วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

“เพื่อไทย” สอนเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ "อย่าทำแบบเดิม" ประชาชนจะทุกข์ยาก พร้อมชู 5 ประเด็นเร่งด่วนให้แก้ไข


ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวทางการบริหารประเทศของรัฐบาลนับจากนี้ว่า หากดูตามโผคณะรัฐมนตรีตามข่าว กลุ่มบุคคลที่รับผิดชอบหลักด้านเศรษฐกิจยังใกล้เคียงกับรัฐบาลชุดที่แล้ว ทำให้สังคมกังวลว่าแนวคิดการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจแบบเดิมจะถูกนำมาใช้อีกหรือไม่ ประชาชนก็จะเจอกับ "สภาวะแบบเดิมๆ" ต่อไปอีก ซึ่งตรงนี้น่าเป็นห่วง จึงเสนอให้ปรับเปลี่ยนเร่งด่วน 5 ประเด็น ดังนี้

1. ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา แนวคิดการพัฒนาแบบ “บนลงล่าง” โดยใช้กลุ่มทุนขนาดใหญ่ขับเคลื่อน เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ประเทศไทยเหมาะกับระบบเศรษฐกิจแบบ “กระจายโครงข่าย” สร้างจุดเชื่อมต่อ (Node) ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นตัวกระจายความเจริญระหว่างระดับบน ชนชั้นกลาง และฐานรากเข้าด้วยกัน ต้องโตไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่ใช่ “กลุ่มทุนเดินนำ ประชาชนเดินตาม” อย่างที่ผ่านมา

2. นโยบายสินค้าการเกษตร ต้องไม่หลงประเด็นมุ่งใช้งบประมาณพยุงราคาด้วยการสนับสนุนด้านราคา แต่ต้องใช้เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรสร้างราคาที่เกิดจากการเพิ่มผลิตภาพแทน อยากแนะนำให้ลองศึกษานโยบายของพรรคเพื่อไทยที่เสนอโครงการเปลี่ยนหน้าดินซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างการผลิต คู่ขนานกับการสนับสนุนปัจจัยการผลิตซึ่งเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเพิ่มผลิตภาพ และนำไปสู่ราคาที่สูงขึ้น

3. ภาระหนี้ครัวเรือนเป็นปัญหาที่หมักหมมต่อสังคมไทยอย่างหนัก ปัจจุบันสูงเป็นอันดับ 10 ของโลก การอัดฉีดเงินเข้าระบบอย่างเดียว แทบไม่เป็นประโยชน์ หากไม่แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนก่อน มาตรการเกี่ยวกับการพักหนี้จำเป็นมาก ใช้งบประมาณไม่มาก ต้องเร่งทำเป็นอันดับแรกๆ

4. นโยบายการเงินควรมีการปรับเปลี่ยน จากการใช้เงินเฟ้อเป็นเป้าหมายควรเปลี่ยนเป็นการใช้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเป้าหมาย ในแง่ของการกระจายตัวของเม็ดเงินในระบบ ปัจจุบันเป็นแบบสามเหลี่ยมคว่ำ คนรวยมีโอกาสด้านเงินทุนมากกว่าคนจน ตรงนี้ก็ต้องเร่งแก้ไข

5. รัฐสวัสดิการเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ด้วยการแจกเงินไปวันๆ สวัสดิการที่ดี ต้องเป็นสวัสดิการที่ "สร้างโอกาสให้คนสามารถสร้างเงิน" การแจกเงินโดยไม่คิดจะสร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชนเป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้หากต้องการคำปรึกษาจากทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน เราก็ยินดี

1 ความคิดเห็น: