วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
"สุดารัตน์" ลงพื้นที่ประตูน้ำ ผู้ค้าเผยเศรษฐกิจย่ำแย่
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ประตูน้ำ ถนนเพชรบุรี เยี่ยมให้กำลังใจผู้ค้า ผู้ประกอบการ และผู้ซื้อ โดยเลือกเดินภายในซอยเพชรบุรี 21 เป็นซอยแรก นำสื่อมวลชนดูบรรยากาศการค้าภายใน หรือ ที่ผู้ประกอบการเรียก "ซอยนรก"
พร้อมสอบถามผู้ค้าผู้ประกอบการ พบว่า เศรษฐกิจซบเซามีผล ให้การค้าขายตกต่ำ ลูกค้าลดลงเกินกว่าครึ่ง ธนาคารไม่สนับสนุนสินเชื่อ เนื่องจากขาดความเชื่อมั่นในผู้ประกอบการ เป็นผลมาจากที่ผู้ประกอบการไม่สามารถค้าขายได้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
ยอดขายตกลงกว่าร้อยละ 80 เคยขายได้วันละหลายหมื่นบาท ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่พันบาท ผู้ประกอบการ ต้องติดป้ายให้เช่าร้าน ซึ่งพิจารณาจากกำลังซื้อที่หดหาย ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดน้อยลง ขณะเดียวกันทราบว่า ผลกระทบอีกส่วนหนึ่ง มาจากรถตู้บริการสาธารณะที่ย้ายสถานที่จอดด้วยเช่นกัน
ผู้ค้าสะท้อนด้วยว่าลูกค้าออนไลน์ ที่รับซื้อเสื้อผ้าจากการขายส่ง ก็ถูกเข้มงวดด้วยมาตรการทาง ภาษี เช่นเดียวกับปัญหาค่าเงินบาทแข็งตัว มีผลกระทบต่อยอดขาย เนื่องจากต้องพึ่งพาลูกค้าชาวต่างชาติ
ผู้ประกอบการจึงสื่อสารผ่านคุณหญิงสุดารัตน์ให้เรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า ขอให้ จัดการเรื่องการเดินทางที่ปลอดวีซ่า เช่นประเทศอินเดีย ประเทศจีนเพื่อให้เงินกลับมาสะพัดในประเทศไทยมากขึ้น
ผลจากสภาพเศรษฐกิจและการค้าที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า บางรายตัดสินใจจบชีวิต จากภาวะความเครียดสะสม
อีกหนึ่งร้านค้า ภายในซอย ตลาดประตูน้ำ ยืนยันตรงกันว่า ยอดขายตกลงกว่าร้อยละ 80 จึงต้องการให้รัฐเข้ามาแก้ไขปัญหาดึง ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศกลับคืนมา ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ ได้สวมกอดให้กำลังใจผู้ค้า ผู้ประกอบการด้วย
คุณหญิงสุดารัตน์เดินสอบถามผู้ค้าในตลาดเพิ่มเติม ซึ่งได้รับการยืนยันเช่นกันว่า การค้าขายตกลงกว่าร้อยละ 50 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือผู้ประกอบการชาวต่างชาติ ที่เคยมาอุดหนุนสินค้าลดน้อยลง การค้าโดยเฉพาะการส่งออกได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท ที่แข็งขึ้น ส่วนเรื่องภาษีอากร จากการค้าออนไลน์ ต้องการให้รัฐ ยืดหยุ่นกับผู้ประกอบการมากกว่าที่เป็นอยู่
อีกหนึ่งราย เป็นผู้ประกอบการจากตลาดสําเพ็ง ที่เดินทางมาสะท้อนปัญหาพร้อมสะท้อนความรู้สึกโดยระบุว่าไม่เคยเจอปัญหาการค้าขายลักษณะเช่นนี้มาก่อน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันซึ่งทำการค้ามากกว่า 20 ปี วันหนึ่งเคยค้าขายได้ 4-5หมื่นบาท ต้องพบกับความหดหู่ เพราะปัจจุบัน จะขายได้เพียงวันละไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น
อีกหนึ่งร้านภายในตลาดยอดขายตกเนื่องจากสินค้าไม่สามารถส่งออกได้เป็นผลมาจากค่าเงินบาทแข็งตัว ตลาดที่เคยส่งออกก่อนหน้า อย่างในประเทศเคนยา ก็ลดลงมาก
เช่นกันกับอีกหนึ่งร้านสะท้อนปัญหาว่ามีความแตกต่างจากการค้าในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่เคยค้าขายได้วันละหลายหมื่นบาท ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่พันบาท ลูกค้าชาวต่างชาติหาย เช่นเดียวกับลูกค้าที่เคยเดินทางมาจากต่างจังหวัดก็หายเช่นกัน เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ส่งผลกระทบถึงครอบครัวโดยเฉพาะภาระค่าเล่าเรียนของบุตรหลาน
ผู้ค้าอีกหนึ่งร้าน ยืนยันด้วยเหตุผลเดียวกันว่า สภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ซึ่งเป็นต่อเนื่องมากว่า5 ปี ทำให้ยอดขายที่เคยได้กว่าวันละนับแสนบาท เหลือไม่ถึง 30,000 บาท หรือบางวัน อาจขายได้เพียงหลักพันบาทเท่านั้น
ผู้ประกอบการเล่าต่อว่า ลูกค้าออนไลน์ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะจากคำบอกเล่า ทราบว่า ลูกค้าออนไลน์ที่มารับของที่ประตูน้ำ ยอดขายตกลงเนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ
ลูกค้าต่างจังหวัดที่เคยซื้อเป็นจำนวนมากก็ไม่เข้ามาซื้อเหมือนในอดีต ทำให้ทราบด้วยว่าสภาวะ เศรษฐกิจในต่างจังหวัดก็ประสบปัญหาเช่นกัน
คำยืนยันจากผู้ประกอบการอีกราย ระบุว่าค่าเงินบาทแข็ง ก็มีผลให้ลูกค้า ในกลุ่มของมาเลเซียกัมพูชา โมซัมบิก ยกเลิกการ นำเข้าสินค้าของผู้ประกอบการในประเทศไทย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น