วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

"ชลน่าน" เผย งบประมาณล่าช้า ความผิดซ้ำซาก รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส น่าน พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้


งบประมาณล่าช้า จากความผิดซ้ำซาก ส.ส รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ

วันนี้ มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ตามคำบังคับของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้สภาฯ พิจารณาลงมติในวาระที่ 2 วาระที่ 3 และข้อสังเกตุของกรรมาธิการฯให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ
พรรคร่วมฝ่ายค้าน 6 พรรค ประกาศเจตนารมย์ชัดเจนว่าไม่ขอร่วมพิจารณา เนื่องจากเห็นว่าคำบังคับของศาลรัฐธรรมนูญ ออกเกินรัฐธรรมนูญกำหนด เป็นการก้าวล่วงดุลอำนาจของหลักการแบ่งแยกอำนาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและ ฝ่ายตุลาการ ซึ่งได้เสนอญัตติให้สภาฯพิจารณาเป็นเรื่องด่วนไม่เห็นด้วยที่จะต้องปฏิบัติตามคำบังคับของศาล ส่งให้ประธานสภาฯพิจารณาแจ้งศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว

ที่สำคัญต้นเหตุของความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเกิดจากการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันของส.ส ฝ่ายรัฐบาล จึงเป็นความรับผิดชอบของ ส.ส ฝ่ายรัฐบาลที่จะต้องทำหน้าที่ตามคำบังคับของศาลรัฐธรรมนูญให้ถูกต้อง ฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่ร่วมพิจารณาครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ในการพิจารณาตามวาระปกติ

ในการพิจารณาวันนี้เพื่อให้หน่วยงานราชการและพี่น้องประชาชนจะได้ใช้งบประมาณโดยเร็ว ฝ่ายค้านจึงร่วมเป็นองค์ประชุมทำให้เปิดประชุมได้เร็วเริ่มพิจารณาได้เร็วขึ้น ไม่คิดที่ขัดขวาง หรือถ่วงเวลา ไม่มีการวอล์คเอ้าท์ เพียงแต่ไม่ร่วมพิจารณาเท่านั้น

ความผิดซ้ำสอง เกิดขึ้นใน การพิจารณาลงมติในมาตรา 6 พบว่าองค์ประชุม ไม่ครบ หลังจากประกาศผลลงมติ ซึ่งถือว่าการลงมติสิ้นสุดลง มีสมาชิกลุกขึ้นทักท้วง ว่าองค์ประชุม ไม่ครบ ท่านประธานวินิจฉัยว่า องค์ประชุมให้ถือเอาตอนตรวจสอบองค์ประชุม ถือว่าครบ จึงให้พิารณาลงมติในมาตราต่อๆไป จนมีการพักประชุม

เริ่มประชุมใหม่ ท่านประธานแจ้งว่า มีสมาชิกทักท้วงเรื่อง องค์ประชุมไม่ครบ ในการลงมติ มาตรา 6 เกรงว่าจะมีปัญหา เลยให้สมาชิกปรึกษาหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร
ส่วนสาเหตุ ที่องค์ประชุมไม่ครบ ประธานวิปรัฐบาลให้เหตุผลว่า น่าจะเกิดจากความผิดพลาดของระบบอิเลคโทรนิค สมาชิกเสียบบัตรกลับด้าน หรือลืมกดคะแนน

ท่านผู้นำฝ่ายค้านและผม ได้หารือต่อท่านประธานเสนอให้สภาเริ่มต้นพิจารณาร่าง พ.ร.บ ใหม่โดยเริ่มต้นตั้งแต่ชื่อร่าง คำปรารภ มาตรา 1เป็นต้นไป เพราะการลงมติโดยองค์ประชุมไม่ครบใน มาตรา 6 ถือว่าไม่เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ทำให้การลงมติในวาระที่ 2 ที่ดำเนินการอยู่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญทั้งหมด

สุดท้ายที่ประชุมมีความเห็นให้เริ่มต้นพิจารณาใหม่ เป็นรายมาตรา โดยอ้างคำบังคับของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าต้องลงมติให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ส่วนที่ทำผิดพลาดไป ก็นำกลับมาแก้ไขให้ถูกต้อง
ความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีกบ่งถึงความไม่รับผิดชอบ ของ ส.ส ฝ่ายรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในกระบวนตราพระราชบัญญัติ ไม่ทักท้วงให้ถึงที่สุดเมื่อพบข้อผิดพลาด รีบแก้ไขให้เป็นไปตามข้อบังคับ

สิ่งที่ควรดำเนินการเมื่อพบว่า ผลการลงมติ มีองค์ประชุม ไม่ครบ ต้องไม่ประกาศผลการลงมตินั้นเพื่อจะได้นำมาพิจารณาลงมติใหม่ได้ เพราะขบวนการลงมติยังไม่สิ้นสุด และต้องปิดประชุมทันที
กรณีมีความจำเป็นที่ต้องประชุมต่อ ก็สามารถนัดประชุมในที่ประชุมได้ ในเวลาที่เหมาะสม เช่น 30 นาที เมื่อเปิดประชุมใหม่ก็เริ่มต้นการพิจารณาใน มาตรา 6 ให้ลงมติใหม่ได้

ในกรณีที่ไม่ปิดประชุม เป็นการประชุมต่อเนื่อง ก็ต้องกลับมาพิจารณาใหม่โดยเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด เพื่อป้องการตีความว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมสภาฯ ว่าต้องพิจารณาเรียงลำดับมาตราในวาระที่ 2 ซึ่งการพิจารณาในวาระปกติ ตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุม ไม่สามารถดำเนินการได้

ร่าง พ.ร.บ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จึงมีเหตุการณ์และบรรทัดฐานใหม่ๆเกิดขึ้น รอการถกเถียงกันในอนาคตต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น