นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความส่วนตัวของอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
จากการที่ท่านอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ได้เปิดความในใจต่อสาธารณะ ในกรณีถูกกรมบังคับคดี ยึด และนำทรัพย์สิน ออกขายทอดตลาด และจากถ้อยแถลงของกรมบังคับคดี ฉบับที่ 33/2562 แล้ว
ผมในฐานะทนายความที่มีส่วนรับผิดชอบในคดีนี้ ขอให้ข้อมูล เกี่ยวกับการเรียกให้อดีตนายกยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 35,717,237,028.23 บาท และกรมบังคับ ยึด และขายทรัพย์สินของอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ดังนี้
1.ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีจำนำข้าว ไม่มีคำพิพากษาตอนใดระบุว่า อดีตนายกยิ่งลักษณ์ ทุจริตหรือให้ชดใช้ค่าเสียหาย
2. แต่การเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 35,717,237,028.23 บาท เป็นผลมาจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ยึดอำนาจจากอดีตนายกยิ่งลักษณ์มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการความรับผิดทางละเมิดมาคิดค่าเสียหาย โดยคณะกรรมการล้วนแต่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพลเอกประยุทธ์ และถูกคุ้มครองโดย มาตรา 44 ปัจจุบันคณะกรรมการหลายคนก็ได้ตำแหน่ง สว.
3. และการที่กรมบังคับคดี ดำเนินการยึดและขายทรัพย์สิน ของอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ก็เป็นผลมาจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ยึดอำนาจจากอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ใช้มาตรา 44 ให้กรมบังคับคดี ทำการยึด อายัด ทรัพย์สิน ซึ่งตามถ้อยแถลงของกรมบังคับคดีฉบับที่ 33/2562 ได้ยอมรับแล้วว่า กรมบังคับคดียึดและขายทรัพย์สินเป็นไปตามคำสั่งมาตรา 44 ซึ่งโดยปกติแล้ว กรมบังคับคดี จะยึด และขายทรัพย์สิน ได้ต่อเมื่อมีคำพิพากษาของศาลแล้วเท่านั้น
4.ปัจจุบันคดีในเรื่องการให้ชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 35,717,237,028.23 บาท นั้น อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล
การใช้อำนาจตาม มาตรา 44 จึงไม่ควรเกิดขึ้นกับใคร ที่ต้องมาถูกยึดและขายทรัพย์สิน ทั้งๆที่ ยังไม่มีคำพิพากษาของศาล ก็ขอให้สังคมช่วยตรองกันครับว่า ตกลงแล้วเราจะยอมให้ผลของ มาตรา . 44 ที่เกิดจากคำสั่งของคนๆเดียว ทำอะไรก็ได้ โดยไม่ผ่านกระบวนการของศาล มีผลบังคับอยู่ อย่างนั้นหรือครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น