วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

"ชุมสาย"​ เตือน​ สภาผู้แทนฯ​ ไม่ใช่สภากลาโหม

"ชุมสาย"​ เตือน​ สภาผู้แทนฯ​ ไม่ใช่สภากลาโหม วอนประธานสภาฯ​ จริงใจ​ เตือนระวังประชาชนให้บทเรียนรอบสอง



นายชุมสาย​ ศรียาภัย​ รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่าเหตุการณ์ เมื่อวันที่​ 27 พ.ย.2562 ที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจากการใช้มาตรา 44 ที่พรรคฝ่ายรัฐบาลได้แพ้โหวตพรรคฝ่ายค้าน​ 4​ เสียง​และมี​ สส.ฝ่ายรัฐบาล​ 6​ คนโหวตเห็นชอบ โดย​ มี​ สส.บางคนขอให้นับคะแนนใหม่​ ซึ่งเกิดกรณีสภาล่มในการ ประชุมเพื่อพิจารณา เรื่องดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2​ ในวันที่ 28   พฤศจิกายน 2562 อีกครั้ง​ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ควรเกิดขึ้นเลย​ การกระทำดังกล่าว ดูประหนึ่งว่า เป็นการพยายามปกป้อง ผู้ที่ใช้อำนาจตามมาตรา 44 มากกว่าการพยายามศึกษาผลกระทบการใช้ ม.44​ จึงเห็นว่าสภาผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติไม่ใช่สภากลาโหม​ ที่จะต้องเกรงใจหรือเกรงกลัวผู้ใด


"จริงๆ​ มันจบไปแล้ว​ ฝ่ายค้านชนะ​ 234/230 เสียง​ การที่มี  สส.กล่าวอ้างว่ามีความสับสนเล็กน้อย หรืออาจเกิดความผิดพลาด คงเป็นเพียงข้ออ้างลอยๆ ซึ่งแม้ประธานสภาฯ​ จะอ้างว่าข้อบังคับการประชุมสภาฯ​ ให้อำนาจกระทำได้ หากคะแนนห่างกันไม่เกิน 25 เสียง แต่น่าจะผิดไปจากธรรมเนียมและวิธีปฏิบัติ ซึ่งหากมีความจริงใจและเห็นแก่ความเสียหายอันเกิดจากผลพวงการบังคับใช้​ ม.44.ที่มีผลกระทบต่อประชาชนก็ควรเคารพผลคะแนน ที่มีการโหวตไปแล้วในวันที่ 27  ไม่มีเหตุผลใดต้องนับคะแนนใหม่อีก หากไม่มีเจตนาหรือวาระซ่อนเร้นประการอื่น"

นายชุมสายฯ​ กล่าวต่อว่า กรณีที่เกิดขึ้น  มีความน่าสงสัยว่าประธานรัฐสภาฯ​ มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาหรือไม่​ หรือมีเจตนาทำเพื่อใคร​ หรือต้องเกรงใจใครหรือไม่? 
 
"กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา การศึกษาผลกระทบจากการใช้มาตรา 44  ถ้าท่านมีความ จริงใจ​ ตั้งใจจะไม่ต้องมีการนับคะแนนใหม่​หรือประชุมใหม่อีก พฤติการณ์ที่เห็น  ไม่น่าเชื่อว่าท่านมีความตั้งใจแก้ปัญหา​ คงเป็นเพียงการซื้อเวลาต่อลมหายใจให้ผู้มีอำนาจ และ ยึดประโยชน์ทางการเมืองของพรรคตนเป็นที่ตั้ง คงไม่ได้นึกถึงประชาชนแต่อย่างใด​ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ประชาชนอาจจะให้บทเรียน อีกครั้งในการเลือกตั้งคราวถัดไป"  นายชุมสายฯ​ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น