ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง กล่าวว่า หลังจากได้ฟังคำสัมภาษณ์ของ ผบ.ทบ. แล้ว ตนไม่ติดใจในเรื่องคดีลอบวางระเบิดและจะปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ แต่ตนข้องใจเรื่องทฤษฎี Mastermind ของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ว่าท่านครอบคลุมถึง Mastermind หรือ “จอมบงการ” ที่มีอยู่เต็มกองทัพด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยที่ พล.อ.อภิรัชต์ บอกว่า Mastermind ที่บ่อนทำลายประเทศ มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทั้งในประเทศ ต่างประเทศ และในโลกออนไลน์ แต่ท่านกลับไม่ได้พูดถึง Mastermind หรือ จอมบงการในกองทัพเลย ทั้ง ๆ ที่ ใคร ๆ ก็เห็นว่า ที่ผ่านมา บทบาททางการเมืองของกองทัพนั้นเด่นชัดกว่าบทบาทด้านการป้องกันประเทศ ไม่ว่าจะเป็น การสมคบคิดกันยึดอำนาจ ช่วยกันโกงเลือกตั้ง หรือ ทำเสมือนเป็นผู้จัดการช่วยตั้งรัฐบาลทั้งในค่ายทหารและนอกค่ายทหาร โดยใช้อำนาจและอิทธิพลล็อบบี้ให้ ส.ว.สรรหา และพรรคการเมืองต่างๆ ย้ายขั้วเพื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นนายกฯ อีกรอบ ทั้ง ๆ ที่ มันสวนทางกับเจตนารมณ์ของคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ ที่เทคะแนนเสียงส่วนใหญ่ให้พรรคการเมืองที่ประกาศว่าจะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ
นอกจากนี้ พล.อ.อภิรัชต์ จะบอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นนักการเมืองได้อย่างไร ในเมื่อตัวท่านก็เป็น ส.ว.สรรหา ที่สำคัญ พล.อ.อภิรัชต์ ไม่ควรพูดว่าการเมืองต้องเล่นในสภาเท่านั้น เพราะที่ถูกต้องแล้ว การเมืองเป็นเรื่องของประชาชนทุกคนที่อยู่นอกสภาด้วย อย่าไปมองว่าประชาชนมีประโยชน์เฉพาะตอนหย่อนบัตรเลือกตั้งแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น แต่ต้องให้ประชาธิปไตยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของประชาชนด้วยจึงจะถูกต้อง มันหมดสมัยแล้วที่จะให้ประชาชนเกี่ยวข้องกับการเมืองแค่สี่ปีครั้งตอนอยู่ในคูหาเลือกตั้งเท่านั้น แต่ประชาชนควรมีส่วนร่วมในการทำงานของผู้แทนฯ ในสภาได้อย่างสม่ำเสมอ และต้องมีช่องทางในการสะท้อนความคิดเห็นในประเด็นสำคัญๆ ของบ้านเมืองผ่านทางสื่อต่าง ๆ เพื่อเป็นกลไกถ่วงดุลตรวจสอบการทำงานของผู้แทนในสภาด้วย อันที่จริง แทนที่ พล.อ. อภิรัชต์ จะบอกให้การเมืองเล่นกันอยู่แค่ในสภา ควรหันไปบอกให้ทหารอยู่แค่ในกองทัพ อย่าออกมาเล่นการเมืองจะดีกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น