ก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายพยายามทักท้วงไปยัง กกต.แล้วว่า ให้แต่ละพรรคฯจับฉลากเบอร์เดียวกันทั้งประเทศเถิด จะได้ง่ายต่อการจดจำ บัตรเลือกตั้งก็จะเหมือนกันทั้งหมด ไม่มีการสับสน งบประมาณก็ใช้น้อยกว่า ผลสัมฤทธิ์ของงานอำนวยการเลือกตั้ง ก็จะดีขึ้นเป็นเงาตามตัว ถูกกว่า-ดีกว่า ว่างั้นเถอะ
จุดประสงค์ของการกำหนดกติกาแบบนี้ ไม่ทราบว่ามีข้อดีอย่างไรนะครับ แต่ข้อเสียมีแน่ๆคือคนจะสับสนและกาผิดพลาดกันเยอะ โดยเฉพาะพรรคใหญ่อย่างเพื่อไทย ที่มีคนตั้งชื่อพรรคและโลโก้พรรคแทบจะเหมือนกัน เช่น พรรคเพื่อนไทย พรรคเพื่อคนไทย รับรองว่าคนที่ดูไม่ละเอียด หรือผู้สูงอายุหูตาฝ้าฟาง ต้องมีกาผิดพลาดบ้างแหละ
ประชาชนไม่ได้สับสนอย่างเดียวนะครับ เจ้าหน้าที่รัฐที่ทำหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ขนาดอบรมกันมาดีแล้ว ยังสับสนผิดๆถูกๆแทบจะทุกหน่วย หยิบบัตรผิดเขต หรือพิมพ์บัตรผิดมาแต่แรกก็ไม่ทราบ ดูข่าวจากในโซเชี่ยลสับสนอลหม่านแทบจะทุกหน่วย ส่งผลให้คิวข้างหลังรอกันเป็นชั่วโมง แถวยาวเหยียดเลยทีเดียว
บัตร 350 เขตไม่ซ้ำกัน เบอร์พรรคก็ไม่เหมือนกัน แต่ให้เลือก ณ จุดเดียวกัน โดยมีคนมาเลือกนับหมื่นคนในวันเดียว ก็ต้องชุลมุนเป็นธรรมดา นี่ดีนะครับที่เดือนก่อนนั้น กกต.ไม่ได้บ้าจี้ยอมไม่ใส่ชื่อและโลโก้พรรคฯ ตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ ไม่อย่างนั้น วันนี้จะอลหม่านถึงขั้น กกต.จะยิ่งเละเป็นโจ๊กโดนระเบิดเลยทีเดียว
เหลืออีก 7 วัน ขอให้กำลังใจ กกต. และขอให้เตรียมการให้ดีนะครับ จะได้ดอกไม้หรือได้ก้อนอิฐซ้ำสอง อยู่ที่ความโปร่งใสในวันเลือกตั้งจริง เพราะการเลือกตั้งตามเขตในวันจริง ไม่มีเหตุการณ์สับสนใดๆที่น่าเป็นห่วง ถ้าเตรียมการมาดี พิมพ์บัตรถูกต้อง ดังนั้นที่สำคัญที่สุดคือความโปร่งใส อันจะทำให้เราได้ประชาธิปไตยที่ใสสะอาด
เชื่อว่าวันที่ 24 มีนาคม คนไทยที่รักประชาธิปไตยทั้งประเทศ ฝากความหวัง และรอที่จะมอบดอกไม้(ไม่ใช่ก้อนอิฐ) ให้กับ กกต.ทุกท่านที่ทำการเลือกตั้งให้โปร่งใส ด้วยจิตใจที่เป็นธรรมครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น