พรรคเพื่อไทยประกาศปฏิรูปใหญ่ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม
ด้วยยุทธศาสตร์ “คิดใหม่ ทำไว” ตั้งเป้าหมาย เป็นพรรคแรกที่รู้ปัญหาของประชาชน เป็นพรรคแรกที่มีผู้เชี่ยวชาญเลือกมาช่วยเสนอแนวทางแก้ปัญหา สมาชิกทำงานได้อย่างคล่องตัวพร้อมสื่อสารและลงมือช่วยแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
20 มกราคม 2562 ณ
ที่ทำการพรรคเพื่อไทย กรุงเทพ สมาชิกพรรคเพื่อไทย นำโดย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์
หัวหน้าพรรค, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย,
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย, และ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.
พรรคเพื่อไทย ได้แถลงข่าว ถึงแผนการปฏิรูปพรรค
โดยจะปฏิรูปให้มีช่องทางต่างๆเชื่อมโยงกับประชาชนมากขึ้น มีรูปแบบการตั้งคณะทำงานขนาดเล็กเพื่อให้ติดตามประเด็นต่างๆของประชาชนได้คล่องตัวขึ้น
และเปิดกว้าง รับคนรุ่นใหม่เข้ามามากขึ้น
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวในหัวข้อ “new challenge: สถานการณ์ใหม่
เพื่อไทยต้องเปลี่ยน” ว่า หลังการเลือกตั้ง ประชาชนยังไม่อาจคาดหวังใดๆกับรัฐบาล
ที่เข้ามาบริหารประเทศในปัจจุบัน
ยังมิได้เห็นแนวทางการแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากให้พี่น้องประชาชนใหม่ใดๆ
การจัดวางตัวบุคคลเข้ามารับหน้าที่ เป็นรัฐมนตรี เพื่อบริหารประเทศ
ยิ่งไร้ความหวัง เป็นคนหน้าเดิมๆที่เคยล้มเหลวมาก่อน
ในขณะที่ปัจจุบันความท้าทายปัจจัยนอกประเทศเข้ารุมเร้า
เศรษฐกิจโลกยังคงมีแนวโน้มที่จะตกต่ำรุนแรงต่อไป
ด้วยพิษภัยจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
และการพัฒนาและการเจริญเติบโตของเทคโนโลยี
ตลอดจนองค์ความรู้ใหม่ๆที่เกิดขึ้นในโลกยุคปัจจุบัน
ซึ่งก่อให้เกิดผลตกกระทบที่รุนแรงอาจถึงขั้นบางรัฐล่มสลายและบางรัฐเกิดภาวะการเติบโตแบบก้าวกระโดดขึ้นได้
ระบบการบริหารจัดการรัฐ
มีทิศทางไปสู่รัฐที่รวมศูนย์อำนาจเป็น “รัฐราชการ”
ที่ขาดการรับรู้และขาดการมีส่วนร่วมของคนฝ่ายต่างๆในประเทศ
ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะรับมือวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นได้ รัฐที่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง
กระจายอำนาจให้ประชาชนต่างหาก ที่คือคำตอบ บริบททางการเมืองใหม่
ต้องสอดคล้องกับโลกที่ใช้ความเร็ว ในการแข่งขัน
ใช้ข้อมูลและฐานความรู้ในการต่อสู้ชิงความได้เปรียบ
เสียเปรียบของแต่ละประเทศ
ใช้รูปแบบและองค์ประกอบของเทคโนโลยีมาแข่งขันและเอาชนะกัน ใช้การกระจายอำนาจและการดึงการมีส่วนร่วมของประชาชน
เป็นฐานสำเร็จในการทำงาน
พรรคเพื่อไทยจึงจะต้องปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้น
ยังต้องยึดมั่น และยืนอยู่บนจุดยืนเดิมที่มั่นคง ที่พรรคเพื่อไทยยึดมั่นมาโดยตลอด
คือ “พรรคเพื่อไทย หัวใจคือประชาชน”
“พรรคเพื่อไทย“ ในฐานะพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน เป็นอันดับสูงสุด และมี “ผู้แทนประชาชน” มากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร แม้เราจะไม่อาจจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาบริหารประเทศได้ตามเจตนารมณ์ที่พี่น้องประชาชนมุ่งหวัง อันสืบเนื่องมาจากกลไกที่พิสดารที่ถูกตราไว้ในรัฐธรรมนูญปัจจุบัน เราก็จะทำหน้าที่ เป็น “ผู้แทนประชาชนในสภาฯ”อย่างสมศักดิ์ศรีและสมเกียรติยศ ที่ประชาชนมอบหมายให้ เราจึงเป็น ความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องสร้างความพร้อม เตรียมทุกสรรพกำลัง ให้สามารถรับมือ กับสภาพความท้าทายใหม่ๆที่กำลังเกิดขึ้นให้ได้
พรรคเพื่อไทยจึงขอประกาศ 6 สัญญา 4
แนวทาง จากพรรคเพื่อไทย ดังนี้
6 สัญญาต่อประชาชนคือ
1.เรายังคงยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง
2.เรายังคงยืนหยัดต่อสู้กับความอยุติธรรมทั้งปวง 3.เรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย
4.เรายังมุ่งหวังให้เกิดหลักนิติรัฐ นิติธรรม 5.เรายังยึดมั่นที่จะสร้างสังคมที่เคารพในสิทธิเสรีภาพ
และการแสดงออกของทุกฝ่ายในสังคม 6.เราอยากเห็นการกินดี อยู่ดี
และชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทยทุกคน
เพื่อบรรลุในเป้าหมายดังกล่าว
เราต้องทำตาม 4 แนวทาง คือ
1.
เราต้องปรับวิธีคิด กำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ ให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง 2. เราต้องเร่งสร้างวัฒนธรรมการทำงานและการเรียนรู้ในองค์ใหม่
ให้สามารถรับมือกับบริบทต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป 3. เราต้องปรับวัฒนธรรมองค์กรใหม่
ให้ตระหนักรู้และเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้น 4.
เราต้องสร้างกลไกและองคาพยพใหม่ ไปรับปรุงตัวเราให้เป็นคนทันสมัย สอดคล้องกับกาลเวลา
และเท่าทันการเปลี่ยนแปลง
นี่นับเป็นพันธกิจ
ที่สำคัญของพรรคเพื่อไทย เราจะขับเคลื่อนทุกองคาพยพ ของเราทั้งหมดไปด้วยกัน
ทุกชีวิตยังต้องเดินหน้า และต่อสู้ต่อไป ไม่ว่าสังคมจะซับซ้อน
และซ่อนเงื่อนเพียงใด เราจะต่อสู้ และอยู่เคียงข้างประชาชน “พรรคเพื่อไทย……หัวใจคือประชาชน”
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวในหัวข้อ “new culture: วัฒนธรรมองค์กรแบบ
Fast-track ทำให้เร็ว พลิกไทยให้ทันโลก” ว่า
ทุกวันนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลง
มีองค์ความรู้ใหม่ทุกวินาที รัฐบาลของประเทศต่างๆทั่วโลกมีการเตรียมความพร้อมให้ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก
แต่เมื่อหันกลับมามองประเทศไทย ตั้งแต่หลังการรัฐประหาร
เรากำลังถอยหลังอย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับ
อัตราเร่งให้ทันโลกของประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ
ทีมเพื่อไทยจะต้องรับภาระในการกอบกู้ความอยู่ดีมีสุข ของคนไทย สร้างอนาคต
และนำศักดิ์ศรีของประเทศไทยกลับคืนมาให้คนไทย เพื่อลูกหลานคนรุ่นใหม่ของเรา
จากการทำลายของเผด็จการมากว่า 5 ปีอย่างย่อยยับ
ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศกำลังเผชิญ
กับวิกฤต ภาวะเศรษฐกิจถึงขั้นหายนะ จากสภาวะราคาพืชผลเกษตรตกต่ำมาต่อเนื่องตลอดระยะ
5 ปีของการยึดอำนาจ
ซ้ำด้วยภัยแล้งที่หนักหน่วงมาก
กำลังซื้อคนหาย ร้านค้าเจ๊ง ตลาดเจ๊ง
ท่องเที่ยวทรุด ส่งออกตาย
จากค่าเงินบาท
และสงครามการค้า การลงทุนใหม่ๆ
จากภาคเอกชนน้อย เพราะขาดความเชื่อมั่น มองไม่เห็นอนาคตของเศรษฐกิจไทย 5
ปีมานี้คนจนยิ่งจนลง
คนชั้นกลางย่ำแย่ลงเหลือแต่ธุรกิจผูกขาดไม่กี่ตระกูลที่ได้รับอานิสงส์จากการปกครองของทหารในช่วง
5 ปีที่ผ่านมา
ทำให้รายได้มากขึ้นรวยขึ้นสวนทางกับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ประเทศไทยจึงกลายเป็นประเทศที่เหลื่อมล้ำอันดับ
1 ของโลก
แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายค้าน
แต่อยากให้พวกเรา #ทีมเพื่อไทย ได้ภาคภูมิใจว่า
ประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้เลือกที่จะให้ความไว้วางใจในการในการฝากอนาคตของคนไทยไว้กับเราเพื่อไทย จนเราได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 ด้วยพลังความรักที่ยิ่งใหญ่ของพี่น้องประชาชนที่มอบให้กับเรา
เราจะต้องเป็นพลังผลักดันให้เราต้องทำงานช่วยประชาชนให้สำเร็จ
โดยอาศัยประสบการณ์ที่สะสมตั้งแต่ครั้งไทยรักไทยแนวคิดอุดมการณ์ของดร.ทักษิณ
ชินวัตร ที่ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างมากมายและยังต้องการให้วันดีๆเศรษฐกิจดีๆ
อย่างสมัยไทยรักไทยกลับมา
เราจึงต้องปรับการทำงานของพรรคครั้งใหญ่ เพื่อรองรับการทำงานให้ประชาชน
บนบริบทใหม่ ที่เปลี่ยนแปลง
เพื่อไทยยุคใหม่ต้องผนึกกำลังคน 3 รุ่น ของเรา
และใช้จุดแข็งของทุกคนมารวมเป็นพลังในการทำงาน
และร่วมคิดร่วมทำกับประชาชนอย่างใกล้ชิดแบบ “ประชาชนคิดเพื่อไทยทำ"
เพื่อไทยยุคใหม่
ต้องสร้างค่านิยมในการทำงานใหม่แบบ Fast Track
จากคิดใหม่ทำใหม่ ไม่ทันแล้ว เพื่อไทยต้องเข้าสู่ยุค "คิดใหม่
ทำไว"
เพราะปัญหาปากท้องพี่น้องรอไม่ได้ ทุกข์ของคนไทยรอไม่ได้ ต้องเร่งแก้ไข
โดยเราจะจัดองค์กรใหม่
นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อนำปัญหาของประชาชนมาถึงพรรคได้รวดเร็ว
เปิดช่องให้ผู้เชี่ยวชาญ และคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วม ในการช่วยคิด ช่วยทำ
กับพรรคเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจรอช้าไม่ได้
เราต้องลงมือแก้ไขปัญหากับพี่น้องประชาชนในทันทีแม้จะไม่มีอำนาจ
ต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประชาชนทันที โดยไม่ต้องรอรัฐบาล
จากนี้ไปจะเป็นยุคลงมือแก้ไขปัญหาให้เป็นทันที ทำเป็นโมเดลให้ดูในพื้นที่ก่อน
แล้วค่อยนำไปพัฒนาเสนอเป็นนโยบาย
จากนี้ เราจะคิดแบบ fast track
จะคิดใหม่ทำไว โดยมีเป้าหมาย 3 ประการ
1.
คนทำงานของพรรคเพื่อไทยจะต้องเป็นคนแรกในพื้นที่รู้ปัญหาของประชาชนช่องทางสื่อสารต่างๆโดย
ใช้ช่องทางโซเชียล
ของคนทำงานของพรรคเพื่อไทยจะต้องเป็นสถานที่แรกที่ประชาชนนึกถึงเมื่อเขามีปัญหา
2. พรรคเราต้องเป็นตัวเลือกแรกที่คนที่มีความเชี่ยวชาญและมีความคิดดีๆจะเลือกมาเสนอแนะนโยบายต่างๆ
โดยอาศัยช่องทางต่างๆที่เราจะเปิดกว้างมากขึ้น
3.ต้องลงมือแก้ปัญหาของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมในทันทีโดยโครงการ
"นวัตกรรมแก้จน" ของพรรคเพื่อไทย
ที่เราจะร่วมกับประชาชนในพื้นที่ทำเป็นโมเดลตัวอย่างเช่นที่
"ทุ่งกุลาร้องไห้โมเดล” ที่จะเปลี่ยน”ทุ่งกุลาร้องไห้” เป็น “ทุ่งกุลามั่งมี”
หรือที่กรุงเทพฯ ที่เราต้องการสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน
ด้วยมรดกทางศิลปะวัฒนธรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนเอง
เพื่อสร้างเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยว เช่นที่เขตบางกอกน้อย
เราได้ทำคือ”บางกอกน้อยโมเดล” เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับประชาชน
คนทำงานของพรรคเพื่อไทย
ยุคใหม่จึงต้องพร้อมทำงานได้อย่างรวดเร็วคล่องตัว โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่
ทุกคนจะต้องมีช่องทางมีพื้นที่สื่อสารกับประชาชนของตัวเอง
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว ในหัวข้อ “new system: ปรับ รื้อ เปลี่ยน
โครงสร้างพรรคเพื่อไทย” ถึงแผนการเชิงรูปธรรมที่จะเกิดขึ้นภายใน 6
เดือนข้างหน้าว่า พรรคเพื่อไทยจะเริ่มการปฏิรูปให้เห็นเป็นรูปธรรมทันที ภายใน
6 เดือน โดยเราจะ ปรับ-เปลี่ยน โครงสร้างพรรคเพื่อไทย ตามแนวคิด “ประชาชนคิด
เพื่อไทยทำ” เราจะมีโครงการต่างๆ ที่จะช่วยเป็นเครื่องมือ
ให้พรรคเชื่อมต่อกับประชาชนได้มากขึ้น,
เปิดพื้นที่ให้ผู้เชี่ยวชาญและคนใหม่ๆมากขึ้น,
และพร้อมสำหรับการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในทันทีมากขึ้นโดยในหกเดือนแรก
เราจะทำให้เสร็จทันทีอย่างน้อย 3 โครงการ
โครงการแรก เราจะเปลี่ยนพื้นที่ทำการของพรรคเพื่อไทยให้เป็น
"open space เพื่อไทย” ที่ทำการของพรรคจะเป็นพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์
เป็นพื้นที่ทางปัญญา ซึ่งประชาชนจะเข้ามาพูดคุย เสวนา ใช้เป็นเวทีสาธารณะ
เป็นเวทีแสดงความคิดเห็น จัดนิทัศน์การเผยแพร่ความรู้ในการแก้ไขปัญหาต่างๆได้
จะมีสภากาแฟ ฟรีอินเตอร์เน็ต และห้องสมุดประชาชน
ประชาชนทุกคนสามารถเดินเข้ามาใช้งานได้
ที่ทำการพรรคเพื่อไทยจะเป็นห้องนั่งเล่นของประชาชน ถ้าคิดไม่ออก ไม่รู้ว่าจะไปไหน
พี่น้องสามารถมาพรรคเพื่อไทย / โครงการนี้เราจะเริ่มต้นนำร่องโดยที่ทำการพรรคใหญ่ก่อน
และจะขยายต่อไปยังจังหวัดต่างๆในอนาคต
ให้เป็นพื้นที่เรียนรู้ร่วมกันระหว่างคนเพื่อไทยกับประชาชน
เพื่อตอบโจทย์หลักคิดใหม่ “ประชาชนคิด เพื่อไทยทำ”
โครงการที่สอง เราจะริเริ่ม “คณะทำงานขนาดเล็ก”
ซึ่งจะจิ๋ว แต่แจ๋ว แต่ละทีมไม่เกิน 5 คน โดยจับกลุ่มกันตามความสนใจ
ทำงานติดตามในประเด็นต่างๆ อาจจะเป็นเรื่องนโยบาย
เรื่องติดตามปัญหาที่มีความสำคัญกับพี่น้องประชาชน
คณะทำงานต่างๆจะมีผลงานที่จับต้องได้ให้กับพี่น้องประชาชนภายใน 6 เดือน
โดยมีช่องทางสื่อสารอัพเดทกับพี่น้องอย่างใกล้ชิด
โครงการที่สาม “ยุทธศาสตร์ผูกเสี่ยว”
เราจะบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจของพี่น้องประชาชนในทันที แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นรัฐบาล
โดยการที่เราจะให้ผู้แทนในแต่ละพื้นที่ ทำหน้าที่เป็น “ผู้แทนการค้า” ด้วย
เราจะให้ผู้แทนของเราทำข้อมูลสินค้าของดีในชุมชน และจะหาทางจำหน่ายเพิ่มให้
เราจะนำมาวางขายในพื้นที่ "open space เพื่อไทย” และให้ความช่วยเหลือพี่น้อง
ให้นำสินค้าเหล่านี้วางขายในร้านออนไลน์ได้ โดยตั้งเป้าว่าจะต้องมีร้านค้าชุมชน
ที่เป็นตัวแทนเอาสินค้าของพี่น้องไปวางขายทางออนไลน์อย่างน้อย 300 แห่งภายใน 1 ปี
เพื่อให้มีเงินเข้ากระเป๋าพี่น้องโดยตรง
นอกจากนี้เรายังจะมีโครงการอื่นๆ
เพื่อช่วยเหลือทั้งพี่น้องประชาชน
และช่วยให้คนทำงานเพื่อไทยทำงานง่ายขึ้นอีกมากมาย
เช่นเราจะจัดให้มีการอบรมการสร้างช่องทางสื่อสารผ่านโซเชียลให้กับทีมงานของผู้แทนทุกคน
หรือทำเวทีรับฟังปัญหาของผู้ประกอบการ ค้าขายต่างๆ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ เราจะเริ่มต้นทำทันที
และจะทำให้สำเร็จเป็นรูปธรรมภายใน 6 เดือน
เพื่อเป้าหมายของเพื่อไทยยุคใหม่ตามแนวทาง “ประชาชนคิด เพื่อไทยทำ”
และจะต้องทำให้ไว ให้เป็นรูปธรรม
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.
พรรคเพื่อไทย กล่าว ในหัวข้อ “new blood: พลิกเพื่อไทย เพื่อประเทศไทยที่เราอยากเห็น”
ว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ได้มองคนรุ่นใหม่เป็น “กลุ่มเด็ก” หรือ “ตัวสำรอง”
แต่พรรคเพื่อไทยมองว่า คนรุ่นใหม่คือ "อนาคต" คือ"ความหวัง"
ของพรรคเพื่อไทย และของประเทศไทย
พรรคเพื่อไทยยังคงเป็นสถาบันทางการเมืองที่แข็งแกร่งดังเดิม โดยเสริมปีกใหม่ของคนรุ่นใหม่
มาเติมสีสันและแนวความคิดที่ทันสมัยขึ้นกว่าเดิม
โดยยังจะยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย และคำว่า พรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน
กลุ่มคนรุ่นใหม่ของพรรค
ได้เปิดตัวในชื่อกลุ่ม เพื่อไทยพลัส ซึ่งประกอบไปด้วย ส.ส. และผู้สมัคร
นักคิดนักวิชาการ และผู้ที่สนใจทางการเมือง จากพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ
และอีกหลายพรรคการเมือง และจากนี้พรรคจะมีโครงการที่จะ
เปิดให้เยาวชนสามารถสมัครเข้าเป็น เยาวชนพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะได้รับข่าวสาร
และเข้าร่วมกิจกรรม/โครงการต่างๆของพรรคได้
โครงการแรก สำหรับคนรุ่นใหม่
สำหรับพรรคคือ “คณะทำงานขนาดเล็ก” เราคาดหวังว่าคนรุ่นใหม่ๆ
จะมีกลุ่มการทำงานในหัวข้อใหม่ๆ ที่เราคาดไม่ถึง
วันนี้กลุ่มเพื่อไทยพลัสก็เริ่มในบางส่วนแล้ว เช่นกิจกรรม esport
กิจกรรมเข้ารับฟังปัญหากลุ่มนิสิตนักศักษาและอาชีวศึกษา การประชุมในประเด็นต่างๆ
เช่น lgbtq สิทธิมนุษยชน esport smart-farming digital-economy
และพรรคเพื่อไทยจะเริ่มโครงการ “สภาจำลองของเยาวชนพรรคเพื่อไทย”
สำหรับน้องๆเยาวชนที่อยู่ในวัยเรียน โครงการนี้
จะจัดให้มีสภาจำลองขึ้นในจังหวัดต่างๆ โดยให้นักเรียนที่มีแนวคิด มีนโยบาย ต่างๆ
สมัครเข้ามา เพื่อให้มาอภิปรายในสภาจำลองได้อย่างเสรี โดยพรรคจะช่วยเป็นเสมือนโคช
และเป็นผู้ดำเนินการประชุม เพื่อให้เยาวชนเรียนรู้การทำงานของระบบรัฐสภา
และให้พรรคเพื่อไทยรับรู้ถึงแนวคิดใหม่ๆของประชาชน เพื่อนำมาทำเป็นนโยบายต่อไป
พรรคเพื่อไทยและทีมเพื่อไทยพลัส จะไม่ใช่แค่ก้าวทันโลกด้วยเทคโนโลยี แต่จะมองหาโอกาสใหม่ๆ
ที่เป็นไปได้และทำได้จริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น