ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ ว่า ตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมามีการปล่อยข่าวว่าตนมีการเจรจารับผลประโยชน์กับรัฐมนตรีบางคน ตนขอสาปแช่งคนปล่อยข่าวและออกข่าว เพราะบนความจริงเป็นไปไม่ได้ ที่ตนชี้แจงให้สื่อทราบเพราะต้องการบอกว่าไม่มีซูเอี่ย ไม่มีการเจรจา มีแต่การอภิปรายข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่เหมาะที่จะบริหารประเทศต่อไปอีกแล้ว ส่วนจำนวนบุคคลที่จะถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ขณะนี้ตนยังไม่ทราบว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจใครบ้าง แต่ตนเสนอไว้ 5 คน ซึ่งใน 5 คนนี้หากมีคนสนใจอภิปรายในเรื่องที่กำหนดไว้ หัวหน้าพรรคก็จะส่งคนนั้นมาฝึกปรือกับตนเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ในส่วนพรรคอื่นก็แล้วแต่พรรคพิจารณา มั่นใจว่ารัฐมนตรี 5 คน ที่เปิดเผยชื่อไปแล้วนั้น คณะกรรมการฯมีข้อมูลพร้อม ยืนยันว่าไม่มีการใส่ร้ายป้ายสี และไม่มีเรื่องส่วนตัวอย่างแน่นอน โดยหลังคณะกรรมการฯกำหนดรายละเอียดการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้แล้ว ขั้นต่อไปจะเสนอหัวหน้าพรรค เพื่อนำเข้าที่ประชุมพรรคว่าเห็นด้วยหรือไม่ จากนั้นหัวหน้าพรรคจะประชุม 7 พรรคร่วมเพื่อสรุปมติ โดยเบื้องต้นกำหนดไว้ว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันพุธที่ 29 มกราคม คาดว่าจะมีจำนวนคนมากกว่า 7 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือของหัวหน้าพรรค รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ร่วมอภิปรายในครั้งนี้ด้วย จึงทำอะไรได้ไม่เต็มที่ แต่มั่นใจว่าชกเพียงครึ่งหมัดก็สามารถทำให้ชนะได้
ขณะที่ ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช กรรมการกิจการพิเศษ ในฐานะ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ พรรคเพื่อไทย กล่าวเพิ่มเติมในระหว่างการแถลงข่าวว่า ในเรื่องของปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ซึ่งเป็นนโยบายแห่งชาติตั้งแต่ปี 2562 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข เพราะเรื่องนี้ส่งผลโดยตรงกับสุขภาพของประชาชน หากรัฐบาลไม่รีบดำเนินการอาจจะต้องเพิ่มเป็นอีกหนึ่งหัวข้อของการอภิปรายในครั้งนี้ โดยที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้เสริมว่า ว่า “ถ้ารัฐบาลแก้ไม่ได้ก็ให้ออกไป”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น