ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
รัฐบาล เตรียมให้คนถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือ "บัตรคนจน" จำนวน 14.6 ล้านคน ไปลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงความสับสนและย้อนแย้งเกี่ยวกับนโยบายแก้ความยากจนของรัฐบาลเอง
เพราะจากเดิมช่วงริเริ่มโครงการเมื่อปลายปี 2560 มีตัวเลขผู้ได้รับสิทธิ์บัตรคนจน 11 ล้านคน จากตัวเลขคนจนเมื่อปี 2559 ที่มีเพียงประมาณ 6 ล้านคนเท่านั้น
ซึ่งตัวเลขคนจนที่เพิ่มขึ้นนี้ เกิดขึ้นทั้งจากเกณฑ์การคัดคนเข้าโครงการที่หละหลวมเกินไป
จนมีคน “จนไม่จริง” ได้รับสิทธิ์เป็นจำนวนมาก และจาก "คนจนจริง" ที่ทยอยเพิ่มสูงขึ้นจากการ #บริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลว
ต่อมาปลายปี 2561 ครม.มีมติให้จัดตั้งหน่วยงานกลางเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจน ก่อนที่กรมบัญชีกลางจะแจกบัตรคนจนเพิ่มอีก 3.04 ล้านใบในวันที่ 21 ธันวาคม 2561 โดยให้มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2562 ทำให้ตัวเลขคนจน เพิ่มขึ้นจาก 11 ล้านคนเป็น 14.6 ล้านคนทันที
“ตัวเลขคนจนที่เพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 ใครๆ ก็มองออกว่า การแจกเงินผ่านโครงการดังกล่าวเป็นการหวังผลทางการเมือง แต่เมื่อการเลือกตั้งผ่านไป ตัวเลขคนจนที่มีมากถึง 14.6 ล้านคน กลับกลายเป็นหอกทิ่มแทงรัฐบาลเอง เพราะมันกลายเป็นว่า รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ความยากจนได้ แม้จะใช้งบฯ จำนวนมหาศาลไปแล้วก็ตาม”
"ตอนนี้ รัฐบาลต้องลดตัวเลขคนจนลง ซึ่งอาจจะด้วยเพราะเงินไม่พอแจก หรือต้องการนำตัวเลขมาอ้างเป็นผลงาน แต่เป็นการลดลงด้วยวิธีการเปลี่ยนหลักเกณฑ์การประเมินใหม่ ดังนั้นจึงไม่ใช่มาตรการแก้ไขทางเศรษฐกิจที่ถูกต้อง
การใช้เกณฑ์การวัดรายได้ส่วนบุคคลมาเป็นเกณฑ์การวัดรายได้ของครอบครัว กำลังจะไปพรากสิทธิ์ของคนที่เคยได้รับบัตรคนจน ให้ไม่ได้รับสิทธิอีกต่อไป จึงเป็นการลดจำนวนคนจนได้แต่เพียงตัวเลข โดยที่คนจนเหล่านี้ไม่ได้หายจนจริงๆ ถือว่าย้อนแย้งกับความเป็นจริง และสะท้อนความล้มเหลวในการแก้ปัญหาความยากจน
#บัตรคนจน
#บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น