ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฏร โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
วันนี้ผมพร้อมด้วยคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ ต.คำโตนด อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี หลังได้รับการ "ร้องเรียน เรื่องคัดค้านการให้ประทานเหมืองแร่ทรายแก้ว"
หลังได้รับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้านทุ่งสบก ซึ่งได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมเพื่อร้องเรียนคัดค้านการให้ประทานบัตรเหมืองแร่ทรายแก้ว ซึ่งมีบริษัทสินทรัพย์ธรรมชาติ ได้ขอประทานบัตรเหมืองแร่ทรายแก้ว จำนวน 3 ใบ คือคำขอประทานบัตรที่1-3/2560 แต่ในการประชุมประชาคม บ้านทุ่งสบก ม.10 ต.คำโตนด ในวันที่ 24 ต.ค.62 ณ ศาลาประชาคม ไม่เห็นด้วยกับการขอประทานบัตรของบริษัทดังกล่าว
ข้อเรียกร้องของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ จากการขอประทานบัตร เช่น อยู่ใกล้หมู่บ้านหลายหมู่บ้าน หากมีการสัมปทานจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่อยู่อาศัย และการประกอบอาชีพของประชาชน เหมืองแร่ทรายแก้วตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมที่จะทำเหมืองแร่ทรายแก้ว ตั้งอยู่ในเขตที่แห้งแล้ง ราษฎรในพื้นที่จะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตรทุกปีในฤดูแล้ง
การทำเหมืองแร่ทรายแก้วเป็นกิจกรรมที่ใช้น้ำมากและเป็นกิจกรรมมาเปิดหน้าดิน จะส่งผลกระทบต่อธรณีวิทยาและอุทกวิทยาและขาดน้ำได้
ผมและคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมได้พิจารณาศึกษาและสอบหาข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวและลงพื้นที่พบประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ได้รับการชี้แจงจากส่วนที่เกี่ยวข้องจากส่วนอุตสาหกรรมว่า การขออนุญาตประทานบัตรเหมืองแร่ทั้ง 3 ใบ ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการขอประทานบัตร "ยังไม่มีการอนุญาตให้สัมปทานแต่อย่างใด"
แต่เมื่อมีการคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบ หน่วยงานที่เป็นผู้ให้อนุญาตจึงควรรับฟังความคิดเห็นในการพิจารณาและทบทวนหากจะพิจารณาอนุญาตให้ประทานบัตรเหมืองหิน ต้องมีเหตุผลที่เพียงพอและสามารถชี้แจงให้ประชาชนในพื้นที่เข้าใจได้
"การทำการใดๆที่เกิดขึ้นมายังส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เพื่อศึกษาและพิจารณา รวมทั้งต้องผ่านประชาคม รับฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ คณะทำงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งกรรมาธิการจะดูแลเรื่องนี้และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายครับ"
วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์
ประธาน คณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม
สภาผู้แทนราษฏร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น