ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส น่าน พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
งบประมาณล่าช้า จากความผิดซ้ำซาก ส.ส รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ
วันนี้ มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ตามคำบังคับของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้สภาฯ พิจารณาลงมติในวาระที่ 2 วาระที่ 3 และข้อสังเกตุของกรรมาธิการฯให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ
พรรคร่วมฝ่ายค้าน 6 พรรค ประกาศเจตนารมย์ชัดเจนว่าไม่ขอร่วมพิจารณา เนื่องจากเห็นว่าคำบังคับของศาลรัฐธรรมนูญ ออกเกินรัฐธรรมนูญกำหนด เป็นการก้าวล่วงดุลอำนาจของหลักการแบ่งแยกอำนาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและ ฝ่ายตุลาการ ซึ่งได้เสนอญัตติให้สภาฯพิจารณาเป็นเรื่องด่วนไม่เห็นด้วยที่จะต้องปฏิบัติตามคำบังคับของศาล ส่งให้ประธานสภาฯพิจารณาแจ้งศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว
ที่สำคัญต้นเหตุของความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเกิดจากการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันของส.ส ฝ่ายรัฐบาล จึงเป็นความรับผิดชอบของ ส.ส ฝ่ายรัฐบาลที่จะต้องทำหน้าที่ตามคำบังคับของศาลรัฐธรรมนูญให้ถูกต้อง ฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่ร่วมพิจารณาครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ในการพิจารณาตามวาระปกติ
ในการพิจารณาวันนี้เพื่อให้หน่วยงานราชการและพี่น้องประชาชนจะได้ใช้งบประมาณโดยเร็ว ฝ่ายค้านจึงร่วมเป็นองค์ประชุมทำให้เปิดประชุมได้เร็วเริ่มพิจารณาได้เร็วขึ้น ไม่คิดที่ขัดขวาง หรือถ่วงเวลา ไม่มีการวอล์คเอ้าท์ เพียงแต่ไม่ร่วมพิจารณาเท่านั้น
ความผิดซ้ำสอง เกิดขึ้นใน การพิจารณาลงมติในมาตรา 6 พบว่าองค์ประชุม ไม่ครบ หลังจากประกาศผลลงมติ ซึ่งถือว่าการลงมติสิ้นสุดลง มีสมาชิกลุกขึ้นทักท้วง ว่าองค์ประชุม ไม่ครบ ท่านประธานวินิจฉัยว่า องค์ประชุมให้ถือเอาตอนตรวจสอบองค์ประชุม ถือว่าครบ จึงให้พิารณาลงมติในมาตราต่อๆไป จนมีการพักประชุม
เริ่มประชุมใหม่ ท่านประธานแจ้งว่า มีสมาชิกทักท้วงเรื่อง องค์ประชุมไม่ครบ ในการลงมติ มาตรา 6 เกรงว่าจะมีปัญหา เลยให้สมาชิกปรึกษาหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร
ส่วนสาเหตุ ที่องค์ประชุมไม่ครบ ประธานวิปรัฐบาลให้เหตุผลว่า น่าจะเกิดจากความผิดพลาดของระบบอิเลคโทรนิค สมาชิกเสียบบัตรกลับด้าน หรือลืมกดคะแนน
ท่านผู้นำฝ่ายค้านและผม ได้หารือต่อท่านประธานเสนอให้สภาเริ่มต้นพิจารณาร่าง พ.ร.บ ใหม่โดยเริ่มต้นตั้งแต่ชื่อร่าง คำปรารภ มาตรา 1เป็นต้นไป เพราะการลงมติโดยองค์ประชุมไม่ครบใน มาตรา 6 ถือว่าไม่เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ทำให้การลงมติในวาระที่ 2 ที่ดำเนินการอยู่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญทั้งหมด
สุดท้ายที่ประชุมมีความเห็นให้เริ่มต้นพิจารณาใหม่ เป็นรายมาตรา โดยอ้างคำบังคับของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าต้องลงมติให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ส่วนที่ทำผิดพลาดไป ก็นำกลับมาแก้ไขให้ถูกต้อง
ความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีกบ่งถึงความไม่รับผิดชอบ ของ ส.ส ฝ่ายรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในกระบวนตราพระราชบัญญัติ ไม่ทักท้วงให้ถึงที่สุดเมื่อพบข้อผิดพลาด รีบแก้ไขให้เป็นไปตามข้อบังคับ
สิ่งที่ควรดำเนินการเมื่อพบว่า ผลการลงมติ มีองค์ประชุม ไม่ครบ ต้องไม่ประกาศผลการลงมตินั้นเพื่อจะได้นำมาพิจารณาลงมติใหม่ได้ เพราะขบวนการลงมติยังไม่สิ้นสุด และต้องปิดประชุมทันที
กรณีมีความจำเป็นที่ต้องประชุมต่อ ก็สามารถนัดประชุมในที่ประชุมได้ ในเวลาที่เหมาะสม เช่น 30 นาที เมื่อเปิดประชุมใหม่ก็เริ่มต้นการพิจารณาใน มาตรา 6 ให้ลงมติใหม่ได้
ในกรณีที่ไม่ปิดประชุม เป็นการประชุมต่อเนื่อง ก็ต้องกลับมาพิจารณาใหม่โดยเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด เพื่อป้องการตีความว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมสภาฯ ว่าต้องพิจารณาเรียงลำดับมาตราในวาระที่ 2 ซึ่งการพิจารณาในวาระปกติ ตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุม ไม่สามารถดำเนินการได้
ร่าง พ.ร.บ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จึงมีเหตุการณ์และบรรทัดฐานใหม่ๆเกิดขึ้น รอการถกเถียงกันในอนาคตต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น